Entertainment

โทนี่ จา ชีวิตท่ามกลางแวดวงฮอลลีวู้ด

By: unlockmen April 22, 2015

03Tony

ในโลกของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแล้ว เรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นมักถูกจำลองหรือสร้างอ้างอิงตามตำนาน บทประพันธ์ หรือ ตามเนื้อเรื่องที่ตีแผ่เรื่องราววิถีของฝั่งตะวันตก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จำเป็นต้องใช้นักแสดงที่มีเชื้อชาติในเรื่องราวไปตามความเหมาะสมและความรื่นไหลในธรรมชาติของภาพยนตร์ ดังนั้นนี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นักแสดงชาวเอเชียทั้งหลายในอดีตต้องใช้ความพยายามเป็นสองเท่าในการที่จะเข้าไปโลดแล่นอยู่ในวงการนี้ได้ แต่ในปัจจุบันด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บรรดาผู้ชมเริ่มเปิดใจรับเรื่องราวใหม่ๆมากขึ้น ทำให้ทิศทางของภาพยนตร์ในกระแสฮอลลีวู้ดได้มีการพัฒนาตามไปด้วย โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน รูปแบบของเนื้อเรื่องภาพยนตร์ในกระแสมักมีเรื่องราวของทางฝั่งเอเชียเข้าไปเกี่ยวพันประกอบในเนื้อเรื่องด้วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สาเหตุนี้เองที่ทำให้บรรดานักแสดงเชื้อชาติเอเชียไม่น้อยนักบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอเมริกาเพื่อไปต่อคิวรอเข้าแถวแคสติ้งโดยหวังว่าจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในหนังกระแสหลักของโลกนี้สักวันหนึ่ง

เรียกได้ว่าในโลกนี้มีนักแสดงชาวเอเชียเพียงไม่กี่คนที่ได้เข้าไปคร่ำหวอดอยู่ในวงการฮอลลีวู้ด ยิ่งในสายทางแอคชั่นด้วยแล้วเรียกได้ว่าหาตัวจับยากเลยทีเดียว ในยุคก่อนๆที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็มีไม่มากนัก อาทิเช่น บรูซ ลี   แจ็กกี้ ชาน มิเชล โหย่ว เจ็ทลี และในยุคนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ โทนี่ จา

โทนี่ จา หรือ ชื่อที่เราคนไทยคุ้นหูกันก็คือ จา พนม เริ่มเข้าสู่วงการอย่างเต็มรูปแบบจากภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก ซึ่งเรื่องนี้เอง เป็นเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้เขาได้โด่งดังไปก้องโลก หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า องค์บาก กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอ็คชั่น Must watch เรื่องหนึ่งของโลกไปแล้ว ทั้งในแง่ด้านการศึกษาศิลปะการต่อสู้และเพื่อความบันเทิง ซึ่ง การันตีได้จาก รางวัลจากเวทีนานาประเทศที่ได้รับ เช่น Sitges – Catalonian International Film 2003 ,Deauville Asian Film Festival 2004 เป็นต้น และนี้เองคือสะพานเส้นแรกที่ทอดยาวให้แก่จาพนม

tony-jaa-20141

ในปี 2548 จา พนม ก็สร้างกระแสโด่งดังซ้ำรอยอีกครั้งบนเวทีโลกด้วย หนังภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง ทำให้ครั้งนี้ ชื่อของโทนี่ จา กลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของศิลปะมวยไทยไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

จา พนม เริ่มถูกชักชวนจากเอเจนซี่ต่างๆของฮอลลีวู้ดเข้ามาทาบทามให้ไปทำการ Casting แล้ว  ตั้งแต่ปรากฏการณ์ขององค์บากโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อปี 2003  แต่ด้วยปัญหาส่วนตัวและเหตุผลบางประการ ทำให้เขาต้องตัดสินใจระงับความคิดทางด้านนี้ไว้ก่อนแล้วหันมาทุ่มเทเวลาให้กับผลงานภาพยนตร์เรื่ององค์บากภาคต่อไปของเขาจนจบ  โดย จา พนม ได้เลื่อนขึ้นมานั่งแท่นเป็นผู้กำกับด้วยในครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะมีปัญหาและจบสัญญากับทางค่ายไปแล้วอย่างที่เรารู้กัน

Thai actor Tony Jaa poses as he arrives

จนกระทั่งกลางปี 2556 ก็มีข่าวใหญ่ที่เป็นกระแสให้คนไทยตื่นเต้นไปตามๆกัน เมื่อสำนักข่าว เดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์ตเตอร์ ( The Hollywood Reporter) ได้รายงานว่า โทนี่ จา อยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อรับบทสมทบในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ชื่อดัง Fast and the Furious เรียกได้ว่าเขาได้กลายเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แสดงอยู่ในหนังภาพยนตร์เกรดพรีเมี่ยมของ ฮอลลีวู้ด เลยทีเดียว

หลังการออกฉายของภาพยนตร์เรื่อง Fast and the Furious 7 กระแสของจา พนม รุนแรงมาก สำนักข่าวหลักๆของโลกหลายสำนักได้เข้ามารุมแย่งคิวเพื่อขอสัมภาษณ์เขากันอย่างมากมายท้วมท้น เขากลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกภายในชั่วพริบตาเดียว ถึงขนาดมีคนรุมขอลายเซ็นเขาตามท้องถนนในอเมริกา และในเร็วๆนี้ จา พนม ก็กำลังจะสวมบทบาทในภาพยนตร์แอ็คชั่นของฮอลลีวู้ดอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังจะลงโรง กับเรื่อง Skin trade อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้กำกับชาวไทยที่ได้ไปทำงานอยู่ในแวดวงฮอลลีวู้ดอย่าง เอกชัย เอื้อครองธรรม อีกด้วย

04TonyJa

ในระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Fast and the Furious 7 จา พนม ได้มีโอกาสใ่กล้ชิดกับดาราดังๆต่างๆทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงในเรื่องอย่าง ไทรีส กิ๊บสัน วิน ดีเซล และเดอะร็อค เป็นต้น ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะมีเส้นสายฝังลึกอยู่ในวงการนักแสดงฮอลลีวู้ดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังการถ่ายทำจบลง

การไปโลดแล่นอยู่ในวงการฮอลลีวู้ด เป็นสิ่งที่ไปไกลเกินฝันกว่าที่จาในวัยเด็กจะจินตนาการไปได้ถึง เราจึงขอปิดท้ายด้วยประโยคคำตอบของเขา จากการที่ถูกสำนักข่าวต่างประเทศสัมภาษณ์ว่า การที่มีโอกาสได้แสดงในฉากบู๊ร่วมกับวิน ดีเซล และ เดอะร็อค เขาคาดหวังจะให้ใครได้เป็นผู้ชนะในฉาก โทนี่ จา ของเรา ได้ตอบว่า “การที่ได้ไปแสดงอยู่ในเวทีโลกขนาดนั้นก็เปรียบเสมือนทำให้ผมกลายเป็นผู้ชนะในชีวิตตัวเองไปแล้ว”

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line