Life

“5 ลำดับความเสียใจสุดท้ายของคนใกล้ตาย” ที่ผู้ชายทุกคนต้องอ่านเพื่อทบทวนชีวิตตัวเอง

By: PSYCAT March 19, 2018

ผู้ชายอย่างเรามักมีคำถามเล่น ๆ ถามกันเองว่าถ้าพรุ่งนี้ต้องตายจะทำอะไรเป็นอย่างสุดท้ายวะ? คำตอบที่ได้มักจะเป็นอะไรสุดโลดโผนหวือหวาที่ชีวิตไม่เคยได้ทำมันมาก่อน อาจจะอยากกระโดดบันจี้จัมพ์สักครั้งในชีวิต อยากมีเซ็กซ์แบบพิสดารสุดเหวี่ยงกับสาวเอ็กซ์ ๆ สักคน ฯลฯ นั่นคือสิ่งที่เราอยากทำ แล้วถ้าพูดถึงอะไรที่เราทำมันลงไปแล้ว แต่รู้สึกเสียใจที่ได้ทำแบบนั้นลงไป หรือคิดย้ำ ๆ ว่าทำไมเราไม่ทำอย่างอื่นแทนล่ะ? อะไรที่เราจะเสียใจในวันสุดท้ายของชีวิต? ถ้าวันนี้ยังนึกของตัวเองไม่ออก เราเอาของคนอื่นมาให้ดูว่าพวกเขาได้ทบทวนอะไรในวันก่อนที่จะจากโลกนี้ไป เผื่อจะได้กลับมาทบทวนชีวิตเราเองบ้าง

นี่คือเรื่องราวของ Bronnie Ware พยาบาลชาวออสเตรเลียที่ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเวลา 12 อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะจากโลกนี้ไปอย่างถาวร แต่ละวันที่เธอดูแลผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตเหล่านั้น เธอก็ได้พูดคุยกับเขาด้วย โดยเรื่องหนึ่งที่เธอพูดคุยก็คือเรื่องความเสียใจในชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขา ช่วงที่เธอพูดคุย เธอก็เขียนบล็อกของตัวเองเอาไว้ จนเรื่องราวที่เธอเขียนได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง กระทั่งเธอต้องเขียนหนังสือเรื่อง Top Five Regrets of the Dying ออกมา

Bronnie Ware เขียนถึงวิสัยทัศน์สุดชัดเจนของคนที่กำลังจะตายว่าเมื่อวันท้าย ๆ ของชีวิตจะมาถึงพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและโลกอย่างไร และนี่คือ 5 ความเสียใจอันดับต้น ๆ ที่มนุษย์เสียใจมากที่สุดในวันที่กำลังจะตายจากโลกนี้ไป

ฉันหวังว่าฉันจะหาญกล้าที่จะใช้ชีวิตอย่างที่ฉันได้เป็นฉัน มากกว่าใช้ชีวิตอย่างที่คนอื่นคาดหวัง

นี่เป็นความผิดหวังเสียใจของคนใกล้ตายที่แทบทุกคนมีเหมือน ๆ กัน เมื่อทุกคนระลึกได้ว่าชีวิตของพวกเขากำลังจะจบลง และพวกเขาได้มองย้อนกลับไปอย่างทะลุปรุโปร่ง มันง่ายที่พวกเขาจะเห็นว่ามีความฝันของพวกเขาอีกจำนวนมากมายแค่ไหนที่ไม่ถูกเติมเต็มหรือทำให้สำเร็จ ผู้คนจำนวนมากไม่ซื่อสัตย์ต่อความฝันตัวเอง และต้องตายลงในขณะที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพราะตัวพวกเขาเองนั่นแหละที่ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรในทางเดินชีวิตตัวเอง ปัญหาสุขภาพและความตายจึงนำพาอิสรภาพมาให้ช่วงสั้น ๆ เพื่อให้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่มีทางจะทำตามฝันได้อีกต่อไปแล้ว (น่าเศร้าน่าดูนะ ว่าไหม)

