Entertainment

ย้อนรอยวีรกรรมแสบซ่า ของป๋า Fred Durst แห่ง Limp Bizkit

By: unlockmen August 20, 2021

เรียกได้ว่าเป็น 1 ใน ร็อคสตาร์สายปั่นที่สร้างกระแสมาตั้งแต่ยุค 90s เลย สำหรับ Fred Durst ฟรอนท์แมนแห่งวง Limp Bizkit ที่ขยันสร้างความเกรียนมากกว่าขยันทำเพลง เพราะตลอดระยะเวลาอันยาวนานในวงการเพลง วง Limp Bizkit มีผลงานให้ชาว Nu Metal ฟังกันแค่ 5 อัลบั้ม แต่วีรกรรมความกวนนี่ยาวเป็นหางว่าวกันเลยทีเดียว

และเพื่อต้อนรับลุคใหม่ในลุค Daddy แบบโคตรจะป๋า วันนี้ UNLOCKMEN ขอย้อนกลับขุดวีรกรรมสุดห่ามสมัยยังเยาว์รุ่นของของ Fred Durst ว่าเคยป่วนกะโหลกสร้างความวายป่วงให้กับวงการ และความเกรียนรอบด้าน แล้วจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้สะกดคำว่า “ธรรมดา” ไม่เป็น

 

เคยแกงแฟนเพลงว่ากำลังจะเปิดตัวอัลบั้มใหม่

สำหรับแฟน Limp Bizkit น่าจะนึกไม่ออกว่าเพลงใหม่ล่าสุดของ Limp Bizkit มันหน้าตาแบบไหน เพราะอัลบั้มล่าสุด Gold Cobra อัลบั้มชุดที่ 5 วางแผงตั้งกะปี 2011 (ที่บอกว่า “วางแผง” เพราะช่วงนั้นเรายังฟังเพลงผ่านซีดีกันอยู่เลย ตอนนั้นสตรีมมิ่งคืออะไร ยังไม่รู้จัก) และเพราะคำวิจารณ์ในเชิงลบ แถมยอดขายยังย่ำแย่ ป๋า Fred Durst และพรรคพวกก็พากันหลบเลียแผลใจ ไม่ออกอัลบั้มอีกเลย แต่จู่ ๆ ในปี 2017 ป๋า Fred Durst ก็ได้ประกาศผ่าน Instagram ว่า Stampede Of The Disco Elephants อัลบั้มชุดที่ 6 พร้อมเปิดให้ฟังกันฟรี ๆ บนอินเตอร์เน็ทแล้ว แฟน ๆ ก็กระวนกระวายค้นหาอัลบั้มใหม่กันยกใหญ่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่มี นักข่าวเลยไปถามกันอีกรอบว่าอัลบั้มอยู่ไหน ป๋าก็ตอบแบบอ้อมแอ้มว่า “ก็บอกไปแล้วไงว่ามันอยู่ในอินเตอร์เน็ท ป๋าใส่ไปตั้งกะปีก่อนนู่น มันขึ้นอยู่กับว่าพวกนายแจ๋วพอจะหาเจอมันมั๊ย พวกนายรู้จักเกม Dig Dug ป่ะล่ะ มันเป็นเกมยุค 80s ที่โคตรแจ๋วเลยนะ นายต้องตั้งใจขุดมันแล้วจะเจอเอง” สรุป ไม่เคยมีใครได้ฟังอัลบั้มชุดนั้นสักคน แฟน ๆ น่าจะโดนป๋าแกงแล้วล่ะ

แต่อย่างไรก็ดี มีข่าววงในแจ้งมาว่าความจริงป๋าไม่ได้แกงหรอก แค่ไม่พอใจกับผลงานโดยรวมเลยยังไม่ออกอัลบั้มต่างหาก อย่างน้อยก็มีซิงเกิ้ลให้ฟังแก้คิดถึงมาแล้วถึง 4 เพลง และในคอนเสิร์ตล่าสุดตอนที่ปรากฏตัวในเทศกาลดนตรี Lollapalooza เมื่อเดือนที่แล้ว ที่มาในลุค Daddy สุดช็อค (แต่ทรงการร้องยังเจ๋งอยู่นา) ป๋าและวง ก็ปล่อยเพลงใหม่ที่ชื่อ “Dad Vibes” และเพลง “Turn It Up, Bitch!” ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าเรายังจะมีหวังกับอัลบั้มใหม่อยู่ แต่จะออกเมื่อไหร่…ไม่มีใครรู้จริง ๆ

เคยออกเดทกับ Britney Spears

ในปี 2003 น่าจะเป็นช่วงพีคสุดของป๋าเพราะได้ลงปกนิตยสารเยอะที่สุด แต่แทนที่จะลงปกนิตยสารดนตรี คุณพี่ดันไปลงพวกนิตยสารแนวซุบซิบกอสซิปเสียมากกว่า เพราะปาปารัซซี่แอบเห็น Fred Durst ออกเดทกับพ็อพสตาร์สาวที่ก็พีคไม่ต่างกันในตอนนั้นอย่าง Britney Spears

