Toys For Boys : UNLOCKMEN พาไปเปิดตู้รองเท้า ส่อง Rare Item ของสอง Sneakerhead ไทย

วันนี้ UNLOCKMEN ขอเกาะกระแสวงการ Sneaker ที่กำลังฮิตอย่างมากในบ้านเรา ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงขอบุกไปสัมภาษณ์สอง Collector ที่หลงใหล และสะสมรองเท้ากันเป็นจิตใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้มาหลงใหลรองเท้า รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับความคิดต่างๆ อย่างเช่น วิธีการเลือก ซื้อรองเท้า ดูแลรักษา รวมไปถึงคิดยังไงกับวงการ Sneaker ในบ้าน ณ ขณะนี้

เริ่มที่ DJKnatz หรือ คุณ ณัฐ ศรีรองเมือง DJ ที่คลุกคลีกับวงการรองเท้ามามากกว่า 10 ปี

เริ่มหันมาสนใจรองเท้าได้ยังไง

คงต้องย้อนกับไป 20 ปีที่แล้ว คือผมฟังเพลง  Hiphop ดู MV การแต่งตัวของพวกเขา คิดว่าเขาแต่งตัวกันเท่ดีนะ ก็เลยชอบ อยากแต่งตาม สมัยนั้นยังเป็นกางเกง Baggy เสื้อตัวใหญ่ๆ รองเท้าก็ต้องเป็น Nike Air Force 1 แต่มาเริ่มสะสมจริงจังตอนช่วงปี 2000 ที่ Nike SB บูม เราเริ่มเก็บจาก Nike Dunk แล้วก็เก็บมาเรื่อยๆ เป็นของสะสมของเรา

คู่แรก

Nike Dunk SB

ทำไมต้อง Dunk SB อะไรคือเสน่ห์ของมัน

ยุคสมัยก่อน Nike SB มันมีเรื่องราวของมัน เช่น คู่นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องนี้ ทำให้มันเป็น Street Fashion และมันใกล้ตัวเรา มันจับต้องได้ทุกวัน ซึ่งมันมีคุณค่าทางจิตใจเรา อย่างผมชอบ Futura คือผมก็จะเก็บหมดที่เป็น Collection ของ Futura

รองเท้าที่มีตอนนี้

คือผมจะเป็นคน  Rotate รองเท้า จะไม่ให้มีเกิน 30-40 คู่ พอได้อะไรมาเพิ่มเกินจากนี้ ก็จะเริ่ม  Rotate ออก เพราะรองเท้าจะมีเรื่องของอายุ มันจะพังแล้ว กาวมันเริ่มเสื่อม ดูคู่ไหนมีแววอีกไม่นานก็ขายออก

รองเท้ามีอายุ ? แล้วมีวิธีดูแลรักษามันยังไง

ด้วยความที่เมืองไทยมันเป็นอายุร้อน และก็พื้นสกปรก ปัญหา Crack เลอะ มันแก้ไม่ได้หรอก ถ้าที่ดีที่สุดคืออย่าเก็บในที่ชื้น หรือร้อนเกินไปก็จะทำให้อายุกาวเสื่อมเร็ว ดูได้ก็เพียงความสะอาดต้องเอามาคอย ปัด เช็ด ดูมัน

เหตุผลในการเลือกซื้อรองเท้า

เหตุผลเดียวเลยในการจะซื้อสักคู่  คือชอบล้วนๆ แบบพอเห็นสะดุด  เราไม่แคร์อะไรแล้วว่ามันจะ  Rare หรือ  Limited ถ้าชอบก็ซื้อเลย ส่วนเรื่อง Story รองเท้าจะเป็นเหตุผลรองมา เพราะไม่ใช่ว่ารองเท้าคู่นี้มี Story มันจะเข้ากับเรา เราต้องดูตัวเราก่อนว่าเหมาะไหม ไม่ใช่ว่าไปตั้งกระทู้คู่นี้ หรือคู่นี้แรงกว่ากันผมควรซื้อคู่ไหน มันไม่ใช่อะ อย่างเช่น Yeezy 750 ผมเป็นคนไม่ชอบสีดำ ถามว่าซื้อได้ไหม ซื้อได้ แต่เราเหมาะกับสีเทามากกว่า ก็ใส่สีเทาดิ มันไม่จำเป็นต้องไปถามคนอื่นมันคือตัวเราเอง

