GADGETs

TOYS FOR BOYS - UNBOX : XGIMI MOGO โปรเจคเตอร์อัจฉริยะพกพาความบันเทิงไปได้ทุกที่

By: NTman April 1, 2021

ในยุค COVID-19 แบบนี้ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปได้ส่งผลต่ออะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่เว้นแม้แต่รูปแบบการเสพความบันเทิงจากโรงหนังที่ซบเซาเงียบเหงาลงไปตั้งแต่ช่วง Lockdown ทำให้ทางเลือกความบันเทิงที่ยังให้กลิ่นอายความเป็นโรงหนังอย่างการรับชมภาพยนตร์ และซีรีส์ต่าง ๆ ด้วยการฉายผ่านทางโปรเจคเตอร์ในห้องแสงไฟสลัว ๆ ภายในบ้านนั้นได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างท่วมท้น

อีกทั้งเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแคมป์ผจญภัย ลงทะเล ขึ้นดอย เข้าป่า ซึ่งยังคงฮอตฮิตอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้อุปกรณ์โปรเจคเตอร์แบบพกพา นั้นได้รับความสนใจถูกเลือกให้เป็นไอเทมความบันเทิงหลัก ๆ ที่คนยุคนี้มีไว้ติดบ้าน รวมไปถึงพกติดกระเป๋าออกทริปเป็น Pocket Cinema พร้อมเสิร์ฟความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา

และสำหรับใครที่จด ๆ จ้อง ๆ กำลังมองหาโปรเจคเตอร์พกพาเอาไว้ใช้งานกันสักตัว Toys For Boys – UNBOX คราวนี้ เรามีของดีที่อยากแนะนำอย่าง XGIMI MOGO ซึ่งเป็น Android TV โปรเจคเตอร์ขนาดกะทัดรัด ที่อัดแน่นความสามารถมามากมายในราคาประมาณหมื่นต้น ๆ (ราคาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 12,990 ~ 13,99o บาท) ไม่โหดร้ายต่อเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ งานนี้ฟีเจอร์ที่มีจะเด็ดแค่ไหน ข้างในกล่องจะมีอะไรมาให้บ้าง ขอเชิญชาว UNLOCKMEN ทุกท่านติดตามการแกะกล่อง / พรีวิวการใช้งานให้กระจ่างไปด้วยกันได้เลย


 

UNBOX

แน่นอนว่า Toys For Boys – UNBOX ต้องเริ่มด้วยการแกะกล่องตามธรรมเนียม ซึ่งอุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาให้ในแพ็คเกจของ XGIMI MoGo มีดังนี้

  • ตัวเครื่อง
  • Android รีโมท (รองรับคำสั่งเสียง)
  • อแดปเตอร์ / สายชาร์จ
  • คู่มือ / ใบรับประกัน
  • เพิ่มเติมสายชาร์จแบบ Universal ขาปลั๊กรองรับเต้าเสียบหลายรูปแบบสำหรับใช้งานในต่างประเทศ

นอกจากนี้เมื่อหยิบจับสัมผัสตัวเครื่องบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา งานประกอบเนี้ยบละเอียดแน่นหนา หน้าตาดูสวยงามเรียบเท่ด้วยดีไซน์โค้งมนร่วมสมัยสมศักดิ์ศรีดีกรีรางวัล Red Dot Design Award โดยขนาดของ XGIMI MoGo ถือว่ากำลังเหมาะ มีมิติตัวเครื่องอยู่ที่ 146 x 105.5 x 95.5 มิลลิเมตร มีน้ำหนักที่เป็นมิตรต่อการพกพาเคลื่อนย้ายด้วยพิกัด 900 กรัมเท่านั้น

สำหรับการใช้งานเบื้องต้นรองรับทั้งการสั่งงานจากรีโมท และแผงควบคุมแบบสัมผัสที่ด้านบนตัวเครื่องแตะเพื่อ Play / Pause หรือเพิ่ม / ลดเสียงได้ทันที

ด้านหลังของตัวเครื่องมีปุ่ม Power และพอร์ตเชื่อมต่อรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร เอาไว้ต่อหูฟังหรือต่อสาย AUX ออกลำโพงตัวนอก หรือจะเลือกเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.0 ก็ได้  นอกจากนี้ยังมีพอร์ต HDMI สำหรับต่อเข้ากับเกมคอนโซล หรือเครื่องเล่นบลูเรย์เพื่อฉายภาพออกมาในขนาดใหญ่สะใจ พร้อมพอร์ต USB เอาไว้เสียบเพื่อเปิดไฟล์เล่นบน XGIMI MoGo  ได้ทันที

