Life

THE REAL : “ไอซ์ นพดล ทวีศรี” ผู้อุทิศชีวิตให้กับกัญชาผ่านแนวคิด “ความเมามันแค่ของแถม”

By: JEDDY July 3, 2022

ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าวันหนึ่งประเทศอย่างบ้านเราจะมีคำว่า “เสรีกัญชา” เกิดขึ้นมา เพราะถ้าหากเวลาย้อนกลับไป มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกปลูกฝังความคิดในแง่ลบกับพืชชนิดนี้ มีข่าวคราวการจับกุมเกิดขึ้นมากมาย ทั้งคนธรรมดาทั่วไป หรือแม้กระทั่งบุคคลที่มีชื่อเสียงก็ตาม เพราะมันยังถูกตราหน้าว่าเป็นสารเสพติดผิดกฎหมาย

แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยได้สัมผัสใกล้ชิดผู้ที่ (แอบ) ใช้กัญชา เรากลับมีความคิดที่รู้สึกย้อนแย้งขึ้นมาในหัวว่า “มันไม่ได้ดูน่ากลัวตามที่เข้าใจเลย” เพราะผู้คนที่เสพกัญชามักจะดูเนิบ ๆ ลอย ๆ หน้าตายิ้มแย้ม และรักการทานของหวานเป็นพิเศษ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับผู้เสพยาบ้าที่มักจะคุ้มคลั่ง สร้างเรื่องสร้างราวให้คนรอบ ๆ ข้างต้องเดือดร้อนอยู่เสมอ

หลังจากที่ได้เคยพูดคุยกับผู้ที่ใช้กัญชาหลาย ๆ คนต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่คิด แต่เราเองก็ทำได้เพียงแค่ฟังผ่าน ๆ จนกระทั่งวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็ได้ทราบข่าวเรื่องการประกาศเสรีกัญชา ทำให้คำพูดต่าง ๆ เกี่ยวกับประโยชน์ของกัญชาที่เราเคยได้ยินตีวนกลับมาอีกครั้ง แถมมันยังดึงความสนใจของเราให้อยากทำความรู้จักกับกัญชามากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เสาะแสวงหาผู้ใช้ที่มากประสบการณ์และมากไปด้วยความรู้ จนได้มาพบกับ “ไอซ์ – นพดล ทวีศรี” ที่จะมาเปิดโลกของกัญชาที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครเคยคิด


กัญชาคือชีวิต

“ไอซ์” ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักดนตรีแบ็คอัพ เขาตีกลองให้กับศิลปินชั้นนำในประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็น “เสือ ธนพล”, “เหน่ง YNOT7”, “ปู Blackhead” และ “โป่ง หินเหล็กไฟ” ที่สำคัญไอซ์ยังเป็นบุคคลที่ใช้กัญชามานานกว่า 10 ปี และยังควบหน้าที่ดูแลระบบการปลูกให้กับฟาร์มโชคชัยสี่ 20 และให้ข้อมูลเสพกัญชาอย่างถูกต้องอีกด้วย

จุดเริ่มต้นเสพกัญชาของไอซ์มันเกิดขึ้นในช่วงมัธยม และคงเหมือนคนทั่ว ๆ ไปที่มักจะเริ่มจากการใช้กัญชาผสมกับบุหรี่ ครั้งแรกที่ได้ลองสัมผัสกับมัน เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงจินตนาการที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงแรกไอซ์จะเน้นแค่เข้าถึงความเมาของสารที่อยู่ในกัญชาเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับมีคำถามขึ้นมาในใจว่า “ทำไมสูบกัญชาถึงอยากทานของหวาน?”