รองเท้าคู่ไหนที่ได้มายากสุด

จริงๆ คำว่ายากที่สุดไม่มีนะ มันขึ้นอยู่กับจังหวะ เวลา มากกว่า บทที่มันจะได้มันก็ได้มา  อย่างเช่น Nike Dunk Orchard ซึ่งมี 25 คู่ไหนโลก ซึ่งมันไม่ได้ขาย มันขึ้นไปโยนไว้บนเสาไฟฟ้าของ New York ใครจะเอาต้องขึ้นไปสอย และเราไปบ้านรุ่นพี่ และไปเจอ ก็เลยลองถามว่าขายเปล่า อยากได้ เขาก็ขาย 10,000 บาท มันอยู่ที่จังหวะจริง เรื่องรู้จักคน รู้จักหาของก็จะช่วยได้ ของบางอย่างใช่มันหายาก แต่แค่มีเงินมันก็ซื้อได้ แต่ของบางอย่างต่อให้คุณมีเงินก็หาซื้อไม่ได้

รองเท้า Top 3

เอาจริงๆ  เราเคยมีรองเท้าที่แบบหายากมากๆ  แต่สุดท้ายก็มาจบรองเท้าที่แบบสามารถใส่ได้ทุกวันไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องกังวลกลัวพัง กัลวเลอะ อะไร อย่างเช่นที่ใส่บ่อยๆ  เลยก็จะเป็น  Air Force Nike Lab เพราะวัสดุอะไรจะดีกว่า ใส่สบายกว่าแบบปกติ แล้วก็ชอบ Vans และก็ Adidas Yeezy เพราะเทคโนโลยีต้องยอมรับมันใส่สบายจริงๆ และเราก็หยิบมาใส่ได้โดยไม่ต้องคิด เป็นรองเท้าประจำทุกวันเลยได้

คิดอย่างไรกับกระแส Sneaker Fever ในบ้านเรา

ต้องย้อนกลับไปยังรองเท้ารุ่นแรกที่มาบูมในเมืองไทยเลย คือ Nike Dunk Sabotage ซึ่งเป็นแคมป์แรกในไทย พวกเราไปรอกันประมาณ 4 ทุ่มแล้วมาได้ซื้อตอนเที่ยงอีกวัน ตอนนั้นประมาณปี 2000 ต้นๆ แต่มันก็ไม่ได้ขนาดนี้เพราะสมัยนั้นกระแส Vintage กลบทุกอย่าง เพื่งมามี 3-4 ปีที่ผ่าน ที่ Street กลับมา

Adidas ยุคห้างแตก คือมองว่า มันเป็นกระแสเกินไป คือมันไม่ใช่ที่มีคนมาบอกว่า Starter for streetwear ต้องใส่  Jogger ต้องใส่  NMD มันไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เราใส่เพราะเห็นคนอื่นใส่กัน  ทั้งที่เรายังไม่รู้เลยมันคืออะไร รองเท้ารุ่นนี้มันดียังไง

