Business

UNLOCK DEBT: ศาสตร์แห่งการเป็นหนี้ “DREAM CAR” อยากมีรถคันแรก ต้องรู้อะไรบ้าง

By: anonymK January 17, 2020
Whoever Said Money Can’t Buy Happiness
Just Never Bought the Right Car.

Dream Car คือความฝันลูกผู้ชายทุกคน แต่ถ้าถามเรื่องการเงิน เรื่องกู้เงินมาซื้อรถ คนส่วนใหญ่อาจจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เราเป็นคนประเภทไหน เหมาะกับการกู้แบบไหน ถ้าไม่ได้มีเงินสดพร้อมโอน เราควรต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะซื้อรถได้ หรือจะดูยังไงว่าไหวไม่ไหว

ใครที่อยากเตรียมตัวซื้อรถ หรือเล็ง ๆ ไว้อยู่ UNLOCKMEN ขอเปิดวิชาเป็นหนี้คร่าว ๆ ให้ทุกคนเรียนรู้กัน ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เป็นเศรษฐีเงินผ่อน แต่ถ้ามัวรอเงินก้อนกว่าจะซื้อ บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าความชราที่มาพร้อมเงินเฟ้อมันจะทำให้พวกเราหมดสิทธิ์มีรถในฝัน

3 คำเตือนต้องรู้ก่อนซื้อ ไม่ไหวอย่าบอกไหว

คำเตือนข้อ 1: เห็นตัวเลขผ่อนน้อย ผ่อนยาว อย่าเพิ่งโดดไปผ่อนเพราะคิดว่าหักจากเงินเดือนก็ยังพอกิน หนี้มันไม่ได้จบแค่ตัวเลขที่มองเห็น แต่มันยังมีตัวเลขแฝงอื่นอีก

  • ค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน เฉลี่ยใน กทม. ประมาณ 3,000 บาท / เดือน ขึ้นอยู่กับระยะทาง
  • ค่าประกัน เบี้ยประกันอยู่ที่ราว ประมาณ 18,000-20,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 1,500 บาท
  • ค่า พรบ. ภาษีรถยนต์ (รายปี) ประมาณ 600-1,200 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทและการใช้งาน
  • ค่าเปลี่ยนยาง ยางปกติเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี อยู่ที่ประมาณ 1-2 หมื่นบาท (4 เส้น)
  • ค่าล้าง ประมาณ 200 บาทต่อครั้ง
  • ค่าซ่อม ฯลฯ

 

คำเตือนข้อ 2: เดี๋ยวนี้เงิน 15,000 บาทมันกู้ซื้อรถได้จริง แต่เรตนี้ไม่มีรายได้เสริม บอกเลยว่าไม่แนะนำ ใครเป็นหนี้ก้อนใหญ่เพราะซื้อรถหรือบ้าน ลองประเมินศักยภาพการใช้หนี้ก่อนว่าจะเป็นหนี้หัวโตจนไม่มีเงินกินข้าวไหม ให้ประเมินคร่าว ๆ จากสูตรที่หลายเว็บฯ บอกกันก็ได้ว่า หนี้การผ่อนมันเกิน 40% ของรายได้ไหม ถ้าเกินโปรดพับโครงการไว้ก่อน

เช่น เงินเดือน 15,000 บาท 40% ของรายได้คือ 6,000 แต่ต้องผ่อนเดือนละ 8,000 บาท อันนี้ก็ล้นแล้ว เพราะยังไม่รวมกับค่าน้ำมัน ค่ากินอยู่ ฯลฯ สภาพคล่องต่ำ ความเสี่ยงสูงเกินไป ไม่เหมาะ

 

คำเตือนข้อ 3: 0% ไม่ใช่ของหวาน บางคนรายได้ต่ำพอเห็นเงินดาวน์ต่ำ 0% เข้าหน่อยก็ย่ามใจว่าเดี๋ยวค่อย ๆ ผ่อนไปดิ มีพอจ่าย แต่อันที่จริงลืมคิดไปว่า เรื่องนี้มันพ่วงมากับดอกเบี้ยที่เยอะ ให้จำไว้เสมอว่าดอกเบี้ยรถเป็นดอกเบี้ยคงที่ไม่เหมือนบ้านที่จ่ายโปะแล้วลดได้ ดังนั้น ยิ่งดาวน์ต่ำ เวลาผ่อน ถ้าเอามาคำนวณไป ๆ มา ๆ ดอกเบี้ยที่มันอาน ทำให้ราคาที่ต้องจ่าย รวม ๆ แล้วแพงกว่ารถเกรดที่ต้องการหลายเท่า

