งาน Event ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่ทำให้ผู้ชมที่เข้ามาในงานได้อะไรกลับไป บางงานอาจจะเป็นความรู้ บางงานอาจจะเป็นความสุข รวมไปถึงการได้รางวัลจากการแข่งขันในงาน Event นั้น ๆ ไปครอบครอง วันนี้ UNLOCKMEN ได้ไปเจอเข้ากับ Event งานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญมันยังเป็น Event การแข่งขัน Rap Freestyle เช่นเดียวกับที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในประเทศไทยของเราอีกด้วย แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า งานนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งสถานที่ ทั้ง Theme งาน รวมไปถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันนั้น มีประโยชน์ต่อประชากรในประเทศของเค้ามากเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักกับงานที่มีชื่อว่า “2nd Oneh-Style Dungeon” กันเลยดีกว่า ระหว่างช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1945 – 1956 ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีในบริเวณ Shinjuku Ni-Chome ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งทำมาหากินของเหล่าโสเภณีทั้งหลาย หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า “ย่านโคมแดง” หลังจากการประกาศดังกล่าว ทำให้สถานบริการในย่านโคมแดง รวมถึงหญิงสาวหากินในแถบนั้น ค่อย ๆ
เรื่องของศาสตร์ความเชื่อ และเรื่องเร้นลับต่าง ๆ นั้น ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยชนิดติดแน่นจนแงะออกจากกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ผีสางนางไม้ นรกสวรรค์ นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การดูดวง ที่เป็นการพยากรณ์สิ่งต่าง ๆ ที่ยังไม่เกิดขึ้นหรือเพื่อให้รู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแบบล่วงหน้า ถ้าเจาะไปที่ศาสตร์ของ การดูดวง มันก็ยังถูกแยกออกไปศาสตร์ย่อย ๆ อีกหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น ดูลายมือ ดูวันเดือนปี ดูไพ่ ดูไฝ ดูอะไรก็ได้ที่หมอดูทั้งหมายกล่าวอ้างว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัว แต่มีศาสตร์การพยากรณ์อยู่อย่างหนึ่ง ที่ดูแล้วเหมือนจะมีเหตุและผลมากกว่าเพียงแค่การนั่งหลับตาเล่าเรื่องเท่านั้น นั่นก็คือการพยากรณ์นิสัยคนจากดวงดาวประจำราศีเกิด ที่เราบอกว่าศาสตร์การทำนายชนิดนี้ เป็นศาสตร์แห่งพยากรณ์ที่พอจะมีมูลความจริงอยู่มากกว่าศาสตร์การทำนายอื่น ๆ ก็เพราะว่า การทำนายทายทักจากดวงดาวนั้นเป็นการนำเอาข้อมูลในเชิงโหราศาสตร์และวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานกันและยังใช้เป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การวิเคราะห์พยากรณ์อยู่ด้วยเสมอ ไม่ใช่แค่คนปกติทั่วไปอย่างเรา ๆ ที่เชื่อในคำทำนายต่าง ๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะการทำนายนิสัยใจคอของบุคคลจากดาวประจำราศี เมื่อ FBI เปิดเผยสถิติจริงที่เป็นการนำวันเดือนปีเกิดของฆาตกรต่อเนื่องและคนที่อันตรายสุด ๆ แถมยังวิกลจริตผิดมนุษย์มนามาไล่เรียงดูแบบจริง ๆ จัง ๆ ว่าราศีใดกันที่มีแนวโน้มและโอกาสจะกลายเป็นฆาตรโรคจิตอำมหิตสุด ๆ บ้าง ซึ่งผลที่ได้ออกมานั้น ไม่น่าเชื่อว่า มันจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ 12. คนส่วนใหญ่มักพูดถึงคนที่เกิดในราศี เมถุน
