CARS

THE COLLECTOR: เยือนอาณาจักร ‘เต้น – สีหบุตร’ ยอดผู้กำกับหนุ่มใหญ่ กับความหลงใหลใน PORSCHE

By: PEERAWIT March 28, 2018

ในชีวิตลูกผู้ชายอย่างเรา มันต้องมีอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่เราคลั่งใคล้เป็นพิเศษ บางอย่างที่เราหลงใหลเป็นชีวิตจิตใจ บางอย่างที่ใครอาจไม่เข้าใจแต่เราก็ไม่หวั่นไหวในคุณค่า มันก็คงเหมือนกับความรักนะ เริ่มต้นจากความสนใจ ศึกษาเรียนรู้จนเกิดความชอบ และหลงรักในที่สุด

ครั้งนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับหนึ่งใน collector ตัวจริง ชายคนนี้คือคุณ ‘เต้น – สีหบุตร ชุมสาย ณ อยุธยา’ ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาชื่อดังแห่ง Triton Film เจ้าของผลงานที่หลายคนรู้จักกันดีจากแคมเปญ ‘คนหายหน้าเหมือน’ ของมูลนิธิกระจกเงา รวมถึงภาพยนตร์โฆษณาดี ๆ อีกหลายตัว นอกจากนี้คุณเต้นยังเป็นบรรณาธิการบริหารของ GTPORSCHE Magazine Thailand Edition นิตยสารสำหรับคนที่หลงใหลยอดยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติเยอรมันอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Porsche

คงไม่ต้องเดาไปทางอื่นแน่นอน คุณเต้นคือหนึ่งในคนสำคัญผู้ run วงการรถ Porsche ในบ้านเราด้วย passion ซึ่งเราสัมผัสได้ทุกวินาทีที่ได้มาเยือนอาณาจักรของเขา บ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความแรงสุดคลาสสิคสะท้อนตัวตนคน cool ที่รู้ว่าตัวเองหลงรักอะไร

“คุณพ่อของผมท่านเป็นคนชอบรถ และรสนิยมการชอบรถของเขาจะค่อนข้าง eccentric คือไม่ค่อยเหมือนคนอื่น คนอื่นไม่ค่อยใช้ ที่บ้านก็จะมีรถยุโรปที่อาจไม่ได้สปอร์ตมากอย่าง Volkswagen, Saab, Volvo และ Alfa Romeo ผมก็ซึมซับมา เขาก็จะเน้นรถที่ใช้งานดี พาครอบครัวไปไหนมาไหนได้ ขนของได้ด้วยเพราะคุณพ่อผมเป็นช่างภาพ คือทุกคันจะมีความเป็นตัวของเขาและการใช้ชีวิตของเขาอยู่ด้วย” คุณเต้นเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของความสนใจเรื่องยนตรกรรม 4 ล้อ

ฟังจากที่คุณเต้นเล่า ดูเหมือนว่าจะเป็นคนละทางกับความชอบของตัวเอง แล้วอะไรที่ทำให้หลงใหลใน Porsche ?

“ผมเริ่มชอบ Porsche มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบ อย่างตอนวัยรุ่น ผมกับเพื่อน ๆ ก็จะชอบหาโปสเตอร์รถมาแปะที่ผนังกัน เพื่อนชอบเอาโปสเตอร์รถ Ferrari ไม่ก็ Lamborghini มาแปะ แต่ผมชอบทรงของรถ Porsche รู้สึกว่าดีไซน์ของมันมี shape ที่ไม่เหมือนใคร ดูลงตัว พอเราชอบเราก็เริ่มศึกษา หาหนังสือมาอ่าน ก็เลยรู้ว่ามันมีความ unique เริ่มจากเครื่องวางหลัง การออกแบบที่สร้าง dynamic ของรถให้ชนะในสนามแข่ง พอเราศึกษาประวัติศาสตร์ก็ทำให้เรารู้ถึงไอเดีย ถึงแนวคิดในการออกแบบ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป มีความสนุก มีความคิดที่ไม่เหมือนยี่ห้ออื่น พอวางเครื่องด้านหลังก็ทำให้ออกตัวจากโค้งได้เร็วขึ้น ถ้านักแข่งคนไหนขับเก่ง ๆ ก็จะเอาจุดเด่นนี้มาช่วยให้ชนะได้ พอเรายิ่งศึกษาเราก็ยิ่งชอบในความเป็น Porsche”