“ผมเคยมีชาวต่างชาติมาบอกผมว่าจริง ๆ แล้วกัญชามันเป็นยา สามารถรักษาโรคได้ ผมก็เลยคิดว่าถ้ามันทำแบบนั้นได้จริงผมก็สามารถเมากับมันได้ตลอดชีวิตแล้ว เพราะมันจะช่วยรักษาอาการป่วยของคนในครอบครัวได้อีกด้วย

แล้วผมก็ได้จุดประกายความคิดว่าทำไมคนสูบกัญชาถึงอยากทานของหวาน พอไปหาความรู้ก็เลยทำให้รู้ว่ากัญชาทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง

กัญชามันสามารถดูแลสุขภาพได้ ลดน้ำตาล ลดความดัน รักษามะเร็ง ส่วนความเมามันแค่ของแถมเท่านั้นครับ”

และนี่คือจุดเริ่มต้นที่นำพาให้ไอซ์ไปพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการใช้กัญชา รวมไปถึงการส่งต่อไปสู่คนในครอบครัวด้วยเช่นกัน


ประสบการณ์ตรงจากคนในครอบครัว

ไม่มีอะไรยืนยันข้อเท็จจริงได้เท่ากับประสบการณ์ตรงจากตัวเราเอง หลังจากที่ไอซ์ได้รับข้อมูลเรื่องความสามารถลดน้ำตาลในเลือดของกัญชา เขาจึงได้นำไปแนะนำให้คนในครอบครัวที่กำลังเผชิญกับโรคเบาหวานได้ลองใช้เพื่อเยียวยาอาการดังกล่าว

“ผมได้เอาไปให้คนที่บ้านที่เป็นเบาหวานได้ลองใช้ดู ปรากฏว่าอาการดีขึ้น หมอก็ให้ยาที่เว้นระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิมด้วยครับ”

อย่างไรก็ตามไอซ์ก็ยอมรับว่าแม้ที่บ้านจะให้อิสระกับการใช้ชีวิตขนาดไหน แต่ในช่วงแรกก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนในครอบครัวเปิดใจใช้กัญชาเพื่อรักษาอาการป่วยด้วยเช่นกัน จึงต้องใช้เวลาให้คำแนะนำอยู่ระยะหนึ่ง 


ลงลึกศึกษาข้อมูล

ไอซ์ได้ลงลึกศึกษาหาข้อมูลและงานวิจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับกัญชามาโดยตลอดในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยใช้วิธีทั้งปรึกษา User (ผู้ใช้) และดูข้อมูลในอินเตอร์เนตที่มีการวิจัยโดยนักวิทยาศาตร์และทางการแพทย์ ซึ่งทุกวันนี้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วที่สัมผัสกับสมาร์ทโฟน 

และด้วยความทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขารัก มันก็ทำให้ไอซ์ได้รู้จักกับสายพันธุ์ต่าง ๆ ของกัญชามากยิ่งขึ้น

“อย่างสายพันธุ์ซาติวา (Sativa) จะเหมาะสำหรับสายแอคทีฟ สายพันธุ์นี้ในบ้านเราจะดังมาก เคยมีคนบอกด้วยว่ากัญชาไทยดีที่สุดในโลก แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าประเมินจากตรงไหน ถ้าบอกว่ามันทำให้แอคทีฟที่สุดก็บอกเลยว่าใช่ 

ด้วยภูมิศาสตร์ของเราที่อยูใต้เส้นศูนย์สูตร ทำให้กัญชาไทยมันแสดงออกแบบแอคทีฟ ต้นไม้คือสิ่งมีชีวิตไม่ต่างจากเรา เราเปลี่ยนมันก็เปลี่ยน

อย่างต้นกัญชาของเมืองหนาวก็จะตอบสนองความรู้สึกแบบเนิบ ๆ เพราะเป็นพันธุ์อินดิกา (Indica) จริง ๆ แล้วมันคือความสมดุลของธรรมชาติครับ มันถึงมีกระท่อม, ขิง, ข่า, ตะไคร้มาขึ้นในบ้านเรา แต่เมืองนอกไม่มีไงครับ”