ที่สำคัญ การไม่มีเงินดาวน์มันทำให้เห็นว่าวินัยการเงินเราอาจจะน้อย ผ่อนระยะยาวโอกาสจะจ่ายไม่ไหวสูง แล้วสุดท้ายเงินขาดงวดส่ง ตกลงการจ่ายหนี้กับสถาบันการเงินไม่ได้ ทีนี้มันจะสูญ คืนรถไปก็อาจจะยังมีหนี้ตามอีก ดังนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าอยากมีรถแล้วจำเป็นต้องมีหนี้ ให้คิดเสียว่าหนี้นั้นเป็นหนี้คอขาดบาดตาย ห้ามเบี้ยวไว้จะดีที่สุด

 

กู้ได้ไหม เงินพอหรือเปล่า?

พวก Dream Car ราคาดอกฟ้าเราเด็ดลงมาด้วยการกู้ แต่คำว่า “กู้” มันไม่ได้แปลว่ากู้ได้ไม่อั้น เพราะสถาบันการเงินเขาก็มีเพดานเงินกู้มาคำนวณจากเงินเดือนเราด้วยว่าด้วยอัตราการกู้เท่านี้ เราสามารถจ่ายได้จริงหรือเปล่า ใครที่อยากรู้ว่าเงินเดือนเท่านี้ควรซื้อรถได้ในราคาเท่าไรวันนี้ก็ไม่ต้องไปนั่งกดเครื่องคิดเลขเองให้งง นี้หลายเว็บฯ เขามีเครื่องมือช่วยเทียบความเป็นไปได้ในการซื้อรถของเรา คำนวณให้แบบ Auto

ส่วนตัวขอแนะนำเป็นของ Finstreet สูตรนี้ใช้อัตราคำนวณจากดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี ระยะเวลาผ่อน 5 ปี ภาระหนี้ 40% ของรายได้ ยอดกู้ไม่รวมเงินดาวน์ที่ 20% ของราคารถยนต์ (เลือกสูตรนี้เพราะ 5 ปีก็ 60 เดือน นานมากกว่านี้จะยิ่งเครียดจัด ต้องมากลัวเรื่องงานประจำที่ต้องมีรายได้ต่อเนื่อง ส่วนที่รวมเงินดาวน์ไว้เพราะควรมีเงินดาวน์อยู่แล้ว) ใครอยากลองทดสอบความสามารถทางการเงินของตัวเองเชิญได้ที่นี่ https://www.messenger.com/t/FinstreetOfficial

ลักษณะจะเป็น Chatbot เราพิมพ์ตัวเลขเข้าไปเขาจะคำนวณมาเสร็จสรรพ แถมแนะนำรุ่นกับราคารถให้ด้วย

เริ่มจากการพิมพ์สิ่งที่เราอยากรู้เข้าไปก่อนอย่าง “รถ” จากนั้นกรอกตัวเลขที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของเราเข้าไปเพื่อประเมิน

ข้อดีคือมีเว็บไซต์ให้เราสามารถลิงก์ต่อไปถึงข้อมูลแหล่งอื่นที่ต้องการได้ เช่น ราคารถ บริการสินเชื่อที่ต้องการ เป็นต้น

แต่ถ้าใครต้องการแบบเป๊ะ ๆ เพราะรู้ราคารถที่ต้องซื้อ ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนและจำนวนเงินดาวน์แล้ว เข้าไปตามเว็บฯ ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ แล้วกรอกได้เลย จะมีสูตรคำนวณให้และมีช่องทางให้ติดต่อเพื่อรับบริการสินเชื่อให้ทันที