เหมือนจะดูเป็นภาพที่สวยงามใช่มั๊ย พ็อพสตาร์กับร็อคสตาร์ควงแขนหนุงหนิงกัน ที่ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก โดย Britney เคยให้สัมภาษณ์ถึงช่วงเวลานั้นกับนิตยสาร Glamour ว่า “เขาพูดว่า ‘ฉันคือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดสำหรับเขา’…แต่เขาก็จู่โจมเร็วไป เป็นชายคลั่งรักที่ดุดันจนเกินไป”

ขณะที่ Fred เองก็ตอบโต้ความสัมพันธ์ที่จบลงแบบไม่สวยเช่นกันว่า “ป๋าว่าตอนนั้นมันเป็นเรื่องต้องห้ามมากกว่า ที่คนต่างวงการจะมาคบกันได้ มองย้อนกลับไปป๋าว่ามันก็ไม่มีใครผิดถูกอะนะ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ป๋าก็ยังคอยซัพพอร์ต Britney อยู่เงียบ ๆ อยู่นะ”…โรแมนติกใช่ย่อย

 

เคยยื่นขอสัญชาติรัสเซีย

ไม่รู้ว่าถูกใจความโหดสัสรัสเซียหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ แต่เมื่อตอนปี 2015 Fred Durst เคยยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นพลเมืองรัสเซีย เพื่อไปใช้ชีวิตที่คาบสมุทรไครเมียและตั้งใจจะเปลี่ยนที่แห่งนี้ให้กลายเป็นเบเวอร์ลีย์ฮิลล์แห่งใหม่ โดยเขาจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินไปฟรี ๆ หากโอนสัญชาติมาเป็นชาวรัสเซีย มีเหรอใครจะไม่สน โดยป๋า Fred ยังกระทำการอวยด้วยการยกย่องเชิดชู Vladimir Putin ว่า “เป็นสุดยอดแห่งเอกบุรุษ ผู้ชัดเจนด้วยศีลธรรม และเป็นคนดีย์”

แต่ยูเครน ชาติที่มีกรณีพิพาทกับรัสเซีย กลับไม่โอเคด้วยกับการกระทำของ Fred เลยลงดาบด้วยการแบน Fred และวง Limp Bizkit เป็นเวลา 5 ปี เสียเลย

 

เคยกำกับหนังจนได้เข้าชิงรางวัล

เพราะบุคลิกและความเก๋ากวนของป๋า Fred ไม่แปลกเลยที่เขาจะได้รับการเชื้อเชิญให้ไปปรากฏตัวบนจอเงิน โดยเริ่มจากการไปเป็นดารารับเชิญในหนัง Zoolander (2001) ซึ่งได้ปรากฏตัวถึง …เอ่อ.. 3 วินาที ในหนัง

จนกระทั่งได้รับโอกาสได้มากำกับหนัง โดยเรื่องแรกที่เขากำกับก็คือ The Education of Charlie Banks (2007) หนังดราม่าที่อุตส่าห์ได้ Jesse Eisenberg พระเอกจากหนัง Zombieland มารับบทนำ แต่ก็เงียบเชียบจนไม่มีใครจำได้ แต่แล้วในที่สุดแสงสปอร์ตไลท์ก็สาดส่องหาเขาในหนังเรื่องที่ 4 ที่เขาได้กำกับนักแสดงในตำนานอย่าง John Travolta ในหนัง The Fanatic (2019) โดย Travolta รับบทเป็น FC ที่คลั่งไคล้ดาราจนความคลั่งไคล้เหลือไว้เพียงความคลั่งเมื่อเขาถูกกีดกันจากนักแสดงที่เขารัก ซึ่ง Fred ทุ่มใจกำกับโดยใช้ประสบการณ์ของตนเวลาเจอ FC แบบแปลก ๆแวะเวียนมาหาเขา และในความทุ่มเทนั้นเองทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลสูงสุดของวงการภาพยนตร์ นั่นก็คือรางวัลออส…เอ่อ ไม่ใช่ รางวัล Razzie Awards รางวัลสำหรับหนังห่วย ซึ่ง Travolta มักจะเยี่ยมเยียนเวทีนี้เสมอ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็เฮี้ยนจนได้เข้าชิงทั้งหนังยอดแย่ / นักแสดงนำชายยอดแย่ และ ผู้กำกับยอดแย่นั่นเอง

แต่ที่สุดแห่งงานมาสเตอร์พีซของเขานั้นกลับเป็นหนังสั้นที่ถ่ายเพียงโทรศัพท์ Nokia ของเขาเท่านั้น นั่นก็คือ SexTape หนังส่วนตัวที่ดันรั่วไหลในโลกอินเตอร์เน็ทเมื่