The Subculture Style : จากวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม สู่แฟชั่นคนเมืองในปัจจุบัน

วัฒนธรรมการแต่งตัวของผู้ชายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มักหาคำนิยามต่างๆ เพื่อจำกัดความให้กับการแต่งตัว และเป็นการตีกรอบว่า การแต่งตัวแบบนี้คือแนวอะไร จนเกิดเป็นแนวทางต่างๆ มากมายที่คนหมู่มากเลือกและทำตาม ที่เราเรียกว่า Mainstream Culture และอีกพวกหนึ่งก็คือกลุ่มคน สังคม ที่มีการยึดถือบรรทัดฐาน การกำหนดคุณค่าของสิ่งที่เป็นรูปธรรม นามธรรม ที่แตกต่างกัน พูดคุยในเรื่องเดียวกัน และทำอะไรต่างจากสังคมส่วนใหญ่ ที่เราเรียกว่า Subculture

Subculture ถ้าให้เราอธิบายแบบง่ายๆ คือกลุ่มคนที่เกิดความลุ่มหลงทางดนตรี ปรัชญา ศาสนา รวมถึงแฟชั่นไปในเรื่องเดียวกัน ซึ่งในขณะนั้นวัฒนธรรมเหล่านี้ ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ของโลก จึงเกิดเป็นกลุ่มคนเล็กๆ ที่มารวมตัวทำในเรื่องเดียวกัน ซึ่งต่อมาถึงค่อยขยายไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่ถ้าให้นับมันก็ยังเป็น Subculture เพราะมันยังไม่ได้เป็นสิ่งที่คนทั้งหมดในสังคมยึดถือ และทำตาม

หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วหลายวัฒนธรรมอย่าง Hiphop , Grunge , Madchester , Surf  หรือ Mods  ล้วนเริ่มต้นจากการเป็น Subculture มาก่อนทั้งนั้น เห็นได้ว่าดนตรีนั้นเป็นตัวที่สะท้อนตัวตนของวัยรุ่นในทุกยุค แถมยังสามารถแบ่งแยกแนวการแต่งตัวได้ดีที่สุดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในเมื่อ UNLOCKMEN พูดถึงเรื่องนี้แล้ว  วันนี้เราจะพามาแต่งตัวในแนว  Subculture รวมถึง Key Item ที่ขาดไม่ได้อย่าง Inner Wear สำหรับการแต่งตัวสไตล์ Subculture กัน

( คุณคริส – ธนกฤต แสงวณิช )

Grunge

ถ้าจะบอกว่าแนว Grunge นั้นมีต้นแบบมาจากสุดยอดนักร้องอย่าง Kurt Cobain ก็ดูจะไม่เกินจริง เพราะในยุคสมัยที่มองไปทางไหน ก็มีแต่คนแต่งตัวร๊อคผมยาว เสื้อหนังกางเกงหนัง แต่แนว Grunge ได้ทำลายกำแพงเหล่านั้น แนว Grunge ถ้าให้เราบอกอาจจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างคลุมเคลืออยู่นิดๆ เพราะมันได้ผสมระหว่างแนว Punk และ Casual Outdoorwear แต่เราอยากจะให้เน้นไปที่ความดิบของตัวดีเทล ที่เสื้อลายสก๊อตจะใหญ่โคร่งๆ หน่อย รวมถึงกางเกงจะไม่ Skinny จนเกินไป แล้วก็มีริ้วรอยการขาดให้บ่งบอกความดิบของมัน รองเท้าก็ต้องเซอร์ๆ แบบ Converse จะตอบโจทย์ที่สุด

( คุณพิท – พิชญ์ กาไชย )

Mods

สไตล์ Mods มันไม่ได้เกิดจากแนวดนตรีเหมือนสไตล์ก่อนหน้านี้ แต่เป็นการพูดถึงเรื่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของวัยรุ่นอังกฤษในช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นที่นิยมอย่างมาก พวกเขาจะมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจนด้วยกลิ่นอายความเนี้ยบแบบฉบับคนอังกฤษกางเกงก็ต้องเป็นสแล๊คกับรองเท้า Dress Shoes แต่จะมีการใส่เสื้อ Outerwear สีกรม หรือจะเป็นการใส่เสื้อ Polo หรือเสื้อยืด Inner Wear ไว้เป็น Layer ข้างใน หากใครนึกภาพสไตล์ Mods ไม่ชัด ให้นึกไปถึงการแต่งตัวของ Liam Gallagher ของวง Oasis

( คุณเบส – จิตติ พรหมสาขา ณ สกลนคร )