กระแสแบบนี้จะทำให้คนที่รักจริงๆ  เริ่มหมดความหลงใหล เพราะอีกอย่างคือความโลภ คนเราอยากได้ตังค์ ใช่ใครๆ ก็อยากได้ตังค์ทั้งนั้นหละ  แต่ในแง่มุมที่ผมมอง คุณไปเข้าคิวซื้อรองเท้า คุณจะได้กันสักกี่คู่ เต็มที่ไปกะเพื่อน จ้างคนอื่นไม่เกิน 3-4 คู่ คุณต้องเข้าคิวกี่วัน ซึ่งเดี๋ยวนี้บ้ามาก เข้าแคมป์กัน 4 วัน แต่ 4 วันนี้รองเท้าของคุณขายได้กำไรสักเท่าไหร่  คุณยอมเสียต้นทุนชีวิต  ไม่ยอมเอาเวลาไปทำอย่างอื่น เพื่อมารอซื้อรองเท้าในแต่ละเดือน ลองคิดดูมันคุ้มกันไหม ที่คุณต้องมาอดหลับอดนอน

Benjamin Kickz

ถ้าเกิดคุณอยากขายรองเท้าจริงๆ  คุณก็ต้องหา  Connection ของคุณ พวกที่รวยๆ จากขายรองเท้าเขาไม่ต้องมานั่งต่อคิวอย่างนี้หรอก มันยังจะดีกว่า ซึ่งตอนนี้มันเฟ้อ เดี๋ยวมันก็จะแตก เสร็จคนที่ไปสต๊อกรองเท้าไว้เยอะๆ  ก็ระบายของไม่ออก เพราะเดี๋ยวนี้ NMD ใครก็หาได้

ฝากถึงคนจะมาสะสมรองเท้ารุ่นใหม่

เล่นเท่าที่กำลังเราสามารถ  ทุกวันนี้ไม่เคยซื้อรองเท้าปลอม  มีเท่าไหร่ก็ซื้อในงบที่เราตั้งไว้ ซื้อที่เราชอบมันจริงๆ เราถึงจะรู้สึกผูกพันธ์กับมัน  อย่าซื้อเพราะตามกระแส  ซื้อเพราะเพื่อนมี  ฉันก็ต้องมี  เพราะสุดท้ายคุณก็จะไม่ได้ใส่มัน ไม่ต้องไปบ้าตามกระแส สมัยนี้จะจับฉลากยังต้องไปแคมป์ มันไร้สาระเกินไปหรือเปล่า

คนที่อยากได้ก็อยากได้จนหน้ามืดเกินไป  ถ้าอยากจะเล่นรองเท้าจริง  คุณก็ต้องรู้วิธีเล่นให้ถูก  ต้องมีเทคนิคของแต่ละคน อย่างเช่น เวลาซื้อรองเท้า Resell เราก็ต้องหา Connection ยังประเทศต่างๆ ดูค่าเงินอะไรช่วงไหนที่ไหนถูก พอเราซื้อมา เสร็จใส่ๆ จนเบื่อ เราก็ขาย แถมได้กำไร

มาต่อกับอีกท่านคือ คุณ แจ๊ค อนุตร แย้มสรวล จากนักเล่น High-End มาสู่ Street Style

จุดเริ่มต้นที่ชอบรองเท้า

เริ่มต้นจากความชอบ เริ่มเก็บมาประมาณ 5 ปี มันเป็นความรักตั้งแต่เด็กๆ แต่ช่วงนั้นมันไม่สามารถทำได้ แต่หลังๆ พออะไรมันลงตัว  ก็เลยเริ่มทำตามความตั้งใจตอนเด็กเริ่มเก็บรองเท้ามาเป็นของสะสม

ก่อนจะมาเล่นสาย  Street  ก็เล่นรองเท้าพวก  High-end มาก่อนแบบ  Louboutin แล้วก็มาเจอ  Jordan 1  แต่สมัยก่อนก็ไม่ค่อยรู้มากหนัก ความรู้ยังไม่แพร่หลายอย่างทุกวันนี้ แต่พอทุกอย่างพร้อมอย่างที่บอกก็เริ่มศึกษา แล้วก็จึงตัดสินใจเริ่มเก็บรุ่นที่ชอบ

