หลังจากเปิดตัวมาให้สาวกรวมถึงเหล่าพลพรรคคนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือได้ฮือฮา เมื่อราว ๆ เดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา แต่แล้วข่าวคราวของ HUAWEI P50 Pro ในไทยกลับเงียบหายไปซะดื้อ ๆ จนทำให้หลายคนคิดว่าอาจหมดลุ้นได้สัมผัสเครื่องศูนย์ไทยไปแล้ว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงปลายปี 2564 ทาง HUAWEI Thailand ก็ทำให้ความหวังของแฟน ๆ ชาวไทยกลับมาอีกครั้งเสมือนเป็นการต้อนรับปีใหม่ ด้วยการประกาศผ่าน Official Fanpage ว่าเตรียมพบกับ HUAWEI P50 Pro เร็ว ๆ นี้ แม้ว่าระหว่างที่เรากำลังเขียนบทความจะยังไม่ได้มีการระบุราคา หรือวันวางจำหน่ายในไทย แต่ถึงอย่างไรวันนี้ตำนานสมาร์ทโฟนกล้องเทพจากตระกูล P Series ซึ่งถือกำเนิดใหม่อีกครั้งในรุ่น HUAWEI P50 Pro ก็ได้มาอยู่ในมือของเรา เรียบร้อย และพร้อมที่จะพาชาว UNLOCKMEN ทุกท่านมาสัมผัสกับความเจ๋งของมันไปด้วยกัน AESTHETICS REBORN ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าการ Reborn ของ HUAWEI P50 Pro ครั้งนี้มันคือการถือกำเนิดใหม่ที่ใส่ใจในทุกด้านให้สมกับชื่อเสียงระดับตำนานที่รุ่นพี่สร้างเอาไว้ เริ่มต้นด้วยรูปลักษณ์ที่ถือเป็นสุนทรียศาสตร์แห่งงานดีไซน์ ยังคงไว้ซึ่ง
สำหรับใครที่กำลังมองหากระเป๋าคู่ใจใบใหม่ ไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราจะมาอัพเดทเรื่องราวของ INCASE A.R.C. COLLECTION ไอเทมใหม่สด ๆ ร้อน ๆ คอลเลกชันล่าสุดจาก INCASE ที่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หนุ่มสาวหัวใจ Creative ที่มีวิถีชีวิตแบบ Multi-Function นี้ได้แบบครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ที่เข้าตาและการใช้งานที่ถูกใจกับการออกแบบในสไตล์ Minimal เข้ากับทุกลุค เท่ได้ทุกสไตล์ อีกทั้งยังผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูงซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตรงตามคอนเซ็ปต์ของคอลเลกชัน A.R.C. ซึ่งมีความหมายว่า A Responsible Carry สำหรับเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน INCASE A.R.C. COLLECTION มาพร้อมกับกระเป๋า 4 แบบ 4 สไตล์ ทั้ง TravelPack, Commuter, DayPack และ Tech Tote ซึ่งครบครันไปด้วยฟังก์ชันที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ อีกทั้งแต่ละรุ่นยังมีรูปแบบการใช้งานเฉพาะ ให้เลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่ของทุกคน ส่วนใครที่อยากรู้ว่ากระเป๋า INCASE A.R.C. COLLECTION ทั้ง 4 รุ่นนั้นมีจุดเด่น มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายโดนใจขนาดไหน
หลังจากที่ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวย ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องราคาที่สามารถจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดยแบรนด์เรือนเวลาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง SEIKO ได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่ “The Reflection Of Japan” ซึ่งโดดเด่นด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Productโดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ของเรือนเวลา Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส จนทำให้ชื่อของ ALBA นั้นกลายที่นิยมในตลาดนาฬิกาแฟชั่นสำหรับผู้ชายไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดเพื่อตอกย้ำกระแสอันร้อนแรง