VANS x DAVID BOWIE คอลเลกชันสุดพิเศษ สดุดียอดร็อกเกอร์ผู้เป็นตำนาน

สำหรับผู้ชื่นชอบแนวเพลงแกลมร็อก คงไม่มีใครไม่รู้จัก David Bowie ชายที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยสไตล์และบทเพลงที่โดดเด่นยากจะหาใครเหมือน ด้วยผลงานระดับตำนานของเขาทำให้ Vans ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวของ David Bowie ผ่านรองเท้าสี่แบบของแบรนด์ที่มีสไตล์แตกต่างกัน จนเกิดเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงและอัลบั้มของเจ้าพ่อแห่งวงการแกลมร็อก

4usky

ถ้าพูดถึงเจ้าพ่อแนวเพลง Glam Rock ก็ต้องนึกถึง David Bowie ศิลปินแกลมร็อกที่ทั่วโลกยกย่องถึงความสามารถและที่มีแนวทางเด่นชัดในแบบของตัวเอง เป็นชายที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและดนตรี มีบทบาทมากต่ออุตสาหกรรมดนตรีและโลกของแฟชั่น ด้วยการฉีกทุกกฎของยุคสมัย ทำให้รองเท้าทั้ง 4 คู่ ที่ดีไซน์ตามอัลบั้มของเขาโดดเด่นด้วยสไตล์ที่ไม่ซ้ำกัน

Space Oddity (1969)

musicmaniauk

รองเท้าคู่แรกคือผ้าใบสีฟ้าสดใส ถ่ายถอดบทเพลงแจ้งเกิดของของ David Bowie อย่าง Space Oddity จากปี 1969 เมื่อเห็นรองเท้าก็ชวนให้หวนคิดถึงวันเก่าก่อนได้เป็นอย่างดี

ทั้งการแต้มจุดสีฟ้าลงบนพื้นรองเท้าสีเขียวไล่ระดับจากเข้มไปอ่อนเหมือนกับปกอัลบั้มแรกของเขาไม่ผิดเพี้ยน จากนั้นจึงใช้สีดำของเชือกรองเท้าและพื้นยางตัดกับสีรองเท้าสีสันสดใสเพื่อขับให้รองเท้าโดดเด่น พร้อมประทับความว่า SPACE ไว้ด้านข้าง ระลึกถึงห้วงอวกาศอันเป็นแรงบันดาลใจของบทเพลงนี้

hypebeast

hypebeast

Hunky Dory (1971)

รองเท้าคู่ถัดมาในคอลเลกชันนี้ยังคงคอนเซปต์สีสันสดใส นำเสนอเรื่องราวจากอัลบั้มที่สอง Hunky Dory ในปี 1971 หลังจากเริ่มมีชื่อเสียงจาก Space Oddity โดย Vans ใช้หนังกลับสีเหลืองสดใส และ ขน faux ลายตารางหมากรุกสีขาว เทา ดำ เพื่อเก็บรายละเอียดจากเสื้อลายตารางของ David Bowie จากอัลบั้มที่สองได้ พร้อมสลักชื่อของ David Bowie บนพื้นหนังกลับสีเหลือง และไม่ลืมรายละเอียดด้านในของรองเท้าด้วยการใช้สีฟ้าสว่างทำเป็นพื้นรองเท้า อัดแน่นไปด้วยสีสันสดใสและรายละเอียดมากมายทั้งภายนอกและภายใน

hypebeast

hypebeast

Ziggy Stardust (1972)

exploredeeply

Ziggy Stardust ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกจดจำ David Bowie ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากบทเพลงที่ติดหู แฟชั่นของเขาจากอัลบั้มนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับโลกของดนตรีและแฟชั่นไปพร้อมกับ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ

Bowie ฉีกลุคการแต่งตัวของตัวเองใหม่หมด จากเดิมที่ทำผมฟู ๆ สีธรรมชาติ เปลี่ยนมาย้อมผมสีแดงเพลิง แต่งหน้าทาปากแบบผู้หญิง แสดงให้เห็นทัศนคติแบบ Unisex มาตั้งแต่ปี 1972 โดยแฟชั่นและการแต่งหน้าทำผมที่ไม่ชัดเจนทางเพศของ Bowie จากอัลบั้ม Ziggy Stardust กลายเป็นเอกลักษณ์สำคัญของดนตรีประเภทแกลมร็อก แนวเพลงแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 70

รองเท้าหุ้มข้อสีดำลายตารางของ Vans พร้อมที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ Ziggy Stardust ด้วยการดึงสีจากเสื้อผ้าที่ Bowie สวมใส่ถ่ายรูปในอัลบั้ม และสีผมแดงเพลิงของเขามาสร้างสรรค์ผลงาน โดยไม่ลืมที่จะปักคำว่า Bowie ด้วยด้ายสีแดงสด พร้อมกับ]kpสายฟ้าฟาดสีดำ แดง ขาว ขับให้รองเท้าหุ้มข้อโดดเด่น

hypebeast

hypebeast

Aladdin Sane (1973)

รองเท้าคู่สุดท้ายจะเล่าถึงช่วงเวลาสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของ David Bowie ที่หลังจากสร้างชื่อเสียงไปแล้วจากอัลบั้มก่อนหน้า Bowie ไม่หยุดอยู่แค่นั้นแต่ยังสร้างคอนเซปต์ใหม่ที่ทำให้ทั่วโลกต้องตื่นเต้นอีกครั้งด้วยอัลบั้ม Aladdin Sane ในปี 1973

Bowie ทิ้งคอนเซปต์ตัวตนเดิมอย่าง Ziggy Stardust และเล่าเรื่องราวในแบบใหม่ ซึ่งสิ่งแฟนเพลงและคนทั่วไปให้ความสนใจในอัลบั้มนี้คือรูปถ่ายหน้าปกของเขา กับความล้ำไปอีกครั้งโดยการแต่งแต้มสายฟ้าฟาดสีสันสดใสลงบนใบหน้า และสายฟ้าดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในรุ่นหลัง ไปจนถึงมีส่วนสร้างสรรค์ผลงานให้กับโลกของแฟชั่น

Vans ไม่สามารถทิ้งเอกลักษณ์สำคัญอย่างสายฟ้าฟาดของ Bowie ได้แน่นอน ทำให้สายฟ้าดังกล่าวถูกแต่งแต้มอยู่บนรองเท้าคู่สุดท้ายของคอลเลกชัน ด้วยสายฟ้าสีแดงสดแซมด้วยสีฟ้าและสีดำตามแบบปกอัลบั้ม Aladdin Sane แต่งแต้มลงบนรองเท้าผ้าใบสีครีม ด้านหลังไม่ลืมที่จะสลักคำว่า David Bowie และประทับโลโก้ของ Vans สีแดง คงความคลาสสิกแต่ก็มีสีสันจัดจ้านตามแบบเจ้าพ่อแกลมร็อก

hypebeast

hypebeast

รองเท้าคอลเลกชันพิเศษจาก Vans เพื่อสดุดีแด่ศิลปินร็อกมากฝีมือ มีวางจำหน่ายที่เว็บไซต์ vans.com โดยมีราคาตั้งแต่ 65 ดอลลาร์ ไปจนถึง 80 ดอลลาร์ (2,100 – 2,600 บาท)

SOURCE