ได้มีโอกาสสัมผัสรถ Porsche ครั้งแรกเมื่อไหร่ ความรู้สึกแรกที่ได้ขับเป็นอย่างไร ?

“ตอนเด็ก ๆ ยังไม่มีโอกาสได้ขับ เพราะว่าที่บ้านไม่มี จนมาวันหนึ่งเพื่อนของคุณพ่อขับ Porsche 964 ปีประมาณ 92-93 มาที่บ้าน แล้วเขาก็โยนกุญแจมาให้ผม เขารู้ว่าผมชอบ และบอกให้ผมขับออกไปซื้อเบียร์มาเพิ่มหน่อย ผมนี่กรี๊ดเลย คว้ากุญแจแล้วก็ขับออกไปเลย ไม่มีปฏิเสธ อยากลองมานานแล้ว อู้หู แม่งดีกว่าที่คิดไว้อีก เวลาเร่ง เครื่องแม่งดันอยู่ข้างหลัง ไหนจะเสียงอีก เรานี่ตื่นเต้นมาก ไม่เคยขับรถซูเปอร์คาร์แบบจริงจังขนาดนี้ หลังจากวันนั้นมาก็คิดมาตลอดว่าสักวันต้องมีให้ได้ แต่เรื่องมันหักมุมตรงที่ว่าผมขับไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าลืมเอากระเป๋าตังค์ไป ต้องขับกลับไปอีก โดนด่าไปทีนึง แล้วก็ต้องขับกลับมาซื้ออีกรอบ (หัวเราะ)

“มันเหมือนทุกอย่างที่เราคิด แต่ดีกว่าอีก เหมือนคุณเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่คุณได้แต่มอง แล้ววันหนึ่งคุณได้รู้จักเขา ได้คุยกับเขา แล้วมันดีกว่ารูปที่คุณเห็นอีกอะ ผมอยากได้มาก ชีวิตนี้ผมต้องมีมันให้ได้ และมันก็ drive ผม ใช่ครับ ไอ้ความอยากมันก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง แต่มันก็เป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนผมให้ตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้เงินมาซื้อรถ อีกหนึ่งแรงบันดาลใจก็คือความกล้าของ Ferdinand Porsche เขาดื้อที่จะต้องทำรถแบบนี้ท่ามกลางคำวิจารณ์ของใครหลายคนที่บอกว่ามันจะได้เหรอวะ เครื่องมันอยู่ข้างหลัง บ้าหรือเปล่า แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันดีกว่า”

รถ Porsche คันแรกของคุณเต้นคือรุ่นไหน ?

“ผมทำงานมาประมาณ 6-7 ปี เก็บเงินจนรู้สึกว่ามีตังค์พอที่จะซื้อได้ ก็เลยได้รุ่น 964 เปิดประทุนสีดำมือสอง อายุการใช้งานน่าจะประมาณ 10 ปี และก็เป็นรถคันแรกคันเดียวของผม ผมใช้งานประจำ ถ้ารถเข้าอู่ผมก็นั่งแท็กซี่ คันที่ได้มาเป็นของเพื่อนของเพื่อน จนถึงทุกวันนี้เจ้าของเก่าก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ที่ต้องเป็นรุ่นนี้เพราะเป็นรุ่นสุดท้ายของดีไซน์แบบดั้งเดิม ตราตั้ง ที่ผสมผสานกับความโมเดิร์นในตอนนั้น มันคือความโมเดิร์นคลาสสิค เกียร์ Tiptronic ตอบโจทย์ตัวเองหลาย ๆ อย่าง”