อย่างไรก็ตาม 2 สายพันธุ์หลักอย่าง “ซาติวา” และ “อินดิกา” มันจะมีสายพันธุ์ที่แยกย่อยลงไปอีก ซึ่งมันจะให้ผลลัพธ์ของการใช้ที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย


การเลือกใช้กัญชาของไอซ์

คุณสมบัติของกัญชาแต่ละสายพันธุ์จะมอบผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ให้เหมาะกับกิจกรรมวันในแต่ละวันของเรา และจะทำให้การใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุด รวมไปถึงต้องรู้จักกำหนดวันพักร่างกายด้วยเช่นกัน

“ในตอนเช้าผมอาจจะใช้แบบซุปเปอร์เลมอนเฮด จะช่วยทำให้รู้สึกตื่น หรือว่าจะไปปาร์ตี้กับเพื่อนตอนดึก ๆ ก็จะใช้อีกตัวหนึ่งที่ทำให้เราเอนจอยมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีวันชำระล้างร่างกาย วันไหนที่ไม่ใช้ก็คือไม่ใช้เลย 

เราต้องเข้าใจร่างกายของเราก่อนมันถึงจะมองเห็นภาพนี้ได้ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็สามารถไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ ต้องดูตามความเหมาะสมของร่างกายเป็นหลัก และต้องย้อนกลับไปถามว่าเราใช้กัญชาเพื่ออะไรด้วย

กัญชามันจะเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับสารเคมีในร่างกายเรา เช่นเพิ่มความดันหรือลดความดัน,  เพิ่มอัตราการเต้นหัวใจหรือลดลง ตอนนี้จะมีอาชีพบัดเทนเดอร์ (Budtender) มาให้คำแนะนำทางด้านนี้โดยตรงครับ”

ตอนที่เราได้พูดคุยมาถึงตรงนี้ ก็มีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นมาเพิ่มเติมว่า “บัดเทนเดอร์” คืออะไร?


“บัดเทนเดอร์” เภสัชกรแห่งโลกกัญชา

บัดเทนเดอร์ (Budtender) ชื่อมีความคล้ายกับคำว่า “Bartender” ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้ง 2 อาชีพนี้ก็มีหน้าที่ค่อนข้างคล้ายกัน ในเมืองนอกประเทศเสรีกัญชาจะมีคนที่ประกอบอาชีพนี้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่มันยังเป็นสิ่งที่ใหม่มากในบ้านเรา 

บัดเทนเดอร์จะดูการหายใจของเรา, ดูกิจกรรมที่เราทำ, ดูเรื่องเวลาพักผ่อน หรือดูอาการเจ็บป่วยที่เรากำลังเผชิญ หลังจากนั้นจะนำชุดข้อมูลนี้ไปวิเคราะห์เพื่อจัดหาปริมาณกัญชาที่เหมาะสมมาใช้กับร่างกายของเรา 

“เวลาที่ผมอยากรู้ว่ากัญชามันทำอะไรกับเราได้จริงหรือเปล่าหรือเราแค่มโนไปเอง ความโชคดีคือเรามีอินเตอร์เนต, มีผลการทดลองมากมาย แถมยังได้รู้จักบัดเทนเดอร์เก่ง ๆ ก็เลยรู้ว่าเราไม่ได้คิดไปเอง มันเป็นสิ่งที่ผ่านการทดสอบมาแล้วครับ”

นอกจากบัดเทนเดอร์แล้ว ยังมีอาชีพ “โกรเวอร์ (Growers)” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเพาะปลูกกัญชา พวกเขามีความเข้าใจแสงที่เหมาะสมสำหรับการปลูก ไม่ว่าจะเป็นแบบ Indoor และ Outdoor รวมไปถึงการใช้ดินที่เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการอย่างถูกต้อง 


ประสบการณ์ตรงจากต่างประเทศ

ไอซ์เคยมีประสบการณ์ได้ไปเยือนประเทศเสรีกัญชาในยุโรปมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสวีเดนและเดนมาร์ก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

