THE ART OF LEADERSHIP: DIMITRI VEGAS & LIKE MIKE ผู้นำที่แท้จริงต้องพาตัวเองไปถึงฝันที่ตั้งใจไว้

ผู้ชายอย่างเราอาจตีความหมายคำว่า “ผู้นำ” แตกต่างกันออกไป หลายคนมองว่าผู้นำคือบุคคลที่คอยวางแผน ดูแล รวมไปถึงร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทีมงานหรือกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง แต่สำหรับอีกหลายคนวิถีความเป็นผู้นำก็สามารถนำไปปรับใช้กับเส้นทางชีวิต เพื่อกำหนดและควบคุมชีวิตของตัวเองให้เดินไปพบกับจุดหมายปลายทางดั่งที่มุ่งหวังเอาไว้

และชาย 2 คนนี้ คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการเป็นผู้นำชีวิตให้ตัวเอง จนสามารถก้าวเดินบนเส้นทางแห่งความฝันที่ตั้งใจมาตั้งแต่เด็ก ชื่อของพวกเขาคือ Dimitri Thivaios และ Michael Thivaios หรือที่สาวกเพลงแนว Electronic Dance Music รู้จักกันดีในชื่อ Dimitri Vegas & Like Mike

ซึ่งในวันนี้เราจะนำบทสรุปที่น่าสนใจ มาถ่ายทอดมุมมอง ทัศนคติ รวมถึงความหลงใหลในการใช้ชีวิตและการเป็น “ผู้นำของตัวเอง” ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะคว้าโอกาสและแสดงฝีมือให้จนได้รับการยอมรับในฐานะดีเจระดับท็อปของโลกมาถึงทุกวันนี้

มาทำความรู้จักกับคู่หูดีเจให้ดีมากขึ้น รวมถึง The Art of Leadership ในแบบฉบับของพวกเขาไปพร้อมกัน

Dimitri Vegas & Like Mike คือศิลปินดีเจ 2 พี่น้องคู่หูที่มีชื่อจริงว่า Dimitri Thivaios และ Michael Thivaios เดิมทีทั้งคู่เป็นชาวกรีกโดยสายเลือด แต่เกิดและเติบโตขึ้นในประเทศเบลเยียม

2 พี่น้อง Thivaios โตขึ้นมาในย่านเล็ก ๆ ของจังหวัด WilleBroek ตั้งอยู่ในแอนต์เวิร์ป เมืองทางตอนเหนือของประเทศเบลเยียม ความเจ๋งคือบ้านเกิดของพวกเขาตั้งอยู่ห่างสถานที่จัดงาน Tomorrowland ในปัจจุบัน โดยใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที

อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คนเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหลงใหลในเสียงเพลง โดย Dimitri Thivaios ผู้พี่ เริ่มต้นเส้นทางจากการเป็นดีเจตามคลื่นวิทยุท้องถิ่นต่าง ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อยและเมื่ออายุถึงเกณฑ์ก็เริ่มปรากฏตัวในคลับเล็ก ๆ ตามจังหวัดหรือเมืองต่าง ๆ โดยเริ่มจากแนวเพลง Electronic และ House

ในปี 1999 Dimitri พิสูจน์ฝีมือตัวเองด้วยการออกผจญโลกกว้าง เริ่มจากทัวร์ในโซนทวีปยุโรป เมืองมายอร์ก้าในประเทศสเปน ก่อนจะย้ายไปเป็นดีเจเล่นประจำที่เกาะอิบิซ่าในปี 2003 และก็เป็นเกาะอิบิซ่านี่เอง ที่สร้างเส้นทางสู่การเป็นดีเจมืออาชีพในเวลาต่อมา

ทางฝั่งของ Michael Thivaios แม้จะชื่นชอบในเรื่องดนตรีเหมือนกัน แต่ต่างกันเล็กน้อยตรงที่ตัวเขามีความหลงใหลในดนตรีฮิปฮอป จึงเริ่มต้นด้วยการเป็นโปรดิวเซอร์เพลงในสไตล์ที่ตัวเองถนัด กระทั่งในปี 2009 ทั้ง 2 ปล่อยผลงานเพลง “Work That Body” ออกมาจนไปเข้าตาขาใหญ่ในวงการอย่าง Axwell

ไม่นานนักดีเจและโปรดิวเซอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการก็ต่อสายขอร่วมงานกับพวกเขา เป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้ง 2 คนมีโอกาสแสดงความสามารถให้แฟน EDM ทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้น โดยใช้ชื่อรันวงการว่า Dimitri Vegas & Like Mike

นับจากนั้นมา Dimitri Vegas & Like Mike ก็เป็นที่รู้จักในฐานะโปรดิวเซอร์ที่มีผลงานเพลงของตัวเองจำนวนมาก อย่างเช่น Instagram ที่มีคนดูใน YouTube ถึง 53 ล้านวิว และมีคนฟังใน Spotify ถึง 167 ล้านครั้ง รวมถึงมีส่วนร่วมกับการทำเพลงของศิลปินระดับโลกมากมาย แต่ฝีมือการทำเพลงไม่ได้เป็นจุดแข็งเดียวของพวกเขา เพราะตำแหน่งดีเจที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกของปี 2015 และ 2019 นั้นได้มาจากความสามารถในการแสดงสดของทั้งคู่ล้วน ๆ