คู่แรกในดวงใจ, เหตุผลในการเลือกซื้อ

Nike Yeezy Platinum  เป็นรองเท้าแพงคู่แรกที่ตัดสินใจซื้อต่อมา ปกติจะไม่เคยซื้อของต่อใคร ผมจะเล่นรุ่นที่หายากนิดหนึ่ง  แต่ซื้อไปซื้อมาก็มีเป็นร้อยกว่าคู่แล้วตอนนี้

รองเท้าที่ได้มายากที่สุด

Set Nike Yeezy ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเก็บสะสมได้ครบทุกคู่  คือมันต้องใจเย็น  คือเรามีเงินที่จะซื้อได้ แต่มันสมเหตุสมผลไหม เพราะบางทีเรื่องค่าเงินอะไรต่างๆ พอมันมาตีเป็นเงินไทยมันมีผล ถ้าเกิดเรารออีกสักนิด เราอาจจะได้ของที่มันถูกกว่าก็ได้

วิธีเก็บรักษารองเท้า

ก็ทำเป็นห้องรองเท้าไว้  อาทิตย์หนึ่งก็มาเปิดแอร์ที  แล้วก็เอามาทำความสะอาด  แต่คู่ที่เราชอบๆ  ไม่ค่อยได้ใส่เท่าไหร่หรอก

หากมีคนบอกว่ารองเท้าเป็นของฟุ่มเฟือย ?

ของทุกอย่างหากเราคิดว่ามันฟุ่มเฟือย มันก็ฟุ่มเฟือย  ถ้าคิดว่ามันคือความสุข มันก็เป็นความสุข ของแบบนี้พูดยาก หลายคนอาจจะเจอราคาเท่านี้แล้วหนีหมด แต่เรามีกำลังซื้อ เพราะเราไม่ชอบดิ้นรนอะไรมาก เรามีงานที่ต้องทำ มีธุรกิจดู เราไม่มีเวลาขนาดนั้น ที่จะไปนั่งเข้าคิว ต่อแถว ก็เลือกทางนี้ที่เราไหว สะดวกกับเราพอ

ฝากถึงคนจะมาสะสมรองเท้ารุ่นใหม่

เอาให้พอดีตัว  ไม่ลำบาก  ไม่ใช่ซื้อรองเท้าอย่างสวย แต่ไม่มีเงินทำอย่างอื่น มันพูดยากนะมันเป็นความชอบส่วนตัวเข้าใจ เพราะพอมันได้รับความนิยมมากๆ ราคามันถีบตัวไปแรง ซึ่งถามผม ผมชอบนะ เพราะซื้อของง่าย แต่คนอื่นอาจจะไม่ชอบ อย่างเราซื้อเพราะเรารัก เอาเป็นว่าเรารัก เราสะสมในสิ่งที่ชอบ เราสบายใจกับมันก็พอดีกว่า

และนี้ก็เป็นมุมมองดีๆ ของสอง  Sneakerhead  ที่สะสมรองเท้าเป็นเหมือน  Toys  ของพวกเขา ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งสองมีทัศนคติมุมมองในการซื้อที่แตกต่างกัน  ซึ่งเราก็หวังทุกท่านจะได้รับมุมมองดีๆ เหล่านี้ไปใช้ต่อได้ในอนาคต หรือสำหรับคนที่สนใจ  และคิดจะเริ่มเป็น Collector แบบพวกเขาก็ลองไปปรับให้เขากับตัวเอง

สุดท้ายนี้  UNLOCKMEN  ก็อยากจะฝากอีกเรื่องหนึ่งคือ รองเท้าก็เหมือนกับเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ  คือถ้าเรามีความสุขกับสิ่งไหนเราก็เลือกสิ่งนั้นไม่จำเป็นจะต้องไปฟังใคร  หรือตามกระแสใครเพราะบางทีแล้วสิ่งเหล่านั้นอาจจะไม่ได้เหมาะกับเราจริงๆ  พอซื้อนอกจากจะเสียดายตังแล้ว ก็ยังเป็นการตัดโอกาสคนอื่นที่อยากได้จริงๆ อีกด้วย