“ผมเคยไปสวีเดน เมืองสตอกโฮล์ม ไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งเขาบอกว่าห้ามสูบบุหรี่นะผิดกฏหมาย แต่สามารถดูดกัญชาได้ ปรากฎว่ามีรถตำรวจมา แต่ขึ้นไปจับห้องข้างบนเพราะสูบบุหรี่ในห้อง ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เข้าเมืองเสรีกัญชา

แต่มันก็ไม่ได้หมายถึงว่าคนทั้งประเทศสูบกัญชานะครับ แต่ที่นั่นจะมีทั้งบัดเทนเดอร์, มีคลินิกครบเลย แล้วผมเคยไปชุมชนคริสเทเนียในโคเปเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่นั่นทุกคนยิ้มแย้ม ตำรวจจะคอยมาบอกว่าสามารถสูบกัญชาตรงไหนได้บ้าง ที่นั่นแต่ละร้านส่วนใหญ่มีภรรยาเป็นชาวอีสานเยอะเลยครับ อบอุ่นดีครับ ฮ่า ๆๆ

แล้วที่นั่นเขาขายทุกอย่างเกี่ยวกับกัญชาหมดเลย มีทั้งเสื้อผ้า, ถุงเท้า มีการเอาไปทำอิฐมวลเบาด้วยเช่นกัน”


การเลือกใช้อุปกรณ์

การเลือกใช้อุปกรณ์เสพกัญชาปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่สาระของมันจริง ๆ คือการเสพอย่างไรให้สารที่มีประโยชน์ยังคงอยู่มากที่สุด เพราะการเผาไหม้ที่มากเกินไปก็มีผลกระทบต่อสารเหล่านั้น

“อุปกรณ์มีผลมากครับ ปัจจุบันมีนักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ คิดอุปกรณ์ขึ้นมาจากความรู้เพื่อลดการเผาไหม้ที่ทำให้สารสำคัญที่มีประโยชน์หายไป จึงเกิดเป็นอุปกรณ์ที่หลากหลายขึ้นมา

ปัจจุบันนี้มีการอบแบบ Vaporizer อบเฉพาะไอระเหยที่มีความชื้นอยู่ในกัญชา ซึ่งมันจะได้สาร CBD ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ แต่ต้องใช้งานทันทีเพื่อไม่ให้สารมันลดคุณภาพลงครับ”


เสพกัญชาเสียชีวิต?

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินข่าวการเสพกัญชาเกินขนาดทำให้เสียชีวิต แต่ภายหลังได้มีการอธิบายข้อมูลจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้มาจากกัญชา ซึ่งทางไอซ์ก็ได้ร่วมยืนยันว่ากัญชาไม่มีทางทำให้คนเสพเสียชีวิต

“ผลวิจัยทั่วโลกไม่มีเคยมีเคสสูบกัญชาเกินขนาดแล้วตาย เพราะสารเคมีร่างกายเรามีสารแคนนาบินอยด์ซิสเตมอยู่แล้ว มันคือฮอร์โมนของเรา การที่เราได้ฮอร์โมนความสุขมากเกินไปมันจะทำให้ตายจริงหรือ? มันไม่เมคเซนส์

แต่ด้วยวิธีการนำเข้าร่างกายอาจจะมีส่วน ถ้าดูดควันในปริมาณที่มหาศาลก็จะทำให้ร่างกายแย่ได้ มันก็เป็นไปได้ครับ

ดังนั้นเราต้องหาความรู้เยอะ ๆ ก่อนจะหาอะไรเข้าสู่ร่างกาย ถ้าเรารู้ว่าเรากินอะไรเข้าไป เรารับอะไรเข้าไปมันจะมีประโยชน์ต่อตัวเอง ถ้าไม่รู้ก็ควรจะวิ่งหาผู้รู้ถึงจะดีที่สุด”