“ผมว่าแต่ละคนจะมีความปิ๊งรถที่ไม่เหมือนกัน อีกอย่างที่ผมชอบใน Porsche ก็คือมันเป็นรถที่ใช้งานได้ด้วย ไม่หวือหวามาก ขับไปที่ไหนก็ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครมารุมมาล้อม จอดไว้แล้วไปที่อื่น เดินกลับมามันก็ยังอยู่ที่เดิม (หัวเราะ) อีกอย่างแม่งโคตรทนเลย ขับไปไหนไกล ๆ ไม่ค่อยมีปัญหา อย่างหนึ่งที่ Porsche ชนะก็คือความทนด้วย ขณะที่คู่แข่งพัง แต่ Porsche ไม่พัง”

ตอนนี้เป็นเจ้าของรถ Porsche กี่คัน ?  

“ตอนนี้มีทั้งหมด 5 คัน เริ่มจาก 356, 911 Short Wheelbase, 930 หรือ 911 Turbo, 964 Turbo และ 996 Turbo ผมชอบทุกคันนะ แต่คันที่ผมอยากจะพูดถึงก็คือ 911 Short Wheelbase เพราะเป็นจุดเริ่มต้นอะไรหลายอย่าง เป็นรถคลาสสิคคันแรกที่ได้ขับอย่างจริงจัง เคยใช้ลงแข่งด้วย เอาไปออกทริปขับไปถึงมาเลเซีย เป็นคันแรกที่ผมทำรถ Porsche เก่า ๆ ให้ใช้งานได้จริง หลังจากที่ไม่ค่อยมีใครเอาออกมาใช้ ไม่ค่อยมีใครเห็นค่าเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้มีอู่ Porsche มากขึ้น ตลาดเริ่มใหญ่ขึ้นโดยเฉพาะช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา”

โมเดลไหนที่อยากได้มาเป็นเจ้าของอีก ? 

“โห เยอะไปหมดเลย (หัวเราะ) แต่ถ้าดูจากที่มีอยู่ ก็ขาด 993 ถ้าผมมี 993 ก็จะครบทุก range ของมัน 993 เป็น air-cooled รุ่นสุดท้าย ซึ่งเป็น generation gap ระหว่าง Porsche gen เก่า และ gen ใหม่ แต่ก็คลาดกันไปตลอดเวลา หรือไม่บางทีอาจจะมองดูรถใหม่หน่อย”

“ผมไม่เคยมองค่ายอื่นเลย Porsche เป็นเหมือนกับคนที่เรารู้จักแล้ว เราสนิทแล้ว เราสบายใจที่จะอยู่ด้วยแล้ว มันเป็นความสัมพันธ์ มันจะเป็นอะไรเราก็พอจะรู้อาการ เราคุยกับช่างได้ เราไม่ต้องไปเริ่มคบกันใหม่”

พอเราได้ฟังคุณเต้นพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อ Porsche และเรื่องราวเจ๋ง ๆ ของรถสปอร์ตจากเยอรมนีที่เอกลักษณ์ชัดเจน ก็ชักจะเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วสิ แบบนี้ต้องขอคำแนะนำจากตัวจริงกันหน่อย อยากให้คุณเต้นช่วยแนะนำรุ่นที่ราคาไม่แรงสำหรับมือใหม่หัดเล่นหน่อยครับ

“แนะนำโมเดลเครื่องวางกลางอย่าง 986 หรือ Cayman ซึ่งเป็นรถที่ดีมาก ราคาดีมาก สภาพดี ๆ ก็ 2 ล้านต้น ๆ จริง ๆ ก็หาถูกกว่านี้ก็ได้ แต่ผมอยากให้ซื้อรถสภาพดีที่สุดไปเลย ดีกว่าซื้อถูกแล้วมาซ่อมอ้วก อย่าลืมว่า Posche จะเก่าหรือใหม่ก็ซ่อมราคาเดียวกัน”

รุ่นไหนที่หายากสุด ๆ ถ้ามีแล้วโคตรเจ๋ง ?

