Life

The Waldos จากมิตรภาพเล็ก ๆ ของกลุ่มเพื่อนนักปุ๊นในปี 1971 สู่ผู้ให้กำเนิดวัน 420 ของเหล่าสหายสายเขียวทั่วโลก !

By: GEESUCH April 21, 2023

เมื่อเราพูดถึงที่มาของวันร่วมสุขด้วยกัญ ของประชาชนสายเขียวทั่วโลก 420 นั้น มันเป็นเหมือนกับว่าเราต้องพูดถึงทฤษฎีสมคบคิด เรื่องลึกลับ และสัตว์ประหลาด (ขออนุญาต Untitled Case มา ณ ที่นี้ด้วยครับ) บ้างก็ว่าเป็นรหัสลับที่ตำรวจใช้กัน บ้างก็ว่าเป็น Symbolic ในป็อปคัลเจอร์เพราะผู้กำกับ Quentin Talantino เลือกตั้งนาฬิหาของตัวละครใน Pulp Fiction เป็นเวลา 04:20 ทุกซีน และบางเสียงลือเสียงเล่าอ้างไปไกลถึงมีเพื่อสดุดีวันเกิดของผู้นำที่เลวร้ายที่สุดของโลกอย่าง Adolf Hitler !  

คำตอบที่ถูกต้องสำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่ถูกพูดถึงในบรรทัดก่อน สิ่งที่เข้าเค้าที่สุด และดูเหมือนว่าจะเป็นจริงที่สุด คือเรื่องราวของกลุ่มเด็กหนุ่ม 5 คนจากปี 1971 ที่นัดปุ๊นด้วยกันหลังเลิกเรียน ก่อนที่จะมีเรื่องของการตามล่าหาสมบัติ (นักดูด) ไปจนถึงเป็นวัฒนธรรมที่ถูกเผยแพร่ด้วยวงดนตรีตัวแทนของเหล่าหนุ่ม-สาวบุปผาชนชื่อ The Greatful Dead 

ธง 420 จากปี 1972 ออกแบบโดยเพื่อนร่วมห้องของ The Waldos

UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ The Waldos กับประวัติศาสตร์เล็ก ๆ ของอดีตวัยรุ่น 5 คน ซึ่งผู้คนทั่วโลกเชื่อกัญว่า พวกเขานี่ล่ะคือผู้ให้กำเนิดวัฒนธรรม 420 อย่างแท้จริง 


ปี 1971 / หน้ารูปปั้น Louis Pasteur / โรงเรียน San Rafael High School / เวลา 04:20 

Steve Capper / Dave Reddix / Jeffrey Noel / Larry Schwartz แก๊ง The Waldos หน้ารูปปั้น Louis Pasteur (2018)

ฤดูใบไม้ร่วงในปี 1971 ในช่วงเวลาที่เสียงประกาศกิจกรรมนอกหลักสูตรทั้งหมดจบลง และมันเป็นวันศุกร์ที่เด็กมัธยมของ San Rafael High School (California) จะเตรียมตัวกันไปดูแข่งอเมริกันฟุตบอลราวกับว่าเป็นพิธีกรรมที่ขาดไม่ได้ในช่วงเวลาประทับใจของชีวิตวัยรุ่น แต่ Steve Capper / Dave Reddix / Jeffrey Noel / Larry Schwartz และ Mark Gravich เด็กหนุ่มทั้ง 5 คนกับมีความคิดที่ต่างออกไป 

พวกเขามักจะนัดรวมตัวกันที่ ‘กำแพง’ ซึ่งเป็นโลเคชั่น ที่อยู่บริเวณหน้าโรงอาหารของโรงเรียนหลีกหนีความหน้าเบื่อของกิจกรรมในบรรทัดก่อนหน้า โดยพวกเขาเรียกตัวเองว่า The Waldos ซึ่งสื่อความหมายถึงกำแพงนั้น ในการนัดรวมตัวกันแต่ละครั้งก็จะหาชาเลนจ์มาท้าทายคนในกลุ่มเสมอ ๆ และบางครั้งก็จะมีการเดินทางไกลกันสนุก ๆ บ้าง พวกเขาเรียกกิจกรรมผจญภัยประจำกลุ่มว่า “Safaris” และกฎของการเข้าร่วมนั้นมีข้อสำคัญข้อเดียว คือต้องปุ๊น

จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของ 420 มาจากตรงนี้

ในวันหนึ่ง (ของปีเดียวกัน) ขณะที่ Steve , Dave และ Mark นัดเจอกันปกติที่กำแพงเพื่อรอให้ The Waldos อีก 2 คนตามมาสมทบทีหลังอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเพื่อนในโรงเรียนคนหนึ่งเข้ามาคุยกับพวกเขา พร้อมกับเรื่องเล่าที่จะทำให้ทั้ง 5 ต้องตาลุกวาวในเวลาต่อมา … เพื่อนคนนั้นบอกว่า เขามีพี่ชายทำงานเป็นยามชายฝั่ง ซึ่งพี่ของเขากับเพื่อน ๆ ยามอีก 2-3 คนกำลังทำโปรเจกต์ปลูกสมุนไพรใบแฉกกันแบบชุดใหญ่อยู่ที่ชายฝั่ง Point Reyes แต่ทว่า พี่ชายและแก๊งของเขากำลังสงสัยว่าผู้บังคับบัญชาของตัวเองได้กลิ่นตะหงิด ๆ ถึงโปรเจคต์นี้ และพวกเขาก็กำลังจะถูกจับได้ในไม่ช้า พวกเขาก็เลยสละเรือยกเลิกการเก็บเกี่ยวผลผลิตไป ทิ้งให้ฟาร์มนั้นร้างไม่มีเจ้าของ 

“ถ้าพวกนายทั้ง 5 คนอยากได้สมุนไพรไว้ใช้แบบฟรี ๆ ล่ะก็ นี่คือแผนที่ลายแทงของฟาร์มนั้น” 

1966 Chevy Impala ของ Steve Capper

แน่นอนว่าสำหรับทั้ง 3 คน นี่คือขุมทรัพย์ที่เป็นภารกิจครั้งใหญ่ของกิจกรรม Safaris เลยนะ แม้จะยังไม่ได้ถามความสมัครใจของ Jeffrey กับ Larry ที่กำลังซ้อมฟุตบอลหลังเรียกเรียนอยู่ ขึ้นชื่อว่า The Waldos ยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว 

ทั้ง 5 คนเปลี่ยนจุดนับพบใหม่ในโรงเรียน ให้ไปเจอกันที่บริวเณหน้าปติมากรรมรูปปั้น Louis Pasteur นักเคมีคนสำคัญของโลก ตอนเวลา 4 โมง 20 นาที เพื่อความง่ายต่อการเดินทาง เมื่อสมาชิก The Waldos รวมตัวกันจนครบแล้ว พวกเขาก็จัดแจงขึ้นรถ 1966 Chevy Impala ของ Steve เพื่อไปยังจุดหมายของนักปุ๊นตัวยงรออยู่ … เราขอสปอยล์ตรงนี้เลยว่า The Waldos ไม่เจอสมุนไพรตามแผนที่จากเพื่อนนักเรียนคนนั้น แต่มันก็เป็นการผจญภัยที่สำคัญที่สุดของกลุ่ม เพราะตั้งแต่วันนั้นเป็นตั้นมา เลข 420 ก็ถูกใช้เพื่อเป็นรหัสสำหรับการนัดรวมตัวปุ๊นของ The Waldos มาโดยตลอด 

“ตอนแรกเราจะใช้คำว่า 420 Louis แล้วก็ตัดสินใจตัดคำสุดท้ายออกไป ความเจ๋งก็คือ มันเป็นรหัสลับที่พวกเราสามารถใช้ต่อหน้าเพื่อน ครู พ่อแม่ หรือกระทั่งตำรวจ โดยที่เขาไม่รู้ว่าเรากำลังพูดถึงอะไรกัน”

– Dave Reddix


ปี 1975 / วง The Grateful Dead / นิตยสาร High Times Magazine

The Waldos

หลังจากจบจาก High School สมาชิกของ The Waldos ก็ยังคงนัดรวมตัวกันเพื่อทำ 420 อย่างไม่ขาดสาย แล้วในปี 1975 วัฒนธรรม 420 ก็กำลังจะกลายเป็นคำที่ใช้เรียกแทนควันของเหล่าหนุ่มสาวบุปผาชนทั้งหลายทั่วโลกผ่านตัวกลางที่เป็นวงดนตรีวงหนึ่ง

หลังจากออกทัวร์ติดกันมาตลอดหลายเดือน The Grateful Dead ตัดสินใจที่จะหยุดสักพัก แล้วซื้อบ้านอยู่บนเนินเขา Marin Country (California) เพื่อเอาเวลาไปทำอัลบั้มใหม่ ในช่วงเวลานั้นเอง พี่ชายของ Dave Reddix ผู้ที่สนิทกับ Phil Lesh มือเบสของวง ได้ยื่นข้อเสนอให้น้องชายมาทำหน้าที่เป็น Roadies (เด็กยกเครื่อง ซัทอัพเวทีและอื่น ๆ) ของวง และเพราะว่า Dave รับงานนี้ นั่นจึงทำให้ The Waldos ได้เข้าไปอยู่หลังเวทีประหนึ่งเป็นกรุ๊ปปี้ในช่วงเวลาที่วงออกทัวร์อีกครั้งด้วย คำว่า 420 จากหนุ่ม ๆ ทั้ง 5 ส่งต่อพันลำตัวแล้วตัวเล่า จนเป็นคำที่ถูกเรียกแบบติดปากของวงและแฟนเพลงที่ไปดูพวกเขาในเวลานั้นไปด้วย แต่นั่นเป็นแค่ชนวน ระเบิดของ 420 อยู่ในบรรทัดต่อจากนี้ … 