ส่วนช่องล่างสุดคือช่องเสียบ Power Adaptor สำหรับต่อไฟตรงในกรณีเปิดเล่นที่บ้าน หรือเสียบเพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ความจุ 10400 mAh ในตัว XGIMI MoGo พกพาไปเล่นนอกสถานที่แบบไม่ต้องเสียบปลั๊ก เปิดหนังได้ยาว ๆ ประมาณ 2 ~ 4 ชั่วโมง (ในโหมดประหยัดพลังงาน) และทำหน้าที่เป็น Bluetooth Speaker ฟังเพลงได้ต่อเนื่องประมาณ 8 ชั่วโมง


 

FEATURE

สำหรับฟีเจอร์เด่น ๆ ของ XGIMI MoGo บอกเลยว่าสามารถสาธยายออกมาได้หลายข้อ เริ่มจากความสว่าง ที่แม้ว่าจะเป็นตัวเริ่มต้นในไลน์โปรดักส์ทั้งหมดของ XGIMI  แต่ความสว่างระดับ 210 ANSI Lumens พร้อมความละเอียดระดับ HD Native Resolution (รองรับการเปิดคอนเทนต์ระดับ 1080P/2K และ 4K) ก็เพียงพอต่อการฉายภาพที่สว่างชัดสีสันสดใส ขอแค่อยู่ในพื้นที่ที่มีแสงไฟสลัว ๆ เป็นพอ ไม่ถึงขนาดต้องหาที่พื้นที่ที่มืดสนิทอะไรขนาดนั้น

โดย XGIMI MoGo สามารถฉายภาพได้ใหญ่สุดเทียบเท่าขนาดจอ 100 นิ้ว ขึ้นอยู่กับระยะห่างในการจัดวางโปรเจคเตอร์ ซึ่งจากการทดลองใช้ในพื้นที่ระยะ 1.5 – 2 เมตร ซึ่งถือเป็นระยะของห้องนั่งเล่นทั่ว ๆ ไป พบว่าสามารถฉายภาพได้เทียบเท่าจอขาด 60 ไปจนถึงจอ 80 นิ้วได้อย่างคมชัด คอนทราสต์สีสันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนใครที่เป็นห่วงเรื่องความทนทานของหลอดฉายภาพ ทาง XGIMI MoGo เค้าได้เคลมว่ามันมีอายุการใช้งานนานถึง 30,000 ชั่วโมง หรือเปิดหนังดูวันละ 4 เรื่องได้ยาวนานถึง 10 ปี แถมยังมีฟังก์ชันแปลงคอนเทนต์ 2D ให้กลายเป็นแบบ 3D ทะลุจอ แต่ต้องหาซื้อแว่น 3D มาใส่เพิ่มถึงจะรับชมได้แบบไม่เจอภาพซ้อนให้ตาลาย

อีกหนึ่งความเจ๋งของ XGIMI MoGo คือระบบ Auto Focus 10,000 จุด ที่จะปรับความคมชัดของภาพให้โดยอัตโนมัติและรวดเร็ว แค่หาพื้นผิวเรียบโล่งเอาไว้แล้วกดเปิดเครื่องก็พร้อมรับชมได้ทันทีไม่ต้องมานั่งปรับความคมชัดด้วยตัวเองให้เสียเวลา อีกทั้งยังแก้ปัญหามุมภาพเบี้ยวเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู ด้วยฟังก์ชัน Smart Keystone Correction เลือกปรับมุมภาพทั้งแนวตั้ง และ แนวนอน เพิ่ม/ลด ได้มากถึง 40 องศา

นอกจากเรื่องภาพที่จัดว่าดี บอกเลยว่าเรื่องเสียงนั้นก็ไม่ธรรมดา แม้จะต่อเสียงออกลำโพงภายนอกผ่านสาย AUX และ Bluetooth ได้ แต่ในกรณีที่อยากเสพความบันเทิงด่วน ๆ ไม่อยากเชื่อมต่ออะไรเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก ลำโพง Built-in ของ XGIMI MoGo ก็พร้อมส่งมอบพลังเสียงคุณภาพสูงจากลำโพงคู่ขนาด 3-Watt ที่ผ่านการจูนโดยพระกาฬด้านเสียงอย่าง harman/kardon ไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลง XGIMI MoGo เครื่องเดียวเอาอยู่

และสิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญ ซึ่งทำให้ XGIMI MoGo เป็นโปรเจกเตอร์พกพาที่เรียกได้ว่าครบจบในตัว คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากระบบ Android TV เวอร์ชัน 9.0 ในตัว ที่ทำให้ XGIMI MoGo นั้นทำงานได้เหมือนมือถือ Android ขนาดย่อม ใช้งานแอพฯ ได้หลากหลายเปิด YouTube, ดู Line TV, ฟังเพลงจาก Spotify ก็ได้ทั้งนั้น

หากยังไม่พอใจก็สามารถดาวน์โหลดแอพฯ และเกมเพิ่มเติมจาก PlayStore ได้อีกเพียบ พร้อมรองกับการสั่งงานด้วยเสียง Google Assistant อยากให้ Google ทำอะไรพูดใส่ไมค์ที่รีโมทได้เลย  นอกจากนี้ XGIMI MoGo ยังมี Google Chromecast ให้เราสามารถยิงแอพฯ ที่รองรับ จากมือถือไปแสดงผลผ่านโปรเจคเตอร์ได้ทันที ซึ่งผู้ใช้งาน iOS, MacOS หรือ Windows ไม่ต้องกลัวว่าจะสงวนความสามารถนี้ไว้เฉพาะ Andriod เพราะทุกคนสามารถแชร์หน้าจอขึ้นไปฉายบน XGIMI MoGo ได้อย่างง่ายดายผ่านแอพฯ AirScreen

แต่สำหรับคอซีรีส์ที่ติด Netflix งอมแงม ทางผู้ผลิตได้แจ้งไว้ว่าด้วยข้อจำกัดบางประการทำให้ในเวอร์ชันล่าสุดนั้นไม่สามารถเปิดแอพฯ Netflix ที่ติดตั้งบน XGIMI MoGo ตามปกติได้ และไม่สามารถ Cast Screen จาก Netflix บนมือถือขึ้นไปได้เช่นแต่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาให้น่าตกใจแต่อย่างใดเพราะ XGIMI Mogo ได้แนะนำให้ใช้ Netflix ที่ติดตั้งผ่านแอพฯ XTVmanager ซึ่งดาวน์โหลดได้จาก PlayStore จากนั้นก็เข้าไปล็อกอินแอคเคาท์ Netflix เพื่อรับชมซีรีส์เรื่องโปรดได้แบบเต็มตา เต็มจอเหมือนเดิม


 

OPINION & CONCLUSION

จากที่ได้แกะกล่องลองเล่น บอกตามตรงเลยว่ารู้สึกถูกอกใจ กับความครบครันที่ได้มา แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่ราคาเบาที่สุดของแบรนด์ XGIMI แต่วัสดุ, งานดีไซน์, งานภาพ, งานเสียง รวมถึงฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และระบบ Android TV ที่มีมาให้ สำหรับเราถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากับราคาค่าตัวที่จ่ายไป (ราคาในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 12,990 ~ 13,99o บาท)

ซึ่งใครที่กำลังมองหาโปรเจคเตอร์พกพาสเปคครบ มีแบต มีลำโพง มี Android TV แบบจบในตัว เรามองว่า XGIMI MoGo เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นได้อย่างน่าพอใจแล้ว

ส่วนใครที่จะเข้าวงการนี้ทั้งทีต้องไปให้สุด อยากอัพเกรดความสว่าง ความคมชัดของภาพ อยากอัพเกรดระบบเสียง อยากอัพเกรดความจุแบต ทางแบรนด์ XGIMI ก็มีทางเลือกให้สามารถเขยิบไปเล่นรุ่น XGIMI MoGo รุ่น Pro หรือรุ่น Pro+ หรือจะย้ายไปเล่น XGIMI ตระกูล Halo ก็สุดแล้วแต่กำลังทรัพย์จะพาไป แต่สำหรับมือใหม่อย่างเรา ๆ บอกเลยว่าแค่ได้ลอง XGIMI MoGo ตัวเริ่มต้นก็ประทับใจแล้ว

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line