เสรีกัญชาต้องมาควบคู่ความรู้

นับตั้งแต่มีการปลดล็อกกัญชาในไทย ก็มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นมามากมาย รวมไปถึงเราได้เห็นบรรดานักเสพเปิดเผยตัวมากยิ่งขึ้น ถือเป็นภาพใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นนบ้านเรามาก่อน ดังนั้นการศึกษาหาความรู้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นลำดับแรก

“สำหรับเสรีกัญชาผมเองก็รู้สึกเฉย ๆ นะครับ เพราะผมเองก็ใช้กัญชามานาน แต่ความตื่นเต้นจริง ๆ คือการไปเดินถนนข้าวสารแล้วเหมือนอยู่กับอัมสเตอร์ดัมเลย มีขายสินค้าเกี่ยวกับกัญชาเต็มไปหมด 

แต่อีกมุมก็รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ คุยข้อมูลอะไรกัน ทำอะไรกัน ถ้าส่งต่อความรู้ผิด ๆ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างวะเนี่ย มันมีทั้งดีใจ เสียใจ และตกใจ ผสมกันไป

ผมกลัวคนขาดความรู้เรื่องการใช้งานที่ถูกต้อง หรือเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับกิจกรรม มันจะมีคนที่เอาสายพันธุ์ไปใช้ผิดกิจกรรมจนทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เขาก็จะมองมันแย่ไปหมดครับ”

เจ้าของฟาร์มกัญชาโชคชัยสี่ 20

คุณวิรัช ทวิรัช เจ้าของฟาร์มกัญชาโชคชัยสี่ 20

มีความคิดเห็นอย่างไรต่อธุรกิจกัญชาในไทยขณะนี้บ้าง?

“ในมุมมองผมมองว่าธุรกิจกัญชากำลังบ้าเห่อมาก มันกำลังจะขึ้นเป็นดอกเห็ดเหมือนร้านกาแฟ แต่เวลาจะคัดเลือกตัวจริงให้ยังอยู่ต่อ ส่วนผู้ใช้ผมคิดว่าจะเริ่มหาความรู้มากขึ้น จะเริ่มคิดก่อนใช้ พอทุกคนมีพฤติกรรมแบบนี้ทุกอย่างจะสวยงามขึ้นแน่นอนครับ”

ไอซ์ยังได้แนะนำเพิ่มเติมว่าอยากให้คนที่เพิ่งมาศึกษาหรือเสพกัญชาลองติดตามชุดความรู้จากรัฐบาล หรือสามารถมาพูดคุยกับกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “Smart User” ที่ไอซ์ได้ไปร่วมกิจกรรมบ่อย ๆ เป็นกลุ่มที่เสพกัญชาด้วยความรู้ มีคนหลากหลายอาชีพมากไม่ว่าจะเป็น นักดนตรี, ศิลปิน หรือนักธุรกิจ ใครอยากได้ความรู้ก็สามารถสอบถามคนในกลุ่มนี้ได้เลย


สิ่งที่ไอซ์เน้นย้ำเสมอตลอดการสัมภาษณ์คือการหาความรู้อย่างถูกต้องก่อนที่จะเสพกัญชา ถ้าหากเราใช้อยากถูกวิธีนอกจากจะไม่น่ากลัวมันยังมอบประโยชน์ที่ดีให้กับร่างกายเราอีกด้วยครับ

ทาง Unlockmen ต้องขอขอบคุณไอซ์และฟาร์มโชคชัยสี่ 20 ที่ให้เราได้เข้าไปสัมผัสโลกของกัญชาอย่างใกล้ชิดด้วยครับ

ติดตามทั้งในรูปแบบภาพและเสียงแบบเต็มอิ่มเอาใจสายเขียวกับคลิปสัมภาษณ์เร็ว ๆ นี้ที่แฟนเพจ Unlockmen

 

Photographer :Krittapas Suttikittibut

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line