Dimitri Vegas & Like Mike เป็นคู่ดีเจที่เปิดเพลงมาแล้วในเกือบทุกคลับหรูทั่วโลก รวมถึงเทศกาลดนตรีสาย Electronic Dance ชั้นนำมากมาย พวกเขาสะกดและสร้างความมันส์ให้คนดูด้วยซาวนด์ดนตรีที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์จากฝีมือของ Dimitri บวกกับน้ำเสียงคูล ๆ ของ Michael

ทันทีที่การแสดงเริ่มขึ้น โชว์ที่สุดเหวี่ยงจะทำให้ผู้ชมเต้นอย่างสนุกสนานตั้งแต่ต้นจนจบในทุกครั้งที่ขึ้นแสดง เสน่ห์เหล่านี้ทำให้ Dimitri Vegas & Like Mike ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของวงการของ EDM ของโลกในปัจจุบันแบบไม่มีข้อสงสัย

“We never ask ourselves, ‘What do I have to do?’
Instead we ask ‘What can I do?  And what do I want to do?”

2 พี่น้อง Dimitri Vegas & Like Mike ได้แชร์ข้อคิดที่ทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จระหว่างเดินทางไปแสดงสดที่ Winterland Festival 2020 ในรถยนต์ BMW M8 หนึ่งในมุมมองการเป็นผู้นำที่ดีให้ตัวเองของ 2 พี่น้อง Dimitri Vegas & Like Mike คือนับตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาตัดสินใจวิ่งตามความฝัน จนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะทั้ง 2 คนไม่เคยสงสัยในเป้าหมายของตังเอง ไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองกลางคันว่า “เรากำลังทำอะไรอยู่ และเราทำไปเพื่ออะไร?”

พวกเขาเลือกที่จะถามกับตัวเองด้วยคำถามที่ว่า “เราจะทำยังไงให้ไปถึงจุดนั้นได้บ้าง?” นั่นทำให้เรื่องที่พวกเขามุ่งไปข้างหน้าพร้อมท้าทายขีดความสามารถ พร้อมแบกความฝันอันยิ่งใหญ่ไปด้วยเสมอ

ไอเดียการแต่งเพลงของ Dimitri Vegas & Like Mike มักได้รับแรงบันดาลใจมาจากการมองย้อนกลับไปยังอดีตและประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง รวมทั้งภาพยนตร์และดนตรีก็มีส่วนสำคัญ แต่หนึ่งในบรรยากาศที่ให้แรงบันดาลใจได้ดีไม่แพ้กันคือวิวทิวทัศน์อันสวยงามจากสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น บรรยากาศผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตในวันหยุด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ได้จากการขับรถยนต์ BMW M8 คันโปรดของพวกเขา

“That feeling of being whisked from 0 to 60 is as emotional as it gets.  In our songs – and in BMW M8”

สุดท้ายเมื่อถามว่าอะไรคือหัวใจหลักของดนตรีที่พวกเขาสร้างขึ้นมา Dimitri Vegas & Like Mike บอกว่ามั่นใจว่า

“หัวใจสำคัญในดนตรีของพวกเขา คือจังหวะที่พุ่งขึ้นและลงอย่างสนุกสนาน เพราะจังหวะเพลงอิเล็กทรอนิกส์มีทั้งการพุ่งขึ้นเพื่อสร้างความมันส์สุดเหวี่ยง และปล่อยลงเพื่อสร้างความรู้สึกเหมือนได้เอนตัวสบาย ๆ อยู่ใน BMW M8 การเร่งความเร็วเพื่อสร้างความตื่นเต้นทุกครั้งที่มีโอกาส ให้ความรู้สึกคล้ายกับจังหวะของเสียงดนตรีที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา และแน่นอนว่าเป็นจังหวะที่ใครได้ลองมานั่งในรถคันนี้ต้องรู้สึกสนุกสนานเหมือนที่เรารู้สึก”

ถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจจากศิลปินระดับโลกที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความซื่อสัตย์กับความฝันของตัวเอง และตัดสินใจวิ่งตามเป้าหมายตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนจะแสดงฝีมือให้ผู้คนยอมรับ จนกระทั่งยกให้เป็นหนึ่งในดีเจระดับท็อปของโลก ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการเป็น ผู้นำที่ดีให้กับชีวิตตัวเอง แข่งขันกับตัวเองโดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น

สำหรับใครที่อยากฟังเบื้องหลังแนวคิดความเป็นผู้นำของคนดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในแต่ละสาขาอาชีพ สามารถติดตามโปรเจกต์ The Art of Leadership จากบีเอ็มดับเบิลยูได้ผ่านทางช่อง YouTube ของ BMW รวมถึงช่องทางต่าง ๆ ของ Great Big Story สื่อโซเชียลมีเดียในเครือ CNN มาปลุกไฟให้ตัวเองลงมือทำตามความฝันไปพร้อม ๆ กัน