ตัดภาพมาไว ๆ ในปี 1990 ณ คอนเสิร์ตหนึ่งของ The Grateful Dead ใน Oakland เหล่า Deadheads (ชื่อด้อมของวง) ได้ทำใบปลิวปริศนาซึ่งเป็นประกาศชวนทุกคนไปปาร์ตี้จอย ๆ สมุนไพรสีเขียวหลังคอนเสิร์ตจบในวันถัดไป 20 เมษายน 1990 ตอนเวลา 04:20 p.m. ที่ยอดเขา Mount Tamalpais เนื้อความในใบปลิวใช้คำว่า “ร่วมฉลอง 420”  

สิ่งที่พีคที่สุดในปาร์ตี้ครั้งนั้น คือการที่ Steve Bloom นักข่าวของ High Times Magazine นิตสารที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมกัญชาในช่วงเวลานั้น ได้เข้าร่วมจอยปุ๊นด้วยเหมือนกัน แล้วในปีถัดมา 1991 คอลัมน์ที่พูดถึงปาร์ตี้ 420 ครั้งนั้นก็ถูกพิมพ์จำหน่ายไปทั่วโลก โค้ดลับจึงกลายเป็นโค้ดไม่ลับอีกต่อไป … ต่อมาช่วงเวลาหลังจากนั้นหลายปี ในปี 1998 เพื่อตอกย้ำการมีอยู่ของผู้ให้กำเนิด 420 อย่างชัดเจนอีกครั้ง High Times ได้เขียนคอลัมน์ชื่อ “marijuana smoking in progress” ที่มาจากการสัมภาษณ์ The Waldos ทั้ง 5 คน เพื่อให้คนได้รู้ว่า 420 ที่แท้จริงมีที่มาอย่างไร 


ปี 2022 / The Waldos ในปัจจุบัน

รูปภาพในความทรงจำของแก๊ง The Waldos

ในปี 2022 Steve Capper และ Dave Reddix ให้สัมภาษณ์กับ L.A. Times ว่า ย้อนกลับไปในช่วงแรก ๆ ที่กลายเป็นกระแส The Waldos ทั้ง 5 คนไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับนามสกุล ‘ผู้ให้กำเนิด 420’ เลย แต่ Steve กับ Dave ก็คุยกันว่าเราควรเคลมสิ่งที่เป็นของเรานะ แต่เพื่อนอีก 3 คน (Jeffrey Noel / Larry Schwartz / Mark Gravich) ไม่เห็นด้วย พวกเขามีลูกและไม่อยากถูกสังคมมองว่าเป็นพ่อคนที่ติดกัญชา จนกระทั่งในปี 2012 จึงออกมาช่วยกันเคลมกับอีก 2 คนข้างต้น 

มิตรภาพของทั้ง 5 คนยังคงยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน และแน่นอนว่าพวกเขาก็ยังคงมีจอย ๆ สมุนไพรกันบ้าง ถึงจะไม่ได้ทำทุกวันเหมือนแต่ก่อนแล้วก็ตาม เราว่าสิ่งที่ทำให้ The Waldos เป็นตำนาน ก็คือภาพความสวยงามของสิ่งที่เรียกว่า ‘มิตรภาพ’ ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นโทษไปเสียหมด แล้วก็ไม่มีใครสามารถพูดได้เช่นกันว่ามันมีแต่ประโยชน์เช่นกัน แต่การที่มันสร้างมิตรภาพแบบที่ชีวิตนึงอาจไม่มีทางเจอได้เลยให้กลุ่มคนเหล่านั้น พร้อมกับส่งต่อวัฒนธรรมดี ๆ สู่คนทั่วโลก ก็สามารถเรียกว่ามีสิ่งดี ๆ ได้อย่างเต็มปากล่ะนะ : )

Dave Reddix : “พวกเรายังคงคุยกันแทบทุกวัน แล้วก็มีออกไปผจญภัย Safaris กันบ้างเป็นครั้งคราว”

Steve Capper : “เราอยู่ในงานแต่งของกันและกัน งานรับปริญญาของลูก ๆ ไปจนถึงพิธีทางศาสนาของแต่ละคน นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เห็นว่า 420 เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ จากภูเขาน้ำแข็ง ในเรื่องราวทั้งหมดของ The Waldos ก็เท่านั้นเอง”


Source 1 / 2 / 3 / 4

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line