ทาง ALBA ได้เผยโฉม “The Lumibrite” คอลเลกชันใหม่สุดพิเศษ ซึ่งเป็น “Thailand Creation” ที่ออกแบบและจัดจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น!! สำหรับตัวเรือนของแต่ละรุ่นในคอลเลกชันนี้ยังคงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณความสปอร์ตดุดันกับ IP Black และยังแฝงความแตกต่างด้วยการสะท้อนสไตล์ของผู้สวมใส่ออกมาด้วยความหลากหลายของสีสัน ซึ่งถูกนำเสนอผ่านผ่านลูมิไบร์ทและขอบบาเซลได้อย่างลงตัว นอกจากตัวเรือนและสายทรงสปอร์ตสเตนเลสสตีลแบบรมดำ (Black IP Coating) สุดดุดัน คอลเลกชันนี้ยังมีสายนาโต้แบบพรีเมียมดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่นแถมมาให้อีก 1 ชุด เหมาะมากที่จะเป็นเรือนเวลาคู่ใจ สามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ได้กับทุกลุค ไม่ว่าจะมาดเท่ภูมิฐาน หรือแนวสตรีทสไตล์เท่สบายในวันลุย ๆ รับรองว่า ALBA “The Lumibrite” เอาอยู่แน่นอน และเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
เชื่อว่าสาวกเรือนเวลาทั้งหลายที่ชอบแสวงหาความแปลกใหม่ไม่จำเจ คงคุ้นเคยกับชื่อของ ALBA แบรนด์นาฬิกาดีไซน์สวย ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องราคาที่สามารถจับต้องได้ภายใต้คุณภาพการผลิตที่การันตีโดย SEIKO แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ALBA นั้นถือเป็นแบรนด์น้อง ที่รวมพลังร่วมบุกตลาดในไทย ยืนหยัดเคียงข้างแบรนด์พี่ใหญ่อย่าง SEIKO มายาวนาน ล่าสุดในปี 2021 นี้ ทาง ALBA ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมคอนเซ็ปต์ “The Reflection Of Japan” ด้วยงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงคุณภาพความเป็น Japan Product โดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ของเรือนเวลา Sport Style ที่หนุ่ม ๆ อย่างเราสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และในวันนี้เราได้คัดเลือกเรือนเวลา 5 โมเดลใหม่ที่น่าสนใจจาก ALBA มาอวดโฉมความเท่ ให้ชาว UNLOCKMEN ได้สัมผัส และทำความรู้จักกับจุดเด่นของทั้ง 5 เรือนนี้ ที่พร้อมประทับลงบนข้อมือในฐานะไอเทมบอกเวลาคู่ใจซึ่งช่วยอัพความเท่ให้กับคุณได้ในทุกสถานการณ์ เริ่มต้นที่เรือนแรกซึ่งต้องบอกเลยว่าใครเห็นเป็นต้องสะดุดตา กับความหรูหราที่ผสานความสปอร์ตได้อย่างลงตัวกับ ALBA Automatic รุ่น AL4185X ตัวท็อปแห่งเรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตขับเคลื่อนด้วยระบบออโตเมติก มาพร้อมหน้าปัดซันเรย์สีน้ำเงิน มีหลักชั่วโมงแบบพรายน้ำเหลือบทอง
หลังการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ดูเหมือนเชื้อไวรัสจะร้ายกาจกว่าที่เคย ทำเอาอุปกรณ์วัดออกซิเจนแบบพกพาเพื่อเช็คปอดเช็คความปกติของระบบหายใจนั้นเป็นที่ต้องการอย่างเหลือล้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่มีการเปิดตัว HUAWEI Band 6 สายรัดข้อมืออัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ใส่ฟังก์ชันการวัด SpO2 มาให้ พร้อมฟีเจอร์อื่น ๆ มากมาย ในราคาค่าตัวไม่ถึง 2 พันบาท ซึ่งแน่นอนว่าเปิดตัวมาถูกจังหวะแถมราคาก็ดี ทำให้ความสนใจในสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ล้นหลามจนทำยอดจองถล่มทลาย แต่สำหรับใครที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ ไม่แน่ใจว่าจะใช้งานได้คุ้มหรือเปล่า งานนี้ไม่ต้องห่วง เพราะ Toys For Boys UNBOX ขอรับอาสาแกะกล่อง และพรีวิวความสามารถเด่น ๆ ของ HUAWEI Band 6 ให้ชาว UNLOCKMEN ทั้งหลาย เก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยไปอ่านพร้อมกันได้เลย UNBOX ตามธรรมเนียมของ Toys For Boys UNBOX เราจึงต้องทำการแกะกล่องเพื่อดูอุปกรณ์ที่จัดมาให้ในชุดขายของ HUAWEI Band 6 ว่าจะมีอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือตัวเครื่อง HUAWEI
