World

THE PROFILES: CHIJON FAMILY ชนชั้นล่างผู้ชื่นชอบการฆ่าและลิ้มรสความทรมานของคนรวย

By: TOIISAN October 15, 2019

ความไม่เท่าเทียมและความโกรธแค้นถือเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทุกที่บนโลกใบนี้ ความเหลื่อมล้ำทำให้เกิดช่องว่างทางสังคม จนบางครั้งคนที่อยู่ในชนชั้นฐานพีระมิดทั้งหลายก็ไม่สามารถเก็บงำความอัดอั้นตันใจกับชีวิตแย่ ๆ ของตัวเองได้ ลงมือทำสิ่งแย่ ๆ และใช้ข้ออ้างว่า

“เกลียดทุนนิยม เกลียดคนรวย และเกลียดความจนของตัวเอง”

UNLOCKMEN จะพาย้อนเวลาไปยังช่วงปี 90 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่ของประเทศเกาหลี จากเมืองเล็ก ๆ ที่โลกไม่ให้ความสนใจสู่การพัฒนาสังคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก แต่การก้าวกระโดดทางวัฒนธรรมที่สวยงามอาจสร้างผลกระทบที่ไม่คาดคิดตามมา เช่น ความเหลื่อมล้ำ ความจน และคดีลักพาตัวที่นำมาสู่การฆาตกรรมสะเทือนขวัญ 

เรื่องราวสะเทือนขวัญที่คนเกาหลีจดจำและกลายเป็นประวัติศาสตร์สะเทือนขวัญเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1993 ใจกลางกรุงโซลเมืองหลวงของประเทศเกาหลี คิม กีฮวัน (Kim Kihwan) วัย 26 ปี อดีตนักโทษพ้นคุกผู้ไม่พอใจกับสังคมที่เป็นอยู่ เขาเป็นคนชนชั้นล่างที่ตกงาน เขาไม่พอใจคนรวยที่เกลื่อนเต็มเมืองแต่ชีวิตของตัวเองกลับตกต่ำจนถึงขีดสุด ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ของเขาทำให้กีฮวันตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยและสาบานว่าจะทำทุกอย่างเพื่อทำลายคนรวย

กีฮวันรวบรวมพรรคพวกที่คิดเหมือนกับเขาตั้งกลุ่มขึ้นมาชื่อว่า Mescan เพื่อแก้แค้นชนชั้นอภิสิทธิ์ที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม (มุมมองดังกล่าวเป็นเพียงความคิดของกลุ่ม Mescan เท่านั้น) ประกอบด้วยสมาชิก 8 คน แต่ภายหลังชื่อของ Mescan ถูกคนเกาหลีเรียกว่า Chijon Family แทนที่ชื่อกลุ่มเดิมที่พวกเขาตั้งขึ้น

หลังจากรวบรวมคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันให้เป็นกลุ่มก้อน Chijon Family เริ่มดำเนินการแก้แค้นเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของพวกเขาด้วยการลักพาตัวเหล่าคนชนชั้นสูง มองหาเหยื่อที่แต่งตัวดี ทั้งผู้หญิงที่มีเครื่องประทับราคาแพงเต็มตัว ชายใส่สูทผูกไทด์รองเท้าหนังมันปลาบที่ขับรถหรู หรือลูกคุณหนูที่มีอันจะกิน 

ครอบครัว Chijon ใช้วิธีหาเหยื่อด้วยการซื้อรายชื่อกว่า 1,200 คน จากพนักงานที่ทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า Hyundai เพราะพนักงานเหล่านี้ยินดีขายข้อมูลของลูกค้าบัตรเครดิตในราคาถูก ๆ เนื่องจากไม่พอใจพฤติกรรมเหยียดของคนรวยเวลามาซื้อของ โดยไม่ทันคิดว่าจะก่อให้เกิดคดีสะเทือนขวัญ เพราะหลังจากที่ครอบครัว Chijon ได้ชื่อ ข้อมูล ที่อยู่ได้ก็จะก่ออาชญากรรมทันทีที่เหยื่ออยู่คนเดียวและใช้ช่องว่างนั้นลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่

พวกเขาก่อคดีหลายครั้งและมีครั้งหนึ่งญาติของผู้เสียหายยอมจ่ายเงินกว่า 100,000 ดอลลาร์ หรือกว่าสามล้านบาทตามที่ครอบครัว Chijon เรียกร้องแลกกับการได้คนที่รักกลับคืนสู่อ้อมอก แต่แทนที่เรื่องจะจบลงด้วยดี ครอบครัว Chijon กลับไม่ยอมให้มันจบง่าย ๆ แบบนั้น

หลังจากได้เงินตามที่ต้องการ การทรมานเหยื่อผู้โชคร้ายในห้องเชือดที่เต็มไปด้วยเครื่องทรมานก็เริ่มต้นขึ้น ถ้าเหยื่อเป็นผู้หญิงพวกเธอจะถูกข่มขืน ทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ และหลังจากที่พวกเขาเล่นสนุกกับเหยื่อที่บอบช้ำจนพอใจแล้วก็จะสังหารทิ้งอย่างไม่ไยดี เพราะพวกเขามีความสุขเวลาได้เห็นคนรวยทุรนทุรายร้องขอชีวิตจากพวกเขา

