TOY FOR BOY: BOSE NOISE CANCELLING HEADPHONES 700 UNBOXED IN-DEPTH REVIEW

ในโลกแห่งความวุ่นวาย พวกเราล้วนมองหาช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองคนเดียวบ้าง อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราต้องการใช้ความคิด ใช้สมาธิ ใช้ความเงียบ หรืออาจจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหาและรายละเอียดของดนตรีโปรดบ้าง ซึ่งความเงียบดูจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน แต่แทนที่เราจะมาแนะนำให้คุณไปเข้าวัดปฏิบัตรธรรมกลางป่าลึก เรากำลังจะบอกว่ามันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น นั่นคือหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด Bose Noise Cancelling Headphones 700 ที่เราพึ่งจะได้มาครอบครองหมาด ๆ และเรากำลังจะมารีวิวกันว่า หูฟัง Wireless Headphone ราคา 15,900 บาทอันนี้ คุ้มค่าที่คุณจะต้องควักเงินจ่ายซื้อมันมาครอบครองหรือไม่

เหตุผลที่เราสนใจ Headphone ตระกูล Noise Cancelling จาก Bose นั้น คงไม่ต้องอธิบายให้มากในเรื่องของคุณภาพคาแรคเตอร์พลังเสียงที่ครบถ้วน นุ่มนวลหู และความเป็นผู้นำลำดับต้น ๆ ด้านความสามารถในการตัดเสียงภายนอกของ Bose ซึ่งข้อหลังนั้นทำให้หลายสายการบินเลือกใช้ Bose QuietComfort 35 ในที่นั่งชั้น Business Class เพื่อความผ่อนคลายที่เงียบสงบตลอดการเดินทาง บวกกับการทำอาชีพนักเขียนที่กำลังมีลูกชายอายุไม่ถึง 1 ปี เป็นวัยที่ร้องไห้ได้ตลอดเวลาแม้จะไม่มีเหตุผลอะไรก็ตาม ใครพอจะจินตนาการตามได้คงจะรู้ดีว่ามันชวนเวียนหัวแค่ไหนในวันที่งานก็ต้องเร่ง ลูกก็ต้องร้อง

ดังนั้นการจะทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง บวกกับการชอบฟังเพลงจากหูฟังดี ๆ เป็นเหตุผลที่เราเลือก Bose Noise Cancelling Headphones 700 มาใช้งานแทนที่จะรอ Airpod Pro หรือถอย Powerbeats Pro แสนกะทัดรัดอย่างที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ (เพราะ Airpod Pro คุณภาพเสียงสู้ไม่ได้ ส่วน Powerbeats Pro ก็ตัดเสียงภายนอกสู้ไม่ได้เช่นกัน)

การออกแบบของ Bose Noise Cancelling Headphones 700 นั้นทำได้สวยงามมาก การดีไซน์ที่ทำให้หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดให้อารมณ์ทันสมัยได้ตั้งแต่ตาเห็น ความลู่เรียวของก้านหูฟังที่ทำให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่า  QC 35 II อย่างเห็นได้ชัด (แม้น้ำหนักจะรู้สึกว่าหนักกว่าด้วยซ้ำ) แต่การสวมใส่ก็ทำได้สบายศีรษะ ไม่หนัก ไม่บีบจนปวดหัวเหมือนบางยี่ห้อเมื่อใช้งานไปนาน ๆ และออกแบบให้เชื่อมต่อกันแบบ Seamless สามารถเลื่อนหูฟังขึ้นลงเพื่อปรับระดับได้อย่างง่ายดาย

บริเวณแพดฟองน้ำที่รัดแน่นแต่ค่อนข้างนุ่มสบายหู เช่นเดียวกับ headband ที่มีการบุฟองน้ำนุ่ม ๆ เอาไว้ ทำให้การสวมใส่ค่อนข้างสบายแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน ไม่รู้สึกปวดหัวหรือหูล้าจากการถูกบีบรัดแต่อย่างใด น่าเสียวไส้แค่ความเสียหายฉีกขาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายจากวัสดุแบบนี้

ความล้ำอีกอย่างการออกแบบฟังก์ชันที่ Minimal และใช้งานได้ง่ายมาก มีการรวมการควบคุมทั้งหมดไว้บริเวณด้านขวาของหูฟัง (ด้านที่มีโลโก้ Bose) เพียงใช้นิ้วถูขึ้นลงเพื่อเพิ่มหรือลดเสียง / แตะสองครั้งเพื่อสลับระหว่าง Play / Pause และสไลด์นิ้วไปด้านหน้าหลัง เพื่อเล่นเพลงถัดไปได้ และแตะหนึ่งครั้งเพื่อเช็คสถานะแบตเตอรี่ แน่นอนว่ามันทำงานได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว

ส่วน physical buttons ต่าง ๆ จะมีเพียง 3 ปุ่ม คือ ปุ่มเปิด / ปิด ปุ่ม Activate Bluetooth ซึ่งอยู่ที่หูฟังด้านขวา ปุ่ม Noise Cancelation และปุ่มสำหรับ Voice Assistancet ให้เราเลือก Connect กับ Voice Assistance ไม่ว่าจะเป็น Siri, Google Assistant หรือ Alexa ได้ (ฟังก์ชันนี้อาจจะไม่ค่อยได้ใช้ในบ้านเรา)

ไม่ใช่แค่ฟังเพลง แต่เราสามารถรับสายและพูดคุยโทรศัพท์ผ่าน Bose Noise Cancelling Headphones 700 ได้ด้วย โดยการรับสาย ตัดสาย ก็สามารถทำได้ผ่านการแตะสัมผัสหูฟังเช่นเดียวกัน ซึ่งการใช้งานถือว่าทำได้ดี ได้ยินเสียงสนทนาชัดเจนทั้งสองฝ่าย และเราสามารถเปิดฟังก์ชัน Noise Cancelation ไปด้วยได้ในกรณีที่มีเสียงรบกวนรอบตัว (แต่ปลายทางก็จะยังคงได้ยินเสียงรอบ ๆ ตัวเราอยู่ดี)

สำหรับคนที่อยากพก Bose Noise Cancelling Headphones ติดตัวเมื่อต้องเดินทางนั้นก็สบายใจได้ เพราะมากับกล่อง carrying case ที่แข็งแรง หรูหรา สามารถเก็บสายชาร์จและสายหูฟังแบบ 3.5 mm. ได้เป็นสัดส่วน ใส่กระเป๋าไปด้วยกันได้ทุกที่โดยไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะเสียหาย

แน่นอนว่านี่ต้องเป็นฟังก์ชันเด่นที่สุดของ Bose Noise Cancelling Headphones 700 อย่างที่ชื่อของมันระบุเอาไว้ บริเวณด้านซ้ายจะมีปุ่มเพิ่มหรือลดระดับ Noice Cancelling โดยแบ่งเป็น 3 ระดับคือ 10 / 5 / 0 แต่ถ้าสั่งงานผ่าน Bose Music Application จะสามารถเลือกปรับได้ถึง 10 ระดับเต็ม ซึ่งการกันเสียงจากภายนอกสามารถทำงานได้ดีมาก ดีจน Tech Publishers ระดับโลกมากมายต่างยกให้เป็น Class-leader ในด้านนี้

แต่ต้องเข้าใจว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของฟังก์ชันนี้คือการนำเราเข้าไปใกล้กับดนตรีให้มากขึ้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อกันเสียงรบกวนให้เราทำสมาธิ ดังนั้นในการเลือกระดับน้อย ๆ เราจะยังได้ยินเสียงรอบด้านอยู่บ้าง แต่มันจะได้ผลมากที่สุดเมื่อเราใช้ฟังก์ชันนี้พร้อมกับฟังเพลงไปด้วย เพราะเราไม่ได้ยินเสียงภาพนอกอีกเลยเมื่อเปิดที่ระดับ 10

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ชินอาจจะรู้สึกอึน ๆ มึน ๆ หัวบ้างจากคลื่นความถี่ที่ถูกปล่อยออกมาผ่านลำโพงในหูฟังได้เมื่อเปิด Noise Cancelation ในระดับที่สูงเกินไป เนื่องจากใช้ระบบ Active Noise Cancelling ดักเสียงภายนอกผ่านหูฟังก่อนจะปล่อยคลื่นความถี่จากลำโพงในหูฟังเพื่อหักล้างเสียงส่วนเกินเหล่านั้นออกไป

การเปิด Noise Cancelation แบบเต็มระดับแล้วต้องการพูดคุยหรือฟังเสียงรอบข้าง ก็สามารถทำได้ง่ายดายด้วย Conversation Mode แค่กดปุ่ม Noise Cancellation ค้างไว้ หูฟังก็จะตัดระบบออกทันที