“รุ่นที่แม่งหายากที่สุดเนี่ย คนไทยมีหมดเลยนะ (หัวเราะ) ยกเว้นพวกรถตัวแข่งที่จดทะเบียนไม่ได้ 959 คนไทยก็มีคนมี บางทีผมยังงงเลย มีได้ยังไง 911RS ปี 1973 ในไทยก็มีหลายคัน, 993RS ก็มี, 993GT2 ก็มี แต่รุ่นอย่าง 911R ปี 1967 อาจจะไม่มีคนไทยได้เป็นเจ้าของเพราะผลิตมาแค่ 20 คันในโลก หรือพวกรุ่น super rare ที่มีไม่ถึง 10 คันในโลกก็อาจจะไม่มีเหมือนกัน”

“เมื่อก่อนคนไทยหลายคนเล่นอยู่คนเดียว ไม่ค่อยเอาออกมาโชว์ แต่พอมีกลุ่มขึ้นมาก็ออกมาเจอกันมากขึ้น ผมคิดว่าการเล่น Porsche มันเหมือนการแชร์ มันสนุกดี แฮปปี้ได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน ไม่เกี่ยวกับราคา มันเป็นเรื่อง passion ล้วน ๆ มันเป็นเรื่องความชอบ เรามาเม้าท์มอยกัน ทิ้งความเครียด ทิ้งเรื่องงาน ทิ้งเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ไว้ข้างหลัง เหมือนเอาคนบ้ามารวมกัน พอเรามารวมตัวกันก็เลยรู้สึกว่าเราปกติ (หัวเราะ) ทุกคนภูมิใจในประวัติศาสตร์และความเป็นแบรนด์ของ Porsche”

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเราได้มาเยือนถึงบ้านของคุณเต้นที่ทำให้เราร้อง wow บ้านหลังนี้มีลิฟท์โชว์รถคันโปรดอยู่กลางบ้าน! เป็นลิฟต์สี่เสาที่เชื่อมต่อระหว่างการาจชั้นหนึ่งกับชั้นสอง สามารถสับเปลี่ยนรถที่อยากโชว์อยากเห็นได้ทุกวันตามความต้องการ ขอบอกว่าสุด ๆ ไปเลยครับพี่ โดยบ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบตกแต่งและต่อเติมด้วย คุณกร ทองทั่ว สถาปนิกคนเก่งและเพื่อนของคุณเต้น ซึ่งคุณกรเล่าว่าการออกแบบนั้นคำนึงถึงความต้องการของคุณเต้นเป็นหลักในเรื่องความหลงใหลในรถ Porsche ที่ต้องการจะมองเห็นสิ่งที่เขาชอบได้จากทุกที่ภายในบ้าน ขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองการใช้ชีวิตของคุณเต้นให้ครบทุกเรื่องด้วย ซึ่งไม่ถือว่ายากมาก เพราะเจ้าของบ้านมีความชัดเจนในตัวเอง

ส่วนคุณเต้นเองก็เล่าให้ฟังเรื่องบ้านของเขาว่า “การหาสถาปนิกก็เหมือนหาเมียนะ ต้องคุยกันรู้เรื่อง (หัวเราะ) ผมเชื่อใจคนที่มีร่วมงานด้วยเสมอ ผมแชร์ความต้องการของผมอย่างเต็มที่ แบบที่กร sketch มาผมแทบไม่เปลี่ยน สิ่งที่ผมต้องการให้มีรถจอดอยู่กลางบ้าน ต้องการที่เก็บรถที่ปิด ต้องการการเชื่อมบ้านสองหลังที่ให้ความรู้สึกเดียวกัน และก็มีความต้องการของภรรยาด้วยครับ พอออกมาผมก็แฮปปี้ ได้อย่างที่ผมต้องการ ทุกครั้งที่เปลี่ยนรถที่เอาขึ้นมาโชว์ฟีลก็จะแตกต่าง สนุกมาก เปลี่ยนอารมณ์บ้านได้ทุกอาทิตย์”

คิดว่างานอดิเรกของผู้ชายมีส่วนช่วยเรื่องการงานและชีวิตอย่างไร ? 