ในยุค COVID-19 แบบนี้ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปได้ส่งผลต่ออะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่เว้นแม้แต่รูปแบบการเสพความบันเทิงจากโรงหนังที่ซบเซาเงียบเหงาลงไปตั้งแต่ช่วง Lockdown ทำให้ทางเลือกความบันเทิงที่ยังให้กลิ่นอายความเป็นโรงหนังอย่างการรับชมภาพยนตร์ และซีรีส์ต่าง ๆ ด้วยการฉายผ่านทางโปรเจคเตอร์ในห้องแสงไฟสลัว ๆ ภายในบ้านนั้นได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างท่วมท้น อีกทั้งเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแคมป์ผจญภัย ลงทะเล ขึ้นดอย เข้าป่า ซึ่งยังคงฮอตฮิตอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้อุปกรณ์โปรเจคเตอร์แบบพกพา นั้นได้รับความสนใจถูกเลือกให้เป็นไอเทมความบันเทิงหลัก ๆ ที่คนยุคนี้มีไว้ติดบ้าน รวมไปถึงพกติดกระเป๋าออกทริปเป็น Pocket Cinema พร้อมเสิร์ฟความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา และสำหรับใครที่จด ๆ จ้อง ๆ กำลังมองหาโปรเจคเตอร์พกพาเอาไว้ใช้งานกันสักตัว Toys For Boys – UNBOX คราวนี้ เรามีของดีที่อยากแนะนำอย่าง XGIMI MOGO ซึ่งเป็น Android TV โปรเจคเตอร์ขนาดกะทัดรัด ที่อัดแน่นความสามารถมามากมายในราคาประมาณหมื่นต้น ๆ (ราคาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 12,990 ~ 13,99o บาท) ไม่โหดร้ายต่อเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ งานนี้ฟีเจอร์ที่มีจะเด็ดแค่ไหน
หลังจากเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา กับ Samsung Galaxy S21 Series สมาร์ทโฟนระดับเรือธงโหดสุดในตระกูล Galaxy ณ ตอนนี้ ที่เราเชื่อว่าใครหลายคนต่างเฝ้ารอ และ TOYS FOR BOYS : UNBOX ก็ไม่พลาดที่จะนำเอาเจ้า Samsung Galaxy S21 Ultra 5G รุ่นพี่ใหญ่ท็อปสุดของซีรีส์ มาแกะกล่องทดลองฟีเจอร์เด็ดทั้งหลาย ว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง แถมท้ายด้วยการเทียบสเปคกับน้องเล็ก Galaxy S21 ให้พอได้รู้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง UNBOX เริ่มต้นที่การแกะกล่องกันตามธรรมเนียม สังเกตได้ว่า Samsung Galaxy S21 Ultra 5G มาพร้อมกล่องบางเฉียบ และเมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบว่าเป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้าที่ว่ากันว่ารอบนี้ Samsung จะไม่แถมหัวชาร์จ และหูฟังมาให้อีกต่อไป ในกล่องจึงคงไว้แค่ตัวเครื่อง (อันนี้ไม่มีไม่ได้), เข็มจิ้มถาดซิม และสายชาร์จ Type
การร่วมมือกันของ 2 of the best จากสองโลก Hublo, Swiss luxury watchmaker ก่อตั้งในปี 1980 โดย Carlo Crocco และ Yohji Yamamoto ดีไซเนอร์ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นดีไซเนอร์จากญี่ปุ่น ร่วมกันสร้างสรรค์อีกหนึ่งสุดยอด Timepiece ที่มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร Hublot Big Bang Unico Camouflage หลังสร้างผลงานสุดเท่อย่าง ‘Blacked-Out’ Big Bang GMT All Black มาแล้วก่อนหน้านี้ Hublot Big Bang Unico Camouflage Yohji Yamamoto คือซีรีส์ที่สองในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน ตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตรและขอบบาเซิลผลิตจาก High-tech Ceramic สีดำด้าน (matt black) ซึ่ง Hublot เคลมว่าทนทานไร้รอยขีดข่วน เช่นเดียวกับตัวเลขและเม็ดมะยม