หลังจากรู้วงเงินแล้ว ถ้าจำนวนเงินไม่พอรถในฝันจะเอาไง วิธีแก้ก็ไม่ยาก

  1. ลดสเปกรถที่อยากได้ลง ถ้าวงเงินเราไม่พอแต่ยังจำเป็นต้องใช้รถ
  2. หารายได้เสริมเพื่อเพิ่มเพดานการกู้ให้ถึงราคารถในฝัน
  3. เก็บเงินดาวน์ให้เยอะ ๆ ไว้ จะได้เหลืองวดผ่อนน้อย ๆ ให้พอกับราคาที่ต้องการ

 

เราเป็นนักกู้แบบไหน

ถึงเวลาต้องกู้สินเชื่อทั้งหลาย เราก็ต้องมาดูต่อว่าเราเป็นนักกู้แบบไหน รายได้เรามาจากทางไหนบ้าง และต้องเตรียมเอกสารไฟแนนซ์อะไรเขาถึงจะอนุมัติ แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ก่อน คืองานประจำกับงานไม่ประจำ

FULL TIME

คนที่พนักงานประจำ จะเอกชนหรือราชการก็ได้ อันนี้ค่อนข้างง่ายเพราะมีสลิปเข้าบัญชีเป็นประจำเวลาตรวจสอบ Statement อนุมัติสินเชื่อคล่อง ส่วนวงเงินเท่าไรเหมาะกับการเลือกสินเชื่อแบบไหน แนะนำให้โทรหรือสอบถามข้อมูลจากสถาบันการเงินนั้น ๆ ได้เลย เทียบหลาย ๆ แห่งก่อนก็ดี เพราะแต่ละที่ก็มีรายละเอียดต่างกัน

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • สลิปเงินเดือน (เป็นแบบคาร์บอน) หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • แผนที่บ้าน และแผนที่ทำงาน

 

FREELANCER

อาชีพนี้หลายคนมักจะมองว่ามีปัญหา เพราะตัวเลขไม่แน่นอน แต่ไม่ต้องถอดใจเพราะเรายังไม่หมดสิทธิ์กู้ยืม ใครที่มีอาชีพอิสระ บริษัทไฟแนนซ์เขาแค่ต้องการความเชื่อมั่นของตัวเลขที่มากกว่าปกติหน่อย ถ้าเอกสารครบถ้วนเขาก็ให้เรากู้ได้เช่นเดียวกัน

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับอาชีพอิสระ

  • Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
  • เอกสารรับรองรายได้โดยมีผู้ค้ำประกัน (กรณีเงินดาวน์ต่ำ)
  • แผนที่บ้าน และแผนที่ทำงาน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ใครที่ทำอาชีพอิสระ นักเขียน ช่างภาพ ฯลฯ ที่เป็นลักษณะจ้างงาน ไม่ใช่ผู้ประกอบการให้พยายามสร้างรายรับที่สม่ำเสมอต่อเนื่องเข้ามา และขอหนังสือรับรองจากผู้ว่างจ้าง
  • กรณีเจ้าของกิจการให้รูปถ่ายกิจการ หรือร้านค้า รวมถึงภาพถ่ายสต๊อกสินค้า สินค้าที่ทำการซื้อ-ขาย บิล-ใบเสร็จต่างๆ ใบเสนอราคา (ถ้ามี) เพื่อประกอบเป็นหลักฐาน

หวังว่าทั้งหมดนี้จะพอเป็นแนวทางให้พวกเราตัดสินใจคว้า Dream Car ในฝันมาได้ในจังหวะที่สมควร หรือถ้ายังไม่ซื้อ ยังไม่พร้อม เนื้อหาในนี้น่าจะพอสร้างเป้าหมายทางการเงินให้ได้สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าปีนี้จะวางแผนเก็บเงินยังไงต่อได้ มองรถไว้ให้ติดตา คิดถึงพวงมาลัย แล้วเร่งหาเงินมันจะช่วยได้เยอะ ส่วนอีกเรื่องที่หลายคนและเราแนะนำเหมือนกันคือ

“รถมันของสิ้นเปลือง ราคามันตกลงทุกวันถ้าเทียบกับบ้านและที่ดิน ดังนั้น จังหวะที่เราได้มันมา ให้หาทางสร้างรายได้จากมันแล้วเก็บไว้กลบหนี้จะช่วยให้สบายขึ้นเยอะ”

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line