FASHION

แบรนด์เก๋า เลือดใหม่ เปิดประวัติพร้อมคอลเลคชั่นใหม่สุดร้อนแรง Tommy Hilfiger x The Chainsmokers

By: Thada September 14, 2017

หากกล่าวถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่บ่งบอก และสะท้อนความเป็นอเมริกันชน แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ  Tommy  Hilfiger  อยู่ในนั้น เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขามีส่วนในการปฎิวัติสไตล์การแต่งตัวของชาวอเมริกันรวมถึงคนทั่วโลก

source : http://namebrandhistory.blogspot.com/2013/12/tommy-hilfiger-co.html

ย้อนกลับไปราว ๆ 30 กว่าปีก่อน นาย Thomas Jacob Hilfiger ต้องการอยากจะเป็นดีไซเนอร์ และมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาและเพื่อนได้ลงขันเพื่อรับเสื้อผ้ามาขายจนเกิดเป็นธุรกิจเล็ก ๆ โดยพวกเขาใช้ชื่อร้านว่า People’s Place ด้วยผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้ Thomas สามารถขยายสาขาได้กว่า 10 สาขาในเวลาไม่นาน เขาจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย และมุ่งหน้าสู่การมีธุรกิจเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง

source : http://www.elle.it/shopping/news/g1033748/true-to-the-blue-collezione-jeans-denim-tommy-hilfiger/

ธุรกิจที่ดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย แต่ก็ต้องมาสะดุดในปีที่ 7 ของการทำงาน เพราะว่างานที่มุ่งเน้นแต่เรื่องดีไซน์ แต่ขาดความรอบคอบ และเชี่ยวชาญในการบริหารเงิน ก็ไม่อาจทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ เมื่อร้าน People’s Place ประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง จนสุดท้าย Thomas ต้องร้องขอต่อศาลให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายด้วยวัยเพียง 25 ปี จากความล้มเหลวในครั้งนี้ เขาจึงได้ค้นพบว่าการดูแลการเงิน และงานบริหารก็เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจแฟชั่นไม่แพ้เรื่องของดีไซน์เสื้อผ้า

source : dailymail.co.uk

หลังจากล้มเหลวในธุรกิจแรก เขาก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานที่ตัวเองรัก และเหมือนโชคชะตาจะนำพาเขาให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเขาได้พบนักธุรกิจชาวอินเดียที่ชื่อ Mohan Murjani และเสนอเงินให้ Thomas ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ Tommy Hilfiger เพียงแค่คอลเลคชั่นแรก Tommy Hilfiger ก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยสไตล์เรียบง่ายที่แตกต่าง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Preppy with a twist” จนเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่แฝงไปด้วย ความลำลอง เรียบ เท่ มีสีสัน และสวมใส่สบาย

source : http://www.highsnobiety.com/2015/10/07/tommy-hilfiger-racism-scandal/

source : http://www.complex.com/style/2016/08/tommy-hilfiger-hiphop-oral-history

ด้วยจังหวะที่เหมาะสม ทำให้ Tommy Hilfiger ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น งานดีไซน์อันสร้างสรรค์บวกกับแคมเปญการตลาดที่รุกหนัก หลังจากมีหุ้นส่วนใหม่มาผนึกกำลัง ทำให้แบรนด์มีการขยายตลาด ส่งต่อแฟชั่นไปยังยุโรป และเอเชีย ส่งผลให้ยอดขายไต่ระดับไปสู่พันล้านเหรียญสหรัฐ

ในปี ค.ศ. 1992  Thomas Jacob Hilfiger กลายเป็นดีไซเนอร์คนแรกที่สามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กได้สำเร็จ พร้อมกับขยายไลน์สินค้าจากเสื้อผ้าไปเป็น Tommy Denim, Hilfiger Talior, Hilfiger Collection ที่ประกอบไปด้วย กางเกงยีนส์ เสื้อผ้าเด็ก น้ำหอม ของแต่งบ้าน และเครื่องประดับต่าง ๆ

source : http://needfindknow.com/18-epically-90s-tommy-hilfiger-moments/

พอเข้าสู่ต้นทศวรรษ 2000’s Thomas ตัดสินใจขายหุ้นบริษัทจำนวนหนึ่งให้กับ Apex Partner และขายหุ้นในมืออีกครั้งในปี 2010 ให้กับบริษัท PVH corp ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Calvin Klein, Arrow, Speedo และอีกหลายแบรนด์ดัง เป็นผู้ถือหุ้นของแบรนด์ Tommy Hilfiger จนถึงปัจจุบันเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทให้ดีขึ้น

source : http://www.vogue.it/en/shows/oddities/2013/01/tommy-hilfiger-spring-summer-2013-advert-campaign

แม้จะเปลี่ยนผู้ถือหุ้น แต่ Thomas Jacob Hilfiger เองยังมีบทบาทในฐานะหัวหน้าทีมออกแบบ รวมถึงเป็นตัวแทนบริษัทในการออกงานแฟชั่นโชว์ต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน และในช่วงปีที่ผ่านมา แบรนด์ Tommy Hilfiger ก็ถือว่าเริ่มฟื้นตัว และได้รับความสนใจในวงกว้างอีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัย แต่ยังคงเก็บรักษาเอกลักษณ์เดิมอันทรงคุณค่าไว้อย่างครบถ้วน