เพิ่งเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อนกับ HUAWEI WATCH GT 2 Pro สมาร์ทวอชหน้าตาหล่อเหลา ที่พกเอาความสามารถมาแบบเต็มเหนี่ยว จัดเต็มฟังก์ชันอำนวยความสะดวกแทบทุกด้านของชีวิต ทั้งการทำงาน ความบันเทิง สุขภาพ และการออกกำลัง เรือนเดียวครบในราคาหนึ่งหมื่นบาทมีทอน (9,990 บาท) เท่านั้น และความสามารถเจ๋ง ๆ ของ HUAWEI WATCH GT 2 Pro จะมีอะไรที่ตอบโจทย์โดนใจชาว UNLOCKMEN บ้าง วันนี้เราจะไขข้อสงสัยให้ทุกท่านได้กระจ่าง เชิญอ่านไปพร้อมกันได้เลย เริ่มต้นกันที่จุดเด่นแรก ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องราวของงานดีไซน์ที่ส่งให้ HUAWEI WATCH GT 2 Pro มาพร้อมรูปลักษณ์เรียบหรู เหมาะกับการสวมใส่ในทุกช่วงเวลาของชีวิต จะออกงานเนี้ยบ ๆ หรือใส่ลุยออกกำลังกาย ก็อุ่นใจทุกสถานการณ์ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมที่น้ำหนักเบา และทนทาน พร้อมหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์สุดแกร่ง อีกทั้งยังมีบอดี้ด้านหลังที่ใช้วัสดุเซรามิกเคลือบเงา เสริมภาพรวมความงดงามของนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเลือกเปลี่ยนลุคได้รวดเร็วทันใจด้วยสายนาฬิกาที่ถอดเปลี่ยนได้ง่ายดายด้วยตัวเองแค่กดเลื่อนสลักด้านหลัง จะใส่สายหนังสุดหรู หรือสายซิลิโคนสไตล์สปอร์ต ก็เลือกได้ตามใจไม่ยุ่งยาก และไม่ใช่เพียงแค่สายนาฬิกาเท่านั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างสะดวกง่ายดาย ในส่วนของ
บอกตรง ๆ ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Swatch เรือนเวลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่เปรียบเสมือนมหานครแห่งโลกนาฬิกา แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เคยเกือบเสียตำแหน่งเบอร์หนึ่งแห่งอุตสาหกรรมเครื่องบอกเวลาไปกับวิกฤตการณ์ Quartz ในช่วงยุค 70 – 80 จนกระทั่งในปี 1983 เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจนาฬิกาสวิสได้ปรึกษาหารือแล้วว่าจะไม่ทนอีกต่อไป จึงได้ร่วมมือกันกอบกู้สถานการณ์ ด้วยการพัฒนานาฬิกาพลาสติกระบบ Quartz ตัวเรือนบางเฉียบ ดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย สีสันหลากหลายราคาไม่แพง ออกมาแลกหมัดกับนาฬิกา Quartz จากแดนปลาดิบให้รู้ดำรู้แดงกันไป ผลสุดท้าย ด้วยคุณภาพอันเป็นที่ร่ำลือของนาฬิกา Swiss Made ที่จับต้องได้ในราคาเป็นมิตร ทำให้นาฬิกากู้ชาติของสวิสเรือนนี้ได้รับความนิยมถล่มทลายไปทั่วโลก ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจส่งออกนาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง และเจ้านาฬิกาพลาสติกเรือนที่ว่าก็คือนาฬิกา Swatch ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก และน่าจะเคยครอบครองมาแล้วอย่างน้อยคนละเรือนสองเรือน จากการ Debut สู่สายตา และข้อมือชาวโลกในฐานะนาฬิกาพลาสติก ราคาประหยัด สีสันสดใส ทำให้ใคร ๆ ต่างก็มีภาพจำกับความเป็นนาฬิกาพลาสติกของ Swatch แต่จริง ๆ แล้วตลอด 37 ปีที่ผ่านมา Swatch ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาหลากรูปแบบ หลายฟังก์ชัน