The F80: Ferrari’s the most powerful new V6-hybrid 1200 horsepower supercar

ช่วงเวลาแห่งความดุเดือดในโลกแห่งความเร็ว หลัง McLaren พึ่งจะเปิดตัว W1 ออกมาได้ไม่นาน ด้าน Porsche ก็เตรียมเปิดตัว hypercar รุ่นใหม่เร็ว ๆ นี้ ฝั่ง Ferrari ก็ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ออกมาในชื่อ F80 เป็น flagship ที่จะมาสานต่อตำนานความยิ่งใหญ่ของ LaFerrari ด้วยขุมพลัง 3.0-liter V6 turbocharge Hybrid 900 แรงม้าจากเครื่องยนต์ พ่วงพลังงานจาก Tri-motor AWD ให้กำลังรวมเกือบ 1,200 แรงม้า เคลมตำแหน่ง “The Most Powerful Ferrari” ที่เคยผลิตออกจากโรงงานจนถึงวันนี้ สามารถทำความเร็วถึง 100 km/h ได้ภายใน 2.15 วินาที และถึง 200 km/h ใน 5.75 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุด 350 km/h

เครื่องยนต์ 3.0-liter V6 120-degree เป็นเครื่องที่คล้ายกับใน Ferrari 296 และ 499P Le Mans race car ผ่านการโมดิฟายใหม่หลายจุดตั้งแต่การจุดระเบิด การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มแรงอัดใน combustion chamber อีก 20% ส่งกำลังผ่านเกียร์ 8-speed dual-clutch ที่ปรับแต่งให้รองรับแรงบิดมหาศาลทั้งจากเครื่องยนต์และ electric turbos แบบไร้อาการ turbo lag ลากรอบได้ถึง 9,200 rpm limiter แต่จะไม่มีโหมดการขับแบบ fully electric เหมือนใน McLaren W1 หรือ Ferrari hybrid รุ่นอื่น

นอกจากนี้ Ferrari ยังได้พัฒนา electric motors แบบ in-house เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การขับขี่ที่เป็น Ferrari ได้สูงสุด ติดตั้งมอเตอร์สองตัวพร้อม inverter และ cooling system แยกไว้ที่เพลาหน้า ส่วนมอเตอร์ตัวที่สามติดตั้งไว้ที่เพลาหลัง ทำหน้าที่หลักในการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพิ่ม torque และแรงม้าได้อีกราว 80 hp เมื่อจำเป็น และ regen energy ได้ราว 70 kW เชื่อมต่อกับ lithium-cell battery pack 800V ที่มี converter ส่งพลังงานไปให้ทั้ง active suspension, e-turbo systems และ electronic control units ต่าง ๆ ในรถ จึงไม่จำเป็นต้องมี battery หลายลูก ช่วยลดน้ำหนักและทำให้การออกแบบ layout ของระบบไฟฟ้าใน carbon fiber asymmetrical monocoque chassis ได้เรียบง่าย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดีไซน์ของ F80 มีกลิ่นอายความ retro อย่างชัดเจน ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานหลายรุ่นเช่น Daytona รวมถึง F40 ถ่ายทอด aerodynamic จากรถแข่ง Formula 1 ภายในออกแบบห้องโดยสาร two-seater layout เน้นผู้ขับแบบ driver-focused cockpit หรือที่ Ferrari เรียกว่า “1+” configuration การควบคุมจะเอียงเข้าหาผู้ขับกับเบาะแบบ adjustable sport bucket ต่างจากของผู้โดยสารที่เป็นเบาะ fixed กับ chassis และรุ่นนี้ใช้พวงมาลัยแบบใหม่ที่ด้านบนและล่างเรียบแบนเหมือนรถแข่ง ซึ่งจะถูกใช้ในรถรุ่นอื่น ๆ ของค่ายต่อไปในอนาคต

Ferrari F80 เปิดราคาเริ่มต้นที่ €3.6 million หรือราว 130 ล้านบาท แพงกว่า McLaren W1 ถึงหนึ่งเท่าตัว ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 799 คัน