TOYS FOR BOYS – UNBOX: HUAWEI BAND 6 สายรัดข้อมือวัด OXYGEN จัดเต็มฟีเจอร์ครบคุ้มค่า!!

หลังการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ดูเหมือนเชื้อไวรัสจะร้ายกาจกว่าที่เคย ทำเอาอุปกรณ์วัดออกซิเจนแบบพกพาเพื่อเช็คปอดเช็คความปกติของระบบหายใจนั้นเป็นที่ต้องการอย่างเหลือล้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่มีการเปิดตัว HUAWEI Band 6 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ใส่ฟังก์ชันการวัด SpO2 มาให้ พร้อมฟีเจอร์อื่น ๆ มากมาย ในราคาค่าตัวไม่ถึง 2 พันบาท ซึ่งแน่นอนว่าเปิดตัวมาถูกจังหวะแถมราคาก็ดี ทำให้ความสนใจในสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ล้นหลามจนทำยอดจองถล่มทลาย

แต่สำหรับใครที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่แน่ใจว่าจะใช้งานได้คุ้มหรือเปล่า งานนี้ไม่ต้องห่วง เพราะ Toys For Boys UNBOX ขอรับอาสาแกะกล่อง และพรีวิวความสามารถเด่น ๆ ของ HUAWEI Band 6 ให้ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลาย เก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยไปอ่านพร้อมกันได้เลย

UNBOX

ตามธรรมเนียมของ Toys For Boys UNBOX เราจึงต้องทำการแกะกล่องเพื่อดูอุปกรณ์ที่จัดมาให้ในชุดขายของ HUAWEI Band 6 ว่าจะมีอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือตัวเครื่อง HUAWEI Band 6 ที่เราได้มาในสีดำ Graphite Black ส่วนใครที่ไม่ชอบของดำ Huawei เขาก็มีสีเขียว และสีชมพูมาให้เลือกตามใจชอบ

นอกจากตัวเครื่อง, คู่มือ และใบรับประกัน ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติมมาให้แค่สาย Magnatic Charger ซึ่งมีหัวชาร์จแม่เหล็กสำหรับแปะกับตัวเครื่องเพื่อชาร์จไฟได้อย่างสะดวก ส่วนอแดปเตอร์ไม่ได้มีมาให้ สามารถไปเสียบหัว USB-A ใช้กับอแดปเตอร์ชาร์จมือถือทั่วไปได้เลย โดย HUAWEI Band 6 นั้นมาพร้อมระบบชาร์จด่วนแค่ 5 นาทีใช้ต่อได้อีก 2 วัน แต่ถ้าจะชาร์จจนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาชาร์จประมาณชั่วโมงนึงรู้เรื่อง พร้อมใช้งานทั่วไปได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน

DESIGN

งานออกแบบของ HUAWEI Band 6 เป็นอีกประเด็นที่ต้องพูดถึงสักหน่อย เพราะถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ทแบนด์หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ แต่ก็ได้มีการออกแบบตัวเรือนให้มีหน้าจอขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทแบนด์ทั่วไปจนออกแนวลูกครึ่งควบความเป็นสมาร์ทแบนด์ และสมาร์ทวอชท์ในเรือนเดียว

เปลี่ยนหน้าปัดเพิ่มเติมได้หลากหลายรูปแบบ

ด้วยหน้าจอรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ถึง 1.47 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าสมาร์ทแบนด์ทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะมีหน้าจอขนาด 0.95 นิ้ว เท่านั้น โดยหน้าจอของ HUAWEI Band 6 จะเป็นหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED FullView display ที่มีความคมชัด สว่างสดใส และสู้แสงใช้งานกลางแจ้งก็ยังมองจอชัด อ่านข้อความแจ้งเตือน อ่านค่าเมนูต่าง ๆ ได้เต็มตา และรองรับการสั่งงานผ่านนิ้วสัมผัส ปัดซ้ายขวาบนล่าง พร้อมปุ่มกดด้านข้างอีกหนึ่งปุ่ม

สำหรับสายของ HUAWEI Band 6 จะเป็นสายซิลิโคนแบบนิ่ม ใส่สบาย ลองใส่มาเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่โดนสายกัด หรืออาการคันผื่นแพ้แต่ประการใด นอกจากนี้น้ำหนักโดยรวมของมันยังมีเพียงแค่ 18 กรัม สามารถใส่ติดตัวเก็บข้อมูลสุขภาพของเราได้ตลอดวันตั้งแต่เช้าจนเข้านอนแบบไม่ต้องถอด แม้กระทั่งอาบน้ำก็ใส่ได้ เพราะ HUAWEI Band 6 เรือนนี้มีคุณสมบัติกันน้ำที่ระดับ 5 ATM เลยทีเดียว

FEATURE

มาต่อกันที่หัวใจสำคัญที่ทำให้ HUAWEI Band 6 กำลังเป็นที่หมายปองจนทำยอดจองถล่มทลายไปเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับฟีเจอร์เด่นอย่างการวัดค่า SpO2 หรือค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ที่เป็นเหมือนสัญญาณเตือนด่านแรกให้ได้รู้ว่าเรานั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดหรือเปล่า

เพราะค่าออกซิเจนที่ต่ำกว่าเกณฑ์นั้นบ่งบอกถึงระบบหายใจที่มีปัญหาซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับการโจมตีของโควิดอย่างมีนัยยะ และถ้ารู้ก่อนถึงอาการเสี่ยงก่อนก็สามารถรีบรุดไปตรวจเชื้อได้ก่อนที่อาการจะหนักไปกว่านี้

โดย HUAWEI Band 6 นั้นมีระบบตรวจจับ SpO2 ในตัว ที่คอยเก็บค่าอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง หากตรวจพบว่าปริมาณ SpO2 ลดลงกว่า 90% จะทำการแจ้งเตือนให้เรารู้ทันที เพื่อปรับรูปแบบการหายใจให้ปริมาณออกซิเจนนั้นอยู่ในภาวะปกติ

นอกจากนี้ยังขาดไม่ได้กับโหมดวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยระบบ TruSeen™ 4.0 ที่ใช้เลนส์ออปติคัลพร้อมการประมวลผลด้วย AI อัจฉริยะ ทำให้ HUAWEI Band 6 สามารถวัดค่าออกมาได้ค่อนข้างแม่นยำ และวัดได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบแจ้งเตือนค่าหัวใจที่สูงหรือต่ำกว่าปกติ

และสำหรับใครที่เครียดบ่อย ๆ HUAWEI Band 6 ก็มี TruRelax™ เทคโนโลยีที่ตรวจวัดอัตราความเครียด เมื่อถึงระดับที่สูงเกินไป ตัวเครื่องจะเตือนให้เราปรับลมหายใจเข้า-ออก เพื่อกลับสู่สภาพจิตใจที่ผ่อนคลายและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น

ครอบคลุมไปถึงคุณภาพการนอนก็ยังมีเทคโนโลยี TruSleep™ 2.0 ที่ตรวจวัดการนอนหลับโดยละเอียดได้ถึง 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงหลับลึก, ช่วงนอนหลับปกติ, ช่วงหลับสนิท (REM) และช่วงงีบหลับ พร้อมบันทึกคุณภาพการนอน, ระบุปัญหาการนอน พร้อมคำแนะนำเพื่อปรับปรุงปรับการนอนหลับให้มีคุณภาพที่สุด นอกจากนี้สาว ๆ ก็ยังใช้งานโหมด Period Cycle เช็คการมาของรอบเดือนให้ใช้งานอีกด้วย

ส่วนใครที่มีใจหลงใหลในการออกกำลังก็ไม่ต้องห่วง เพราะ HUAWEI Band 6 จัดเต็มการติดตามข้อมูลออกกำลังมาให้มากถึง 96 ชนิดกีฬา นอกจากกีฬาเบสิคจำพวกวิ่ง ต่อยมวย ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ก็ยังมีปีนผา โยคะ สกี ปิงปอง และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสเก็ตบอร์ดตามสมัยนิยมก็มีมาให้เลือกใช้งาน เก็บครบทุกข้อมูลทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะทาง แคลอรี่ที่เผาผลาญ

ซึ่งข้อมูลเชิงลึกทั้งการนอนหลับ การออกกำลัง รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ สามารถเปิดดูได้จากแอป Huawei Health รองรับทั้ง Android และ iOS แค่เชื่อมต่อ HUAWEI Band 6 และโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth ทุกข้อมูลก็จะถูกซิงค์ขึ้นไปให้ดูได้อย่างละเอียด

อ่านมาหลายย่อหน้าบอกเลยว่ายังมีฟีเจอร์ให้เล่าไม่หมด เพราะนอกจาก HUAWEI Band 6 จะมาพร้อมฟีเจอร์เพื่อสุขภาพแบบครบถ้วน มันยังมาพร้อมคุณสมบัติของการเป็นผู้ช่วยสุดล้ำ ที่แสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ ทั้ง SMS, E-Mail, ข้อความจากแอปโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ

รวมไปถึงข้อมูลพยากรณ์อากาศ และยังใช้เป็นเครื่องควบคุมเพลงบนมือถือ, เป็นรีโมทชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพบนมือถือ และกดปุ่มเพื่อตามหามือถือเครื่องที่เชื่อมต่อเอาไว้ ในกรณีที่ปิดเสียงตั้งลืมไว้ในจุดที่หาไม่เจอ แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่ฟีเจอร์คุมเครื่องเล่นเพลง, รีโมทชัตเตอร์ และตามหาโทรศัพท์นั้นสามารถใช้งานได้เฉพาะมือถือ Android เท่านั้น

OPINION & CONCLUSION

หลังจากแกะกล่องทดลองใช้ HUAWEI Band 6 มาพักใหญ่ ๆ บอกเลยว่ามันเป็นสมาร์ทแบนด์ระดับเริ่มต้น ที่จัดฟีเจอร์หลัก ๆ มาให้ในระดับที่คุ้ม ครบ เกินราคา ไม่ว่าจะเทียบจากราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 1,499 บาท หรือราคาปกติ 1,899 บาทก็ยังถือว่าคุ้ม สำหรับใครที่อยากได้สมาร์ทแบนด์แบบเริ่มต้น เน้นดีไซน์เรียบ แบตอึด จอใหญ่ ฟีเจอร์มาตรฐานมาครับ แถมยังมีตัวต้องใช้งานเน้น ๆ ในช่วงนี้อย่างตัววัด SpO2 บอกเลยว่า HUAWEI Band 6 คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่เราอยากให้คุณได้ลอง

Photographer: Krittapas Suttikittibut