แม้เราจะเป็นห่วงว่าการใช้ฟังก์ชัน Noise Cancelation ตลอดเวลา น่าจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่ไม่น้อย เพราะมันต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการ operate แต่ด้วย battery life ที่ฟังได้ยาวนานถึง 20 ชั่วโมง (ในการฟังที่ระดับเสียงปกติ) ซึ่งทำได้แม่นยำอย่างที่เครมแม้จะเป็นฟังก์ชัน Noise Cancelation เอาไว้ตลอดเวลา มันก็มากพอจะพาเราไปถึงจุดหมาย หรือใช้ได้ยาว ๆ เกือบหมดสัปดาห์ แม้จะนานไม่เท่าหูฟังบางรุ่นที่เคลมไว้มากถึง 30 ชั่วโมง แต่ก็ถือว่าเกินพอในการใช้งานประจำวัน

พลังเสียงของ Bose Noise Cancelling Headphones 700 ยังคงคาแรคเตอร์แบบดีรอบด้านตามสไตล์ Bose ที่เส้นความนุ่มนวล ฟังสบาย แน่นอนว่าคุณภาพเสียงของมันดีอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดต่าง ๆ ครบถ้วนมาก เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นมาครบ ๆ ไม่มีการอัดซ้อนกันจนสูญเสียคุณภาพไป เสียงเบสมาหนักแน่นกำลังดี เสียงกลางและปลายแหลมก็มาชัดเจนแต่ไม่รู้สึกบาดเสียดแทงหู มันจึงเป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับคนชอบความ Balance ของ soundstage ที่เหมาะกับดนตรีแนว Pop, Jazz มากเป็นพิเศษ เพราะสามารถฟังได้นานโดยไม่รู้สึกทรมานศีรษะ ยกเว้นการฟังเพลงที่มีเครื่องดนตรีเสียงสูงแหลมเป็นจำนวนมาก ๆ อาจจะทำให้เวียนหัวได้บ้าง

แต่สำหรับคนที่ชอบแนว Hip-Hop หรือหูฟังที่มีคาแรคเตอร์ทุ้ม ๆ เบสหนัก ๆ อาจจะไม่ค่อยประทับใจเจ้า Bose Noise Cancelling Headphones 700 ตัวนี้มากนัก เพราะในตลาดยังมี Sony WH-1000XM3 ที่มีทั้ง Nosie Cancellation แม้จะทำได้ไม่ดีเท่า Bose ตัวนี้ แต่มากับเบสที่หนักแน่นกว่า น่าสนใจว่ามันกำลังจะเปลี่ยนโมเดลอยู่เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ในราคาที่น่าจะเป็นมิตรกว่า Bose ตัวนี้อีกด้วย

โดยสรุปแล้ว เราพอใจกับสิ่งที่ได้รับจาก Bose Noise Cancelling Headphones 700 แม้ราคาจะค่อนข้างสูงไปนิด แต่เมื่อเทียบกับความสงบเงียบที่ได้จาก Noise Cancelation ระดับหัวแถว โดยเฉพาะคนที่ต้องการความเงียบสงบจริง ๆ อย่างเรา ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่หาตัวเทียบได้ยาก แม้พลังเสียงจะไม่ได้หวือหวาล้ำหน้ามากนัก ยังมี Headphone ในตลาดที่ราคาใกล้เคียงหรือถูกกว่า แต่ได้คุณภาพเสียงเหนือกว่า (หรืออาจจะเป็น Soundstage ที่เหมาะกับสไตล์เพลงของคุณ) แต่ความใสและรายละเอียดที่ได้รับนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยม

Battery Life ที่ฟังได้นานถึง 20 ชั่วโมง และการสวมใส่บนศีรษะที่ให้ความรู้สึกสบายแม้จะฟังนาน ๆ พร้อมความสามารถในการรับ พูดคุยโทรศัทพ์ที่ผสมผสานกับเทคโนโลยี Noise Cancelation นั้นถือว่าน่าประทับใจ และที่สำคัญคือมันสามารถเชื่อมต่อได้ถึง 2 devices พร้อมกัน การสลับระหว่าง Laptop และ Smartphone จึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ ช่วยให้การทำงานและความบันเทิงคล่องตัวขึ้น

สรุปคือจ่าย 15,900 บาทไป ได้ Bose Noise Cancelling Headphones 700 กลับมา รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน