World

ใครดี ใครห่วย! รวบรวมสถิติสุดเดือดส่งท้ายฟุตบอลโลก 2018 ก่อนเจอกันใหม่อีก 4 ปีข้างหน้า

By: PERLE July 17, 2018

ฟุตบอลโลก 2018 มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติจบลงไปแล้ว UNLOCKMEN ขอแสดงความยินดีกับทีมตราไก่ฝรั่งเศสด้วยที่สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จหลังจากที่รอคอยมากว่า 20 ปี เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของพวกเขา และก่อนจะสิ้นสุดการนอนดึกและลาจากเทศกาลนี้ไป UNLOCKMEN ขอทิ้งท้ายอีกสักหนึ่งคอนเทนต์ด้วยการรวบรวมสถิติเก็บตกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นควันหลง ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียครั้งนี้มีอะไรให้น่าจดจำกันบ้าง

ยอดเยี่ยม

  •  Luka Modric คว้ารางวัล Golden Ball หรือนักเตะยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลกได้ตามคาดด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมและมีส่วนสำคัญในการพาทีมม้ามืดอย่างโครเอเชียมาถึงรอบชิงชนะเลิศ
  • ในนาทีนี้ไม่มีดาวรุ่งคนไหนจะร้อนแรงไปกว่า Kylian Mbappé กองหน้าวัย 19 ของทีมชาติฝรั่งเศสอีกแล้ว โดยเฉพาะในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่เขาทำให้ทั้งโลกตะลึงด้วยลีลาการเล่นอันจัดจ้านจนทำให้เขาคว้ารางวัล Best Young Player หรือดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลกไปครอง
  • ถึงครึ่งหนึ่งจะมาจากจุดโทษแต่ประตูก็คือประตู Harry Kane ซึ่งซัดไปทั้งหมด 6 ประตูจึงคว้ารางวัล Golden Boot หรือดาวซัลโวประจำฟุตบอลโลกไปครอง
  • จากการโชว์ซูเปอร์เซฟนับครั้งไม่ถ้วนโดยเฉพาะในเกมที่ทีมชาติเบลเยี่ยมพบกับทีมชาติบราซิลจึงทำให้ Thibaut Courtois คว้ารางวัล Golden Glove หรือผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมกลับบ้านไปปลอบใจ
  • ถึงแม้จะกลับบ้านไปตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างน่าผิดหวัง แต่ในฟุตบอลโลกครั้งนี้พวกเขาคือทีมที่เล่นฟุตบอลได้สุภาพบุรุษและขาวสะอาดที่สุดจนได้รางวัล Fair Play ไปครองสำหรับทีมกระทิงดุสเปน
  • Didier Deschamps กุนซือทีมชาติฝรั่งเศสคือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์โลกทั้งฐานะนักเตะและโค้ชต่อจาก Mário Zagallo ของทีมชาติบราซิลและ Franz Beckenbauer  ของทีมชาติเยอรมัน
ยอดแย่

  • ทีมที่น่าผิดหวังที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้คงหนีไม่พ้นทีมแชมป์เก่าอินทรีเหล็กเยอรมันที่โดนอาถรรพ์เล่นงานจนต้องกระเด็นกลับบ้านตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติ (นับเฉพาะฟุตบอลโลกครั้งที่มีรอบแบ่งกลุ่ม)
  • Olivier Giroud กองหน้าดีกรีแชมป์โลก แต่รู้หรือไม่ว่าตลอด 546 นาทีที่ได้ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เขายิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้งเดียว
  • คงจะสูญเสียความมั่นใจน่าดูสำหรับ David de Gea หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน แต่กลับเล่นผิดพลาดหลายครั้งจนมีส่วนให้ทีมชาติสเปนตกรอบเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
  • ดูเหมือนเวทีฟุตบอลโลกจะยังไม่ใช่เวทีของ Lionel Messi เพราะในครั้งนี้เขาและทีมชาติอาร์เจนตินาก็โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง โดยเขาเองก็ยิงได้เพียง 1 ประตู
ประวัติศาสตร์

  • นี่คือฟุตบอลโลกครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยี VAR มาช่วยในการตัดสิน ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี ไม่ทำให้เกมเสียอรรถรสอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกันแต่อย่างไร
  • เพราะเทคโนโลยีด้านบนจึงทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีลูกจุดโทษมากที่สุด โดยเกิดขึ้นถึง 29 ครั้ง
  • บอลโลกครั้งนี้มีการเสมอ 0-0 แค่นัดเดียวคือ ฝรั่งเศส กับ เดนมาร์ก ในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นรองแค่ปี 1954 ที่ไม่มีเลย
  • นี่คือฟุตบอลโลกครั้งที่มีการทำเข้าประตูตัวเองเยอะสุดตลอดกาลคือ 12 ลูก มากสุดก่อนหน้านี้คือแค่ 6 ลูกในปี 1998
  • ชัยชนะ 4-2 ของทีมชาติฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศส่งผลให้นัดชิงชนะเลิศนัดนี้เป็นนัดชิงชนะเลิศที่มีสกอร์มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 1958 ที่บราซิลถล่มสวีเดนไป 5-2

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ เป็นฟุตบอลโลกครั้งที่ถือว่าสนุกสมการรอคอยครั้งหนึ่งเลยทีเดียว ครบรสทุกอารมณ์ ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง แต่นี่แหละคือธรรมชาติของกีฬาฟุตบอล รักษาสุขภาพร่างกายไว้ให้ดีก่อนจะเจอกันใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า หวังว่าจะเป็นฟุตบอลโลกที่สนุกไม่แพ้ครั้งนี้ แล้วเจอกันกาตาร์ 2022

 

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line