ฉันหวังว่าฉันน่าจะไม่ทำงานหนักมากขนาดนั้น

Bronnie Ware เปิดเผยว่าความเสียใจนี้มาจากผู้ป่วยผู้ชายทุกคนที่เธอดูแล เพราะมันทำให้พวกเขาทำความสัมพันธ์กับเพื่อนหลุดหายไปอย่างน่าเสียดาย Bronnie Ware เปิดเผยว่าผู้ป่วยหญิงบางคนของเธอก็เสียใจกับการทำงานหนักเช่นกัน แต่เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ของเธอมาจากเจเนอเรชั่นเก่า ผู้ป่วยหญิงส่วนมากจึงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องฝ่าฟันทำงานหนักเหมือนผู้ชาย แต่ที่แน่ ๆ ผู้ป่วยชายทุกคนเสียใจที่เอาเวลาในชีวิตไปทุ่มเทให้กับงานมากเกินไป รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องบาลานซ์งานกับการใช้ชีวิตให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่ไปเสียใจทีหลัง

ฉันหวังว่าฉันจะหาญกล้ามากพอที่แสดงความรู้สึกของตัวเอง

Bronnie Ware เปิดเผยว่าคนจำนวนมากเลิกที่จะเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ยอมแสดงออกไปเพียงเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับคนอื่น แต่ยิ่งเก็บกักอารมณ์ของตัวเองไว้มากเท่าไหร่พวกเขาก็จะไม่มีวันได้เป็นตัวตนพวกเขาอย่างแท้จริง และบรรดาโรคภัยทั้งหลายส่วนหนึ่งก็พัฒนามาจากความเครียดสะสม ความเก็บกดที่พวกเขาไม่ได้แสดงอารมณ์หรือกล้าที่จะบอกว่าตัวเองรู้สึกอะไรออกมาอย่างเต็มที่นั่นเอง

ฉันหวังว่าฉันจะใกล้ชิดกับเพื่อน ๆ มากกว่านี้

ผู้ป่วยแทบทุกคนคิดถึงเพื่อนของตัวเองในอาทิตย์ท้าย ๆ ที่มีชีวิตอยู่บนโลก นั่นเป็นเพราะพวกเขาตระหนักได้แล้วว่าเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ในชีวิตช่างมีความหมายกับพวกเขามากมายเหลือเกิน แต่พวกเขากลับไม่ใช้เวลากับเพื่อนให้คุ้มค่า และไม่ได้ให้ในสิ่งที่ความสัมพันธ์สุดล้ำค่านั้นควรได้รับ และเมื่อมานึกได้ในวันที่ใกล้จะจากโลกนี้ไป อะไร ๆ ก็ไม่ทันเสียแล้ว อ่านมาถึงตรงนี้ก็อยากจะนัดเพื่อนกินเหล้ามันซะค่ำนี้เลยแฮะ

ฉันหวังว่าฉันจะปลดปล่อยตัวเองให้มีความสุขมากกว่านี้

นี่ก็เป็นอีกความเสียใจสุดฮิตของคนใกล้ตาย คนจำนวนมากไม่สามารถตระหนักได้จนกว่าจะใกล้วันสุดท้ายบนโลกว่าจริง ๆ แล้ว “ความสุขเป็นหนทางของเรา” เราเลือกที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองจมกับอะไรบางอย่างไม่ยอมปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระและเป็นสุขกับชีวิตสักที

แล้วคุณล่ะ? กำลังเสียใจกับอะไรในชีวิตอยู่บ้าง? ถ้าคุณต้องตายลงในอีก 12 อาทิตย์ข้างหน้านี้คุณจะยังเสียใจกับเรื่องเดิม ๆ อยู่ไหม? หรือมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เรารู้สึกพลาดไป และตระหนักได้เสียทีว่าเราควรลงมือทำอะไรที่เราอยากทำได้แล้ว ก่อนที่จะต้องมานั่งเสียใจในวันที่ใกล้ตาย

SOURCE 

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line