Greaser

แนวนี้มีมาตั้งแต่สมัย 40s จุดเริ่มต้นในอเมริกาซึ่งเป็น Subculture ของวัยรุ่นอเมริกันที่หลงรักในดนตรี Rock and roll ที่มี Elvis Presley เป็นไอดอล สไตล์การแต่งตัวของพวกเขาจะมีทั้งแบบ Rockabilly รวมไปถึง Denim Workwear ต่างๆ ก็เป็นสัญลักษณ์ของ Greaser ซึ่งแน่นอนว่า ไอเทมที่ขาดไม่ได้ก็คือเสื้อ Inner wear ที่ไว้คู่กับ Jacket คู่ใจ กางเกงก็ต้องขาเต่อ เพื่อโชว์ถุงเท้า แล้วก็รองเท้าหนังสีดำ ทรงผมก็ต้องถูกจัดแต่งโดย Pomade ให้เรียบเงา หากจะมองภาพไอคอนสักคนที่มีแนว Greaser ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนั้นคือ James Dean ซุปเปอร์ไอคอนตลอดกาลนั้นเอง

( คุณอู๋ – ธีรยุทธ เธียรชัยบัณฑิต )

Surf

วัฒนธรรมแนว Surf ก็นับว่าเป็น Sub Culture เหมือนกันเพราะเป็นการรวมกลุ่มของคนที่ชอบการเล่นกระดานโต้คลื่นเป็นชีวิตจริงใจ แล้วพวกเขาก็มีการแต่งตัวที่เฉพาะพิเศษอาจเพราะต้องอยู่กับแสงแดด และทะเลมากจะให้มาใส่ยีนส์ เสื้อแจ๊กแกตหนังก็คงไม่ได้ สไตล์การแต่งตัวแบบ Surf ที่เราจะแนะนำก็คือหากางเกงขาสั้นสไตล์ Sweatshirt short มาบวกกับ เสื้อเชิ้ตแขนสั้น แล้วใส่ Innner Wear ข้างใน หรืออาจจะหาเสื้อ Hoodie แบบมีซิบที่ผ้าไม่หนามากมาใส่กันลมกันแดดแทน บวกกับรองเท้าอาจจะเลือกเป็นรองเท้า Sandals มาใส่ก็ได้ลุค Surf เป็นที่เรียบร้อย

( คุณดูแปง – สรตริ คหัตฐา )

Madchester

แนวการแต่งตัวที่มีรากเหง้ามากจากดนตรีของเมือง Manchester นอกจากนั้นมันยังส่งผลไปถึงการแต่งตัวของคนที่คลั่งไคล้ดนตรีแบบนี้ Madchester หรือเรียกอย่างว่า Baggy คนที่เสพดนตรีแนวนี้ก็จะแต่งตัวเสื้อยืดเป็นหลัก แต่ในหน้าหนาวก็จะมี Sport jacket ที่เป็นลักษณะซิบ แล้วก็ชื่นชอบใส่อะไรหลวมๆ รองเท้าก็จะเป็นรองเท้า Sneaker และใส่หมวก Bucket hat

จะเห็นได้ว่าทุกแนวทางการแต่งตัวสไตล์ Subculture นั้นล้วนต้องมี Key Item ที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ Inner wear ซึ่งแน่นอน ตามความเข้าใจคนทั่วไปอาจคิดว่า Inner wear คือเสื้อขาวล้วนเรียบๆ มาใส่ แต่จริงๆ แล้วสไตล์เหล่านี้ล้วนถูกพัฒนาจนเป็น Modern trend ซึ่งจะให้ใส่เรียบๆ ก็ดูทำธรรมดาเกินไป

ในเมื่ออากาศบ้านเราไม่ค่อยอำนวยให้ใส่ Jacket สักเท่าไหร่ ดังนั้นเราลองหา Inner wear ที่มีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างตะเข็บแขนที่เย็บให้มันต่อติดกัน เหมือนเราพับแขนเสื้อ หรือจะเป็นตะเข็บเฉียงบริเวณไหล่ก็ทำให้ Inner wear มีดีเทลพิเศษเป็นเอกลักษณ์ เพราะนอกจากจะใส่ร่วมกับสไตล์ที่เราบอกมาก่อนหน้านี้ เวลาที่ใส่เดี่ยวๆ ก็ยังทำให้คุณมีสไตล์ที่โดดเด่นได้เช่นกัน อย่าง Inner wear ที่ออกแบบ มีดีเทลในตัวเอง ใส่สบายที่เราอยากแนะนำก็มีของแบรนด์ Greyhound ถ้าใครสนใจก็สามารถแวะเข้าไปชมได้ที่ร้าน Greyhound Original concept store ชั้น 1 Siam Paragon ครับ