UNLOCKMEN มีอัพเดทข่าวด่วนที่เป็นเรื่องใกล้ตัวกันกว่าที่คิด โดยบริษัท Eset ผู้พัฒนาโปรแกรมและแอป Antivirus ชื่อดัง อย่าง Nod32 ได้ประกาศการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ที่แฝงภัยมากันแบบไม่รู้ตัว ในชื่อว่า Turla โดยเจ้า Turla เนี่ย ปลอมตัวแฝงเป็นคอมเม้นท์ต่าง ๆ ใต้รูปใน Instagram โดยพุ่งเป้าไปที่คนดังหรือเหล่าเน็ทไอดอลที่มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดคนที่โดนก็คือ Instagram ของ Britney Spears ที่มีผู้ติดตามมากถึง 16.9 ล้านคน โดยหลักการทำงานของมันก็ง่ายแบบแทบเราไม่ทันสังเกตกันด้วยซ้ำ เพราะเหล่าคนดังเหล่านี้ เมื่อมีการโพสต์รูปแต่ละที มักจะมีคนเห็นและเข้ามาคอมเม้นท์เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว พวกแฮคเกอร์ก็หัวหมอ ทำการฝังโค้ดเอาไว้ในคอมเม้นท์เหล่านั้น ไปกับพวกแฮชแท็กที่ฝังโค้ด แบบ URL ของเว็บไซต์ คล้ายกับพวกลิงค์ย่ออย่าง Bit.ly หรือ Goo.gl ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าตัวไหนมีหรือไม่มีมัลแวร์ฝังไว้อยู่ เมื่อเราเผลอกดเข้าไปดู ก็จะทำให้มัลแวร์เหล่านี้ติดลงไปในเครื่อง จากนั้นก็จะขโมยข้อมูลของเราส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮคเกอร์ที่ตั้งไว้ และส่วนใหญ่ผู้ใช้งานที่โดนมัลแวร์ตัวนี้จะเป็นคนที่ใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นหลักมากกว่าพวกสมาร์ทโฟน แต่ยังไงก็วางใจไม่ได้อยู่ดี เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าข้อมูลของเราถูกเอาไปใช้ไหนทางไหน ตอนนี้จากการตรวจสอบ พบว่ายังไม่มีวิธีไหนสามารถแยกแยะได้ว่าแฮชแท็กที่เราเห็น อันไหนของจริง อันไหนมีมัลแวร์บ้าง เพราะฉะนั้นทางที่ป้องกันได้ดีและได้ผลที่สุด ก็คืออย่าคลิกลิงค์หรือแฮชแท็กที่เราไม่คุ้นเคย จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาตรงนี้
ในวันที่วงการคราฟต์เบียร์ไทยคึกคักมากขึ้น ๆ เรามีเบียร์ข้าวเหนียวมะม่วง เบียร์มะพร้าว และอีกหลาย ๆ เบียร์ กระแสการทำเบียร์จากทั่วโลกก็ก้าวไปไกลจนเรียกว่ามีส่วนผสมของแทบทุกอย่างมาทำเบียร์กันแล้ว แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรากำลังจะบอกว่านี่คือโปรเจคต์”from piss to pilsner” จากฉี่สู่เบียร์ ! เออ ใช้ฉี่ ทำเบียร์นี่แหละ! เพื่อลดปริมาณทรัพยากรอื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตเบียร์ลง แนวความคิดสุดรักษ์โลกด้วย เมาด้วยนี้จะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งตัดสินด้วยความอี๋ที่คุณคิดเอง ไปอ่านรายละเอียดพร้อม ๆ กันก่อน ก่อนจะเบือนหน้าหนี นี่ไม่ใช่แค่ความบ้าบิ่นที่อยู่ ๆ นึกจะหยิบจับอะไรมาทำเป็นเบียร์เลยอย่างที่เราคิด แต่ภายใต้ความพิลึกพิลั่นนี้ มาจากเจตนาที่ดีที่โฟกัสไปที่ความยั่งยืนทางการเกษตร ไม่ใช่อยู่ ๆ จะเป็นฉี่ที่ไหนก็ได้ เทใส่ขวดแล้วจบ กินเลย แต่มันมีกระบวนการของมันที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด โปรเจคต์นี้เกิดขึ้นจาก The Danish Agriculture & Food Council ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐที่รวบรวมหลาย หน่วยงานในอุตสาหกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของเดนมาร์กเข้าด้วยกัน ซึ่งอุตสาหกรรม การเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารถือเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก และยังมี Nørrebro Bryghus, Nordic craft
ถ้าหากพูดถึง Roulette สำหรับนักเสี่ยงโชคทั้งหลายคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับกงล้อหรรษาที่เคยให้โชคกับบางคนจนกลายเป็นอาเสี่ยมานักต่อนัก แต่ถ้าหากพูดถึง Russian Roulette บ้างล่ะ จะมีสักกี่คนที่รู้จักกับเรื่องราว และสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้คำเท่ ๆ ที่ฟังคุ้นหูคำนี้บ้าง Russian Roulette ก็เป็นเกมเสี่ยงโชคเช่นเดียวกับ Roulette นั่นแหละ เพียงแต่ Roulette ที่อยู่ใน Casino นั้น เป็นการเดิมพันด้วยเงินตรา ถ้าหากโชคร้ายแทงพลาดก็เสียเงิน โชคดีแทงได้ก็ได้เงิน แต่สำหรับ Russian Roulette นั้น เป็นเกมการเดิมพันที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต ถ้าหากคุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกมหรือการเล่นสิ่งที่มีชื่อว่า Russian Roulette นี้ มันเสี่ยงชีวิตและวัดใจผู้เล่นขนาดไหน คงต้องขออธิบายแบบง่าย ๆ ว่า เกมนี้อาจจะเป็นที่มาของวลีเด็ดอย่าง “โหดสัสรัสเซีย” ก็เป็นได้ นี่คือเกมที่ท้าทายโชคชะตา เล่นจริง ตายจริง ไม่มีการต่อเวลาพิเศษ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่ผู้แพ้จะเริ่มใหม่ เพราะลมหายใจของผู้แพ้จะต้องจบลงไปพร้อมกับเกม เรื่องที่เรากำลังจะนำมาเสนอต่อไปนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง และการใช้อาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงบอกเอาไว้ก่อนตั้งแต่ตรงนี้เลยว่า อย่าคิดจะนำไปทดลองเล่นกันเองเป็นอันขาด เพราะถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา มันไม่มีโอกาสจะให้คุณได้เริ่มใหม่เหมือนกับเกมอื่น
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าชีวิตเราทุกวันนี้เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียแบบแยกไม่ออก ทั้งการใช้เพื่อความบันเทิง ไปจนถึงการใช้ที่เชื่อมต่อกับการทำงานและชีวิตจริง จนเรียกได้ว่าถ้าวันไหนขาดโซเชียลมีเดียคู่ใจ ไม่ว่าจะเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์ เราอาจจะต้องลงแดงกันไปข้าง แม้ข้อดีของโซเชียลมีเดียจะมีมากจนใช้สองมือสองเท้านับยังไงก็นับไม่หมด แต่โซเชียลมีเดียก็มีด้านดาร์ค ๆ ที่คนใช้ต้องรับมือกับมันอยู่เช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลให้ Daniel J. Wilson และ Martin Adolfsson สองศิลปินตัดสินใจว่า มา กูจะทำแอปพลิเคชันต่อต้านโซเชียมีเดียแบบคูล ๆ ซะหน่อย! minutiae แอปพลิเคชันจากมันสมองที่สร้างสรรค์จน UNLOCKMEN ต้องยอมใจ กฎมีอยู่ว่า ไม่มีโปรไฟล์ ไม่มีการกดไลก์ ไม่มีการคอมเมนท์! อ้าว แล้วมันมีวิธีการใช้งานอย่างไรล่ะ? วิธีการก็ไม่ยาก จนเอาไปให้ปู่ย่าตายายเล่นแก้เหงาชิล ๆ ได้ เพราะใน 1 วัน จะมีการแจ้งเตือนจาก minutiae จำนวนหนึ่งครั้งถ้วน (เป็นการแจ้งเตือนแบบแรนด้อมงง ๆ เราจะไม่มีทางรู้ล่วงหน้าหรือจับจังหวะได้เลยว่า พี่แกจะส่งสัญญานมาตอนไหน) เมื่อสัญญานเตือนเด้งขึ้นมา หน้าที่ของชาวแอนตี้โซเชียลมีเดียอย่างเราก็คือต้องถ่ายรูปตรงนั้น เดี๋ยวนั้น วินาทีนั้น ทันที!
คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์เครื่องกีฬาชื่อก้องโลกอย่าง Nike และถ้ารู้จักแบรนด์อย่าง Nike แล้วก็คงจะไม่พลาดสโลแกนคุ้นหูที่เอาไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตอย่าง ‘JUST DO IT’ แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าสโลแกนดังนี่เองเป็นหนึ่งในหลักทางธุรกิจที่ Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike ใช้เป็นหนทางในการดำเนินธุรกิจของตัวเองมาด้วย ไม่ใช่แค่เป็นสโลแกนเท่ ๆ สำหรับแบรนด์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ‘JUST DO IT’ ไม่ได้เป็นหลักการทางธุรกิจเดียวที่ผู้ก่อตั้ง Nike ยึดถือ แต่เขายังมีบทเรียนทางธุรกิจอื่น ๆ ที่เขาเรียนรู้มาตลอดชีวิตของเขาและแชร์ลงในหนังสือ ‘Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike’ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกย่อขนาดมาให้อ่านง่าย ๆ ไว้ทำตามได้ 10 ข้อด้วยกัน มา มาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน 1.ใช้อายุช่วง 20 ให้คุ้ม ออกเดินทาง ค้นหา และเรียนรู้ซะ Phil Knight ใช้เวลาหลังเรียนจบไปกับการออกเดินทางเที่ยวรอบโลก ตอนนั้นเขาอายุ
เมื่อรักที่จะดื่มกินสังสรรค์ ก็คงเลี่ยงที่จะไม่เมาไม่ได้ ไหนจะอาการแฮงค์ตอนเช้า ๆ ที่หนีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพ้นสักที แต่มันจะดีแค่ไหนกันถ้ามีของแก้แฮงค์ที่ได้กินแล้วหวานเย็นชื่นใจไปด้วย ใช่ UNLOCKMEN กำลังพูดถึงไอศกรีมแท่งแก้แฮงค์เพื่อหนุ่มนักดื่มทุกคน ฟังดูแปลกแต่ก็น่าสนใจใช่ไหมล่ะ? Gyeondyo-bar คือชื่อของเจ้าไอติมแก้แฮงค์ซึ่งถูกคิดขึ้นโดยชาวเกาหลีใต้ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดื่มหนักที่สุดในแถบเอเชียแปซิฟิก โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2014 ระบุว่าคนเกาหลีใต้ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์เฉลี่ยแล้วคนละ 12.3 ลิตรใน 1 ปี! ว่ากันว่าที่เกาหลีใต้นอกจากเม็ดเงินที่สะพัดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมึนเมา อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ของแก้แฮงค์ทั้งหลายก็มีเงินหมุนเวียน 125 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ไล่ตั้งแต่ยาแก้แฮงค์ เครื่องดื่มเรียกกำลัง อาหารสำหรับแกแฮงค์โดยเฉพาะ ไปยันเครื่องสำอางค์ที่ไว้ปกปิดอาการแฮงค์บนใบหน้า แต่นี่ก็นับเป็นอีกก้าวใหม่ของวงการผลิตภัณฑ์แก้แฮงค์แห่งเกาหลีใต้ เมื่อร้านสะดวกซื้อได้นำเสนอไอติมแท่งแก้แฮงค์สำหรับนักดื่มทั้งหลาย สำหรับคนที่สงสัยว่าไอติมแท่งแก้แฮงค์นี้จะมีรสชาติเป็นอย่างไร? ผู้ผลิตก็เปิดเผยออกมาว่ามันจะเป็นไอติมแท่งรสเกรปฟรุตที่มีส่วนผสมของลูกเกดซึ่งเป็นเคล็ดลับในการแก้อาการเมาค้างของคนเกาหลีมาตั้งแต่ ทศวรรษที่ 1600 ซึ่งก็ตรงกับงานวิจัย Dihydromyricetin As a Novel Anti-Alcohol Intoxication Medication ที่ระบุว่าสารสกัดจากลูกเกดนี้ช่วยลดความเมาจากการทดลองกับหนูได้ ส่วนที่มาของชื่อ Gyeondyo-bar ซึ่งแปลได้ว่า “ค้างอยู่บนนั้น” ผู้ผลิตเขาต้องการสื่อถึงความยากลำบากของคนทำงานทั้งหลายที่ต้องมาทนทุกข์กับอาการเมาค้างเติ่งหลังจากที่ไปดื่มมาอย่างหนักตลอดคืน Gyeondyo-bar ไอติมแท่งแก้เมาค้างจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ที่ต้องมาทำงานตอนเช้า ทั้ง ๆ ที่ดื่มหนักมาก อ่านจบแล้วก็อยากจะลองหาไอติมแท่งแก้อาการเมาค้างกินดูบ้างเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีสักแค่ไหน
เหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft และมหาเศรษฐีชื่อดังมักจะแชร์หนังสือที่เขาอ่านให้กับผู้คน เพราะความรักในการอ่านของเขาและความต้องการหามุมมองใหม่ ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ หนังสือที่เขาแนะนำจึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปหลากหลายประเภท แต่สำหรับเซ็ตนี้ Bill Gates จัดเต็มด้วยหนังสืออัตชีวประวัติเป็นส่วนใหญ่ ที่ UNLOCKMEN ขอรับรองว่าการที่เราได้อ่านชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนั้นยิ่งช่วยให้เราเห็นมุมมองใหม่ ๆ แบบที่เราอาจไม่เคยมองมาก่อนได้แน่นอน “Hillbilly Elegy” by JD Vance JD Vance เป็นอีกหนึ่งนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน เขาเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตวัยเด็กและการเติบโตมาอย่างยากจนของตัวเองในเมืองห่างไกลแถบเทือกเขา Appalachia ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวความยากลำบากในชีวิต ทั้งช่วงเวลาสุดโหดและช่วงเวลาดี ๆ ที่เขาพบเจอ รวมถึงสอดแทรกมุมมองของเขาที่มีต่อวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ซับซ้อน เนื่องจากเขาถูกพ่อแม่ปล่อยไว้ให้อยู่กับปู่และย่า จนกระทั่งการฟันฝ่าจนเขาสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนกฎหมาย Yale ได้ Bill Gates บอกว่าความมหัศจรรย์ของหนังสือเล่มนี้นอกจากประเด็นความซับซ้อนทางวัฒนธรรมและปัญหาครอบครัวที่ลึกซึ้ง ก็คือการที่ Vance มีความกล้าหาญมากพอที่จะลุกขึ้นมาพูดถึงอดีตด้วยตัวของเขาเอง “A Full Life” by Jimmy Carter Jimmy Carter หรืออดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ภายในเล่มบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตมาจากชนบท
เพราะขึ้นชื่อว่ารอยสัก มันก็ต้องเป็นอะไรที่อยู่ติดตัวเราไปจนตายอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าพวกรอยสักมักจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปเสมอ อย่างที่ UNLOCKMEN เคยเขียนไว้หลายต่อหลายครั้ง ในเรื่องเกี่ยวกับรอยสัก โดยเพื่อนๆ สามารถไล่อ่านข้อมูลเกี่ยวกับที่ทางเราเคยเขียนได้ ที่นี่ และวันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงอะไรเก่าๆ แต่จะมานำเสนอรอยสักรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในแบบที่ไม่เหมือนกับที่เคยมีมา แถมเหมาะสำหรับคนที่รักเสียงเพลงและดนตรีเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย จะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน ลองมาดูกัน Skin Motion ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นแพลตฟอร์มด้านศิลปะ ที่นำมาผสมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AR โดยเป็นการเปิดตัว Soundwave รอยสักรูปแบบใหม่ที่ฝังโค้ดเพลงเข้าไปในลาย! ซึ่งแค่เพียงเรายกมือถือขึ้นมาส่องบนลาย Soundwave มันก็จะทำการเล่นเพลงให้เราฟังได้ทันที โดยไอเดียสุดเจ๋งอันนี้มีแนวคิดเริ่มต้นมาจากรอยสักนักเต้นตัวน้อยของเอลตัน จอห์น ที่อยู่ๆ ในวงสนทนา แฟนของ Nate Siggard ก็พูดขึ้นมาแบบลอยๆว่า มันจะเจ๋งแค่ไหนเนี้ย ถ้าเราสามารถฟังเพลงผ่านรอยสักพวกนั้นได้ ไม่รอช้า ทางทีมผู้พัฒนาก็ได้เกิดไอเดียบรรเจิด จัดการรวมทีมพัฒนาจนออกมาเป็นเทคโนโลยีรอยสักนี้ และได้ทำการอัดคลิปเผยแพร่ลงสู่สายตาทั่วโลก ผ่านทาง Youtube (ดูได้จากคลิปด้านล่าง) และแน่นอนว่าของเจ๋งๆ ไอเดียดีแบบนี้ แค่เพียงไม่นานก็เกิดเป็นกระแสไวรัล จากคนหลายมุมทั่วโลกที่สนใจส่งข้อความมาอย่างต่อเนื่องว่าอยากได้รอยสักเจ๋งๆ แบบนี้บ้าง ทำให้ทางผู้ผลิตได้จัดการจดสิทธิบัตรรอยสัก AR ตัวนี้ซะเลย และพัฒนาแอพพลิเคชั่น โดยเฉพาะสำหรับเจ้ารอยสักตัวนี้ ให้สามารถเล่นเพลงและเล่นเสียงต่างๆ