APPS

UNBOX เปิดกล่อง “Mi Band 2” สายรัดข้อมือฟิตเนสแทรคเกอร์ คุ้มด้านฟังก์ชั่น ในราคาไม่ถึงพัน

By: myfifthday November 2, 2016

จากก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงการเปิดตัวของ Mi Band 2 กันไปแล้ว ด้วยความที่ Mi Band เป็นสายรัดข้อมือสำหรับคนที่ชอบการออกกำลังกายแต่มีราคาสุดคุ้มกว่าตัวอื่นๆ ในตลาด โดยรุ่นแรกก่อนหน้านี้ได้ถล่มยอดขายไปอย่างหนัก ด้วยคุณสมบัติกับราคาแบบจับต้องได้ จนไปสู่การพัฒนาเวอร์ชั่นต่อมาอย่าง Mi Band 2 ที่ได้เปิดตัวลงสู่ตลาดด้วยคุณสมบัติที่มากกว่าเดิม ทีมงานไม่พลาดที่จะไปหาชื้อ เพื่อจะทำการ Unbox และรีวิวการใช้งานคร่าวๆ ของตัว Mi Band 2 ว่าน่าสนใจน่าใช้ขนาดไหนกัน

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-16

Unboxing 

สำหรับกล่องล็อตตัวนี้จะค่อนข้างแตกต่างกับล็อตแรกๆ ที่ออกแบบมาคล้ายกล่องกระดาษรีไซเคิลโทนน้ำตาลแบบฉบับของ Xiaomi เพราะล็อตนี้ตัวกล่องจะเป็นสีขาวล้วนพร้อมรายละเอียดภาษาจีนอยู่ด้านหลังกล้อง เมื่อเปิดกล่องจะพบกับ Mi Band 2 วางเด่นอยู่ตรงกลาง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ที่รองรับการใช้งานระบบสัมผัส

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-3

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัว Mi Band 2 สีดำ
  • สายรัดข้อมือที่ปรับได้หลายระดับตามข้อมือผู้สวมใส่
  • คู่มือการใช้งาน เล่มเล็กๆ บาง (ภาษาจีน)
  • สาย ​Micro USB อีกด้านเป็นที่ชาร์จสำหรับ Mi Band 2

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-5

Mi Band 2

ตัวแกนหลักอย่าง Mi Band 2 มีรูปทรงค่อนข้างเหมือนรุ่นแรกแต่เพิ่มขนาดมาให้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อย และใส่จอ OLED เข้ามาเป็นหัวใจหลักที่สามารถแสดงข้อมูลต่างๆ ได้ตั้งแต่การบอกเวลา การนับก้าว ไปจนถึงอัตราการเต้นของหัวใจ ผ่านจอเล็กๆ นี้ และด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นจากตัวเดิมคือการสั่นเตือนแก่ผู้สวมใส่ ก็ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะแจ้งเตือนเวลา สายโทรเข้า หรือแม้แต่การแจ้งเตือนของแอพฯที่เชื่อมต่ออยู่ภายในเครื่อง

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-6

Mi Band 2 ทำจากพลาสติกผสมกับอลูมีเนียมบางจุด ตัวจอมีการเคลือบสารเพื่อป้องกันแสงสะท้อน ป้องกันรอยขีดข่วน ฝุ่น และเหนือไปอีกด้วยคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นที่ IP67 ถ้าพลิกด้านหลังจะพบกับเซ็นเซอร์ที่มากขึ้นจากเดิมเป็น 2 จุด

สำหรับตัวสายที่ให้มาภายในกล่อง ทำได้ดีกว่าตัวแรกเพราะมีการใส่สาร Hypoallergenic เข้ามาลดการแพ้ของผู้สวมใส่ที่ผิวบอบบาง เม็ดกระดุมที่คล้ายกับอะลูมิเนียมสะท้อนจะมีรูปทรงคล้ายกับบริเวณจอ สำหรับใครที่ต้องการสายสีอื่นแบบอื่น ก็สามารถหาชื้อเฉพาะตัวสายมาปรับเปลี่ยนได้

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-12

ด้านการใช้งาน

หลังจากที่เราได้ลองใช้งานเบื้องต้นมาบ้าง การใส่ทั้งวัน ทุกเวลา ไม่ได้สร้างความปวดเมื่อยให้กับข้อมือสักเท่าไหร่ ด้วยน้ำหนักที่เบาและรัดเน้นตามระดับข้อแขน แต่อาจลำบากนิดหน่อย สำหรับคนที่ทำงานบนแล็ปท็อปเพราะอาจพิมพ์ไม่ค่อยถนัด ส่วนอายุการใช้งานของตัวแบตเตอรี่นั้นก็ถือว่าทำได้ดีมากเพราะการเพิ่มหน้าจอมาให้ใช้งานก็จริง แต่ก็อยู่ได้มากถึง 19วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-14

พูดถึงในด้านฟังก์ชั่นก็สมราคาคุยจริงๆ เพราะมีตั้งแต่การดูข้อมูลผ่านจอ OLED ที่สะดวกและง่ายดาย พร้อมทั้งยังเก็บข้อมูลด้านการนอนของผู้สวมใส่ในแต่ละคืน อีกทั้งตัวเซ็นเซอร์ที่จับอัตราการเต้นของหัวใจแม้จะไม่ถือว่าแม่นยำเป๊ะ แต่ก็ทำได้ดีแบบที่พอรับได้ เราสามารถดูข้อมูลหรือจัดเก็บ ไว้เพื่อสังเกตพฤติกรรมของตัวเราเองได้ดีเยี่ยม

161102-unbox-mi-band2-fitness-tracker-11

การใช้งานคู่กับแอพพลิเคชั่น (iOS)

สำหรับครั้งนี้ทีมงานขอรีวิวผ่านทาง iOS โดยดาว์นโหลดตัวแอป Mi Fit ได้ที่ App Store เมื่อเปิดตัวแอพฯ ขึ้นมา ระบบจะมีให้สร้างบัญชีของ Mi โดยกรอกข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อ อีเมล์ เบอร์โทร และเมื่อเข้าสู่ภายในแอพฯ จะเห็นได้ว่าแบ่งสัดส่วนหน้าตาได้แบบชัดเจน (เข้าใจง่าย) มีการแสดงข้อมูลของการนับก้าวอยู่ในหน้าหลัก และภายในมีการบอกสถานะของการทำงานอยู่ด้านล่าง สำหรับการเชื่อมต่อก็สามารถ Add Device เพิ่มได้จาก Profile การเชื่อมต่อเข้ากับของ Mi Band 2 เข้ากับตัวแอพฯ จับคู่กันผ่านทาง Bluetooth 4.0 จะแจ้งเตือนเป็นระบบสั่นและจะให้สัมผัสหน้าจอของอุปกรณ์เพื่อยืนยันการจับคู่

ต่อมาในส่วนของหน้าตาเมนูอัตราการเต้นของหัวใจ มีบอกสถานะล่าสุดโดยโชว์ทั้งแบบกราฟและแบบตัวเลขให้ดู อีกทั้งยังสามารถไล่ดูประวัติบันทึกเก่าย้อนหลังได้เป็นเดือน ให้เราวิเคราะห์ได้เลยว่าช่วงเวลาไหน เรามีการเต้นของหัวใจอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

และในเมนูตั้งค่าต่างๆ นั้นเราสามารถตั้งค่าให้ Mi Band 2 แสดงการแจ้งเตือนด้วยการสั่นได้แทบจะทุกอย่าง ตั้งแต่มีสายเรียกเข้า ตั้งปลุก ตั้งให้เตือนแอพฯ ต่างๆ เช่น Facebook หรือแจ้งเตือนสำหรับคนทำงาน ก็คือจะสั่นเมื่อเรามีการนั่งคงที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่ง Mi Band 2 จะสั่นให้เรารู้ว่ามันไม่ดีนะ ถ้าเราจะนั่งนานเกินไป

สำหรับใครที่กำลังคิดว่า Mi Band 2 จะทำให้เปลืองแบตสมาร์ทโฟนมากขึ้นเพราะต้องเชื่อมต่อตลอดเวลา บอกได้เลยว่าตัว Mi Band 2 สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้นานถึง 30 วัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องซิงค์ ไม่จำเป็นต้องเปิดบลูทูธไว้ตลอดเวลา ยกเว้นในกรณีของคนที่ต้องการให้แจ้งเตือนเกี่ยวข้องกับแอพฯต่างๆ ถึงต้องเปิดเชื่อมต่อไว้ตลอดเวลา


ในส่วนของหน้าโปรไฟล์ยังสามารถตั้งเป้าหมาย (Goal) ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือเป้าหมายในการลดน้ำหนัก ตัวแอพฯ ยังออกแบบมาให้เราสามารถอัพเดทน้ำหนักกันได้ตลอดเวลา พร้อมจะสรุปเป็นกราฟที่บอกข้อมูล BMI และตามติดความคืบหน้าให้กับเราเสมือนไดอารี่น้ำหนักส่วนตัว

หลังจากที่ UNLOCKMEN ได้บอกข้อมูลจากการใช้งานไปคร่าวๆ แล้ว เราก็ขอแนะนำว่าให้ลองหามาใช้ ปรับแต่งให้เหมาะสมในแต่ละความต้องการดู โดยส่วนตัวเราคิดว่าเป็นสายรัดข้อมือที่มีความคุ้มค่า น่าใช้งาน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนชอบออกกำลังกาย เนื่องจากการใช้งานของฟังก์ชั่นถือว่าครอบคลุมไปถึงการใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งกันน้ำกันฝน ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย ด้วยราคาตามหน้าเว็บอยู่ที่ 700 กว่าบาทนั้น (149 ยวน) เราถือว่าทำได้ขนาดนี้ก็ไม่น้อยหน้าตัวหลักพันเลย แม้จะยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย แต่เราก็สามารถหาชื้อได้ตามร้านค้าปลีกหิ้วออนไลน์ทั่วไป

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line