ความวิปริตยังไม่หมดเพียงแค่นั้น จากความคับแค้นใจที่ต้องการล้างแค้นนำมาสู่ความสนุกสนานที่เห็นคนรวยต้องทุกข์ทรมาน พวกเขานำศพบางส่วนไปทำลายทิ้งด้วยการโยนร่างเข้าเตาเผา บ้างก็ฝังไว้ตามเนินเขาร้าง ร่างไร้วิญญาณบางร่างถูกตัดเป็นชิ้น ๆ และนำไปประกอบอาหาร เพราะพวกเขาคิดว่าการกินเนื้อมนุษย์จะทำให้ร่างกายแข็งแรงรวมถึงยังได้จิตวิญญาณอันแรงกล้าอีกด้วย เรียกได้ว่าความเพี้ยนเกินขอบเขตเกินกว่าใคร ๆ จะจินตนาการหรือทำใจรับได้

คดีคนหายในกรุงโซลเริ่มกลายเป็นที่สนใจของผู้คน เกิดคำถามมากมายว่าใครเป็นคนลักพาตัวเหล่าเศรษฐี แต่ต่อให้กระแสคดีคนหายเพิ่มขึ้นแค่ไหน การสืบสวนของตำรวจก็ยังไม่คืบหน้านักจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในเดือนกันยายน ปี 1994

หญิงสาวคนหนึ่งถูกครอบครัว Chijon ลักพาตัวมาไว้ที่บ้าน ข่มขืนและทรมานเธอแถมยังบังคับให้ยิงเหยื่ออีกคนที่ถูกขังไว้ด้วยกัน จากนั้นพวกเขาก็จัดการเธอด้วยการเอาถุงพลาสติกครอบศีรษะหวังให้ขาดอากาศหายใจ แต่เธอกลับสามารถหนีรอดออกมาจากบ้านพักได้อย่างปาฏิหาริย์และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำเร็จ 

เมื่อเหยื่อที่ควรจะสิ้นใจหนีออกไปแจ้งความได้ การไล่ล่ากลุ่ม Chijon จึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะตำรวจมีทั้งพยานหลักฐานที่แน่นหนา รวมทั้งรู้แหล่งกบดานของพวกเขาจากเหยื่อผู้รอดชีวิต ในที่สุดทั้ง 8 คนก็ถูกจับกุมได้และคดีตำนานสะเทือนขวัญของผู้มีอันจะกินที่โดนสังหารจากชนชั้นฐานล่างก็ปิดตัวลง

ในเดือนพฤศจิกายน 1994 ครอบครัว Chijon 6 คน ถูกศาลตัดสินให้ประหารชีวิตจากความผิดฐานฆ่าคนตาย 5 คน ส่วน 2 คนที่ไม่โดนโทษประหารก็ถูกจำคุก แต่คนเกาหลีส่วนใหญ่ยังเรียกร้องให้ประหารชีวิตคนที่เหลือเพราะคดีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเหยื่อและสังคมของประเทศเกาหลี

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าที่ปล่อยให้รายชื่อและข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าหลุดไปจนทำให้พวกเขาถึงแก่ความตายก็ต้องปรับระบบบริษัททั้งหมดใหม่และเหตุฆาตกรรมดังกล่าวก็ทำให้คนเกาหลีเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำให้คนเกาหลีฝังใจและจดจำพวกเขาตลอดไปแม้พวกเขาจะโดนโทษประหารมาจากเหตุการณ์สอบสำนวนคดีที่ Chijon Family ไม่มีท่าทีเสียใจหรือสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำแม้แต่น้อย พวกเขาอธิบายขั้นตอนการทรมานเหยื่อด้วยรอยยิ้ม สาธิตการฆาตกรรมหั่นศพเด้วยความสนุกสนาน แถมยังบอกกับสื่อที่ไปทำข่าวว่าสิ่งสุดท้ายที่จะเสียใจคือ

“ความเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ฆ่าและลิ้มรสชาติของพวกคนรวยได้มากกว่านี้เท่านั้น”

เราไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่นำมาสู่ความแค้นอย่างที่กีฮวันคิด เพราะความคิดที่โอนเอียงของเขานำมาสู่การก่อเหตุสลดโดยที่ตัวเองไม่รู้สึกผิดโดยใช้คำว่าความจนมาเป็นข้ออ้างเพื่อสังหารคนอื่น แต่สุดท้ายเรื่องราวของพวกเขาก็ทำให้สังคมเห็นช่องว่างระหว่างชนชั้นได้ชัดเจนขึ้น และมองเห็นว่ามนุษย์สามารถทำเรื่องน่าสะพรึงได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนของสังคมเพียงเพราะความพอใจส่วนตัว

 

SOURCE: 1 / 2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line