Tommy Hilfiger ได้เปิดตัวพรีเซอร์เตอร์คนใหม่ ‘The Chainsmokers’ ศิลปินดูโอ้เจ้าของรางวัลแกรมมี่ปีล่าสุด ในฐานะ Brand Ambrassadors  เพื่อช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่านความสนุกสนานของจังหวะดนตรี ซึ่งการผสมผสานแฟชั่นกับดนตรี ถือเป็นรากฐานและสัญลักษณ์อันเก่าแก่ของเสื้อผ้าจาก Tommy Hilfiger อยู่แล้ว

Daniel Grieder CEO ของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าวว่า “แนวทางการบุกเบิกแฟชั่นและดนตรีของ Tommy เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษของเรา  การร่วมงานกับ The Chainsmokers สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ในการดึงดูดลูกค้ารุ่นใหม่สู่ Tommy Hilfiger ด้วยการรวบรวมแฟชั่นที่น่าตื่นเต้น ประสบการณ์การชอปปิงที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว และความสะดวกในการชอปปิง เสื้อผ้าบุรุษของเรายังคงเป็นจุดสนใจที่สำคัญ ในการปลดล็อคศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบให้กับแบรนด์ Tommy Hilfiger ในทุกภูมิภาคทั่วโลก”

ซึ่งตัวของ Tommy Hilfiger ดูจะมั่นใจกับการเลือกใช้ The Chainsmokers มาก ถึงขนาดให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “Alex และ Drew ถือเป็นตัวอย่างของ Tommy Guy ที่สมบูรณ์แบบ เพราะทั้งคู่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว เท่ โดดเด่น เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมป๊อปในโลกดนตรีปัจจุบัน มีทั้งความสามารถ อารมร์ดี มีความคิดสร้างสรรค์ และเท่ได้แบบไม่ต้องแต่งเติมอะไรให้มากเกินไป เรียกว่าโดดเด่นในแนวทางของตัวเอง และเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขาในวงการแฟชั่น”

จะว่าไป การเลือกทำงานกับ The Chainsmokers ก็ถือว่าเป็น Great Move ของ Tommy Hilfiger เพราะศิลปิน duo คู่นี้ก็มีความสามารถและสไตล์ที่น่าสนใจมากจริง ๆ พวกเขาเพิ่งจะก่อตั้งเมื่อปี 2012 มีสมาชิกสองคนได้แก่ Alex Pall และ Andrew Taggart ซึ่งพวกเขามียอดขายมากกว่า 10 ล้านซิงเกิ้ล และปัจจุบันเป็นศิลปินที่มีคนฟังทางออนไลน์มากที่สุดอันดับ 3 ของโลก  ในปี 2017 The Chainsmokers ได้รับรางวัล Best Dance Recording Grammy จากเพลง “Don’t Let Me Down” ในขณะที่เพลง “Closer” ได้รางวัล Top Collaboration of the Year จาก Billboard Music Awards  นอกจากนี้ยังเป็น Lyric Video เพลงแรกในประวัติศาสตร์ที่มีผู้ดูมากกว่าหนึ่งพันล้านครั้ง ดังนั้นบรรดาแฟนคลับที่จะรู้สึกอยากใส่ Tommy Hilfiger เหมือนศิลปินในดวงใจ จึงมีจำนวนมากมายมหาศาลแน่นอน

แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับแบรนด์ Tommy Hilfiger ในการร่วมงานกับศิลปิน นักดนตรี เพราะก่อนหน้านี้ Tommy Hilfiger ก็มีความสัมพันธ์อันยาวนานแน่นแฟ้นกับวงการเพลงมาเสมอ และในยุค 90 Tommy Hilfiger ได้เป็นหนึ่งในนักออกแบบรายแรก ๆ ที่ผสมผสานแฟชั่น กับดารา นักร้อง จนกลายเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้วยการแต่งตัวศิลปินหนุ่ม เช่น Aaliyah, Mark Ronson และ Usher อีกทั้งยังสนับสนุนทัวร์ให้กับ Britney Spears และ Lenny Kravitz หรือแม้กระทั่งเคยใช้นักดนตรีอย่าง David Bowie และ Beyoncé ในแคมเปญโฆษณามาแล้ว

ไม่ใช่แค่ Tommy Hilfiger ที่ตื่นเต้นอยู่ฝ่ายเดียว ทางด้าน Drew และ Alex ก็ดีใจไม่แพ้กัน “เมื่อตอนที่ Tommy Hilfiger ติดต่อมาเพื่อให้เราเป็น Brand Ambassador เราแทบไม่อยากจะเชื่อ ใครจะปฎิเสธโอกาสนี้ได้ มันเหมือนกับตอนเป็นเด็ก คุณรู้สึกชื่นชอบใครสักคน แต่อีก 20 ปีต่อมาคุณได้ร่วมงานกับเขา อีกทั้งสไตล์ของแบรนด์กับการแต่งตัวของพวกเราถือว่าใกล้เคียงกันมาก”

โดยทั้งคู่จะร่วมงานกันหลังจากคอลเลคชั่น Fall 2017 เป็นต้นไป ซึ่งทาง Tommy Hilfiger Menwears คอลเลคชั่นนี้จะนำเสนอสไตล์ 90s  ด้วยมุมที่แปลกใหม่ ภายใต้สไตล์แฟชั่นดั้งเดิม นำเสนอเสื้อผ้าที่แสดงถึงความขบถท้าทายสังคมในช่วงทศวรรษนั้น โดยทั้งหมดพร้อมวางจำหน่ายตามร้าน Tommy Hilfiger ทั่วโลก และช่องทางออนไลน์ที่ www.tommy.com ใครที่เป็นแฟนของ Tommy และ The Chainsmokers สามารถรับชม และเลือกซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line