TRUE STORY OF BMW LOGO ที่มาอันลึกลับ กับเรื่องราวที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของโลโก้ BMW มาตลอดกาล

“Logo หรือ ตราสัญลักษณ์” เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่หลายองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นกว่าจะได้ Logo มาหนึ่งอัน ต้องผ่านขั้นตอนการออกแบบจากมันสมองของ Designer มืออาชีพมากมาย ที่ได้พยายามกลั่นกรองจนตกตะกอนมาแล้วเป็นอย่างดี กว่าจะได้ Logo ที่ดีออกมามีความหมายครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ สวยงามลงตัว จดจำได้ง่าย และที่สำคัญมันต้องซ่อนความหมายและตัวตนที่แท้จริงเอาไว้เสมอ อย่างเช่น BWM Logo จากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี ที่ใครต่อใครเห็นตรา Logo ฟ้า-ขาว แม้ตาบอดสีก็รู้แจ้งได้ในทันทีว่า มันคือ Logo ของแบรนด์รถยนต์ที่ยอดเยี่ยมทั้งด้านสมรรถนะและความหรูหรา

หลายต่อหลายคน จดจำมันได้เป็นอย่างดี เห็นแค่เสี้ยวเดียวก็รู้ทันทีว่ามันคือแบรนด์ BMW แต่ความหมายที่แท้จริงของมันนี่สิ ที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ หรืออาจจะเข้าใจผิดมาตลอดว่า  Logo ทรงกลมที่มีช่องสีฟ้า-ขาว นั้น มันเป็นสัญลักษณ์ของใบพัดเครื่องบินที่ตัดกับท้องฟ้า ถูกนำมาใช้เพื่อที่จะทำให้ทุกคนหวนกลับไปนึกถึงรากเหง้าที่แท้จริงของบริษัท ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน แต่ทว่าเรื่องดังกล่าวนั้น กลับเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดอันยาวนานเท่านั้น!!

เราจะพาไปไขความลับ เกี่ยวกับเรื่องราวของตราสัญลักษณ์ BMW ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ถึงจุดกำเนิดที่มาของโลโก้ BMW ตั้งแต่รูปทรงกลม ตำแหน่งตัวหนังสือ รวมไปถึงสีฟ้าขาวด้านใน ว่าถ้าไม่ใช่ใบพัดเครื่องบินอย่างที่หลายคนเข้าใจ แล้วสรุปมันคืออะไรกันแน่

แรงบันดาลใจของ Logo หรือ ตราสัญลักษณ์ BMW นั้น ที่จริงแล้ว แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือรูปทรงกลมและตำแหน่งตัวหนังสือ BMW ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากโลโก้ของบริษัทเดิม ต้องย้อนไปไกลถึงจุดเริ่มต้นปี 1913 เมื่อ Karl Rapp ก่อตั้งบริษัท Rapp Motorenwerke ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและรถยนต์ตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลก ซึ่งก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เกือบเจ๊งไปก็หลายครั้ง ก่อนจะมาโด่งดังจากผลงานของ Franz Josef Popp และ Max Friz ช่วยต่อยอดพัฒนาเครื่องยนต์เพื่อการทหารที่ Rapp ทำแล้วไม่มีอนาคต จนได้ผลงานออกมาเป็น ‘Type III’ สุดยอดเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงในปี 1917 จน Rapp Motorenwerke ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า กองทัพไหน ๆ ก็ต้องสั่งเครื่องยนต์ที่นี่  ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีกันในพริบตา

แต่เมื่อประสบความสำเร็จ ก็มีการแตกคอกันของกลุ่มผู้ก่อตั้ง เมื่อ Rapp ถูกเฉดออกไปจากบริษัทในเดือนกรกฎาคม ปี 1917 เหลือเพียง Popp และ Friz จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อบริษัท และในเดือนเดียวกัน ก็เป็นที่มาของการจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อคุ้นหูพวกเราว่า Bayerische Motoren Werke (BMW) เป็นครั้งแรก และต่อมาอีกไม่นาน ในวันที่ 5 ตุลาคม 1917 บริษัท Bayerische Motoren Werke ก็ได้ทำการใช้โลโก้เครื่องหมายการค้าของบริษัทใหม่ โดยยังคงรูปทรงกลมเหมือนเดิม และใช้ตัวอักษรย่อ BMW ไว้ตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นชื่อ Rapp นั่นเอง

ส่วนสีฟ้าขาวข้างในทรงกลม ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใบพัดเครื่องบินหรือท้องฟ้าเลยแม้แต่น้อย แต่มันได้รับอิทธิพลมาจากสีของธงประจำรัฐ Free State of Bavaria หรือ รัฐบาวาเรีย ที่เก่าแก่ของเยอรมนีต่างหาก ซึ่งชื่อเต็มของ BMW จากภาษาเยอรมันก็คือ Bayerische Motoren Werke (Bavarian Motor Works in English) โดยในช่วงแรก BMW โดนสั่งห้ามไม่ให้นำส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวแทนประเทศไปใช้เป็นโลโก้ ก็เลยมีการบิดดัดแปลงนิดหน่อย แต่ก็ยังคงจุดเด่นของความเป็น Bavarian อยู่เหมือนเดิม จนกลายมาเป็นตราสัญลักษณ์แบบที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

ความเชื่อมโยงของประวัติศาสตร์กับ Logo BMW รวมไปถึงสีธงชาติประจำรัฐ Bavaria นั้น ถือเป็นการบ่งบอกถึงจุดกำเนิดตัวตนที่แท้จริงอันน่าภาคภูมิใจ เพราะสัญลักษณ์ที่เราเห็นกันจนชินตานั้น น้อยคนที่จะรู้เรื่องราวแบบเต็ม ๆ ขนาดนี้ ในคลิปของ National Geographic บอกว่าแม้แต่พนักงาน BMW เองก็ยังไม่ค่อยจะรู้เช่นกัน

ส่วนเรื่องราวความเกี่ยวข้องของใบพัดเครื่องบิน กับ Logo ของ BMW ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการมโนขึ้นมาแบบไร้เหตุผลไปซะทีเดียว เพราะมันเป็นการที่คนได้นำเอาภาพโฆษณาภาพหนึ่งที่ BMW ใช้ในปี 1929 โดยภาพโฆษณาที่ว่านี้ก็คือ ภาพของเครื่องบินใบพัดเดี่ยว ที่ถูกวางทับด้วย Logo ของ BMW ซึ่งความตั้งใจของ BMW ในตอนนั้นคือ ต้องการใช้ประวัติที่ยิ่งใหญ่ในด้านเครื่องบิน ขายเครื่องยนต์เครื่องบินนั่นเอง

หลังจากภาพโฆษณาดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป คนก็เริ่มเชื่อมโยง Logo ของ BMW เข้ากับเครื่องบินใบพัดกันไปเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่ผ่านปากต่อปากมาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน กระทั่งคนในยุคปัจจุบันยังคิดว่าเป็นเรื่องจริงของแบรนด์ BMW ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สุดท้ายไม่ว่าโลโก้ BMW จะมาจากเหตุผลอะไร ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับ BMW เพราะมันไม่ใช่เพียงการเข้าใจผิดที่มีประโยชน์ด้านชื่อเสียงเท่านั้น แต่คุณภาพรถยนต์ของเค้า ก็นับว่าดีงามไม่แพ้ใคร ดังนั้นไม่ว่าต้นกำเนิดจะเป็นสีธงชาติ หรือใบพัดเครื่องบิน เราก็อยากครอบครองมันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี

SOURCE