“ถ้าเราจะอยู่กับงานอย่างเดียวบางทีมันก็ตัน เราต้องพักสมองบ้าง การเบี่ยงเบนความสนใจไปด้านอื่นจะช่วยให้อีกด้านเราเฟรชขึ้นได้ ถ้าเราหมกมุ่นกับอะไรอย่างเดียว เราก็จะเห็นอะไรแค่ด้านเดียว ถ้าเราคลายเกลียวออกมาบ้าง มีอะไรอย่างอื่นให้ทำบ้าง เราก็จะรู้สึกมีความหมายมากขึ้น ส่วนจะทำอะไรก็แล้วแต่ความชอบ”

อยากปลดล็อกด้านไหนของตัวเองออกมา ? 

“ผมเป็นคนสุขนิยม สิ่งที่อยากทำก็ทำมาแทบหมดแล้ว แต่ที่อยากจะทำคือการเดินตามรอยประวัติศาสตร์การแข่งรถในยุโรป อยากสัมผัสประสบการณ์ขับรถทั่วยุโรป อยากไปลองขับในสนามแข่งเก่า ๆ ในยุโรปที่เราเคยอ่านมาในประวัติศาสตร์ ผมคิดว่าอีกสัก 2-3 ปีจะไปทำละ ส่วนการปลดล็อกตัวเอง ผมคิดว่าถ้าเราอยากทำอะไรก็อย่าไปลังเล อย่ากลัว อย่ามีข้อแม้ ชีวิตเราเกิดมาควรจะต้องได้ทำทุกอย่างที่อยากทำ ชีวิตของคนเราสั้นนัก”

“มีหลายช่วงที่อะไรต่ออะไรไม่เป็นอย่างที่คิด ช่วงฟองสบู่แตกที่บ้านผมก็ลำบากไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ท้อ ตอนนั้นผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราต้องจริงจัง ต้องทำสิ่งที่ตัวเองต้องทำให้ได้ เป็นช่วงเปลี่ยนของชีวิต ผมคิดว่าทุกอย่างมีทางไป ต้องหาทางไปให้ได้ แล้วก็เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงจุดหมายของมัน การเดินตามถนนที่ไม่รู้ว่าไปไหนมันดีกว่าอยู่เฉย ๆ เพราะสุดท้ายถนนมันก็ต้องไปถึงสักที่”

สุภาพบุรุษในความหมายของคุณเต้นต้องเป็นอย่างไร ?

“นี่ผมเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ (หัวเราะ) gentleman ต้องมีน้ำใจในหลาย ๆ อย่าง ๆ ทั้งในชีวิต ในการทำงาน การแข่งรถ การดีลกับคนอื่น เราต้องไม่ได้นึกถึงแต่ตัวเอง ต้องเห็นใจคนอื่น ส่วนเรื่องผู้หญิง เมื่อตอนเด็ก ๆ คุณแม่ผมสอนผมเสมอว่าเป็นผู้ชายต้องดูแลผู้หญิง ต้องเปิดประตูให้ผู้หญิงนะ”

นับเป็นอีกครั้งที่เราได้ทั้งความรู้ ความสนุก และคุณค่าดี ๆ มาถ่ายทอดให้กับทุกท่าน และได้ข้อคิดว่าการจะเป็นยอด collector นั้นไม่ได้อยู่ที่ปัจจัยเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การมองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นด้วย อย่างที่บอกไปเมื่อตอนต้น มันก็คงเหมือนกับเรื่องความรักหละครับ เมื่อรักแล้วเรามันก็จะเกิดพลังในการทำสิ่งดี ๆ ให้ชีวิต มีขุมพลังขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายที่อยากไป

เพราะทางชีวิตไม่ได้มีไว้ให้ถอนคันเร่ง

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line