เก่งได้แต่อย่าเกิน ผลวิจัยชี้แบไต๋ให้สาวรู้ว่าเราเจ๋งเกินไปอาจชวดสานสัมพันธ์

ถึงจะบอกว่าผู้ชายโปรไฟล์ดี ๆ มักได้สาว ๆ มาครอบครอง แต่ก็ไม่ใช่เสมอไป ชาว UNLOCKMEN หลายคนที่พยายามฝึกตัวเองจน productive สุด ๆ คงแย้งว่าทุกวันนี้เรายังคงโสดแบบไร้เหตุผล คุยกับสาวคนสนิทมานานแต่ก็เธอก็ไม่มีทีท่าอยากสานต่อสักนิด

ถ้าเรายังไม่เคลียร์ว่าสิ่งที่ทำมาตลอดหรือความเป็นตัวตนของเรามันไม่ดีตรงไหน งานวิจัยนี้อาจเป็นกุญแจให้ถึงบางอ้อ คำตอบของมันคือ “ความเก่งเกินไป” ต่างหากที่ทำให้เธอถอยหนี

การวิจัยครั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีสอบถามคนจำนวน 214 คน โดยให้แต่ละคนประเมินสเปคที่ตัวเองอยากได้จากคู่รัก แบ่งตามระดับที่ต่างกันทั้งเรื่องความฉลาด รูปลักษณ์ ความเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และความใจดี โดยผู้ถูกสัมภาษณ์จะได้รับการสอบถามว่าคนที่คุณคุยด้วยจะมีเสน่ห์มากขึ้นไหม ถ้ามีความใจดี ความฮ็อต ความฉลาด หรือความเป็นคนง่าย ๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าคนทั่วไป

คำตอบที่ได้จากสาว ๆ ส่วนใหญ่คือความเป็นคนยืดหยุ่นหรือเป็นคนง่าย ๆ แต่ถ้าเจอคนง่าย ๆ ที่ฉลาดด้วยเธอมักจะเลือกเบรกความสัมพันธ์ลงเสียกว่า 90 % เพราะพวกเธอคิดว่าผู้ชายที่ฉลาดเกินไปเอาใจได้ยากกว่า เลยมักจะเลือกเลี่ยงเสมอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่ฉลาดมักจะซึมเศร้าหรือย้ำคิดย้ำทำ

ดีแค่ไหนบางครั้งก็ต้องสวม converse แยกทางกันไป

แม้การมีหลายคาแรคเตอร์ด้านบวกจะเป็นเรื่องดีและเป็นสเปคดึงดูดใจให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าหา แต่บทวิจัยนี้ก็แสดงให้เห็นอีกมุมของมาตรฐานการเลือกคู่ที่ทำให้รู้ว่า เยอะไปก็ใช่ว่าจะดี หรือในอีกมุมก็คือคุณอาจโดนปฏิเสธกลับมาให้ช้ำว่า “ดีเกินไป” ด้วยความหมายนั้นจริง ๆ ไม่ได้เป็นเพราะเธอไปมีคนใหม่ หากเป็นเพราะอยากคู่ควรแต่ไม่อยากรับผิดชอบหรือแบกความคาดหวังที่มาพร้อมคุณสมบัติเหล่านั้นเพื่อรักษาความรักนี้ไว้

เสริมเพิ่มเรื่องของไอคิวที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในแง่อื่นที่ไม่ใช่เรื่องความดีเกินไปบ้าง คือคนฉลาดมีแนวโน้มไม่ชอบการเข้าสังคมหรือสังสรรค์พร้อมเพื่อนฝูง เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเพื่อนไม่อยากเข้าใกล้ แต่เพราะคนฉลาดไม่อยากแบ่งเวลาให้เอง แต่อยากเอาเวลาไปใช้กับเรื่องที่ดีต่อใจ หรือสำคัญกับอนาคตมากกว่าการพบปะเพื่อพูดคุยหรือกินข้าวก็เท่านั้น

UNLOCKMEN คิดว่าการที่คุณเป็นคนฉลาดแต่ด่างพร้อยเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะมันยังสามารถปรับแก้ให้ลงตัวได้ ถ้าเป็นเรื่องของสาว ๆ เราอาจเลือกวิธีไม่โชว์ภูมิมากมายให้เธอเห็นแล้วคิดมาก หรือใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ว่าความฉลาดของเรามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิด

ส่วนเรื่องของเพื่อน เราอาจจะใช้วิธีกระชับสัมพันธ์ทางอื่นแสดงความห่วงใยและใส่ใจได้ ทุกวันนี้ยังมีช่องทางมากมายให้ถามและแสดงความเป็นห่วงกันนี่นา แล้วค่อยหาโอกาสว่าง ๆ นัดกันอีกรอบก็ไม่เสียหาย เพราะยังไงเพื่อนเราก็คงเข้าใจเหตุผลของเราอยู่แล้ว

สุดท้ายไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนรักและเพื่อนจะสำคัญแค่ไหน แต่ก็อย่าลืมว่าการทิ้งความเป็นตัวของตัวเองไปทั้งหมดเพื่อคนอื่นมันจะทำให้เราเจ็บปวดกว่ากันเยอะ ลองเลือกทำในลิมิตที่คิดว่าพอดีกันดูนะ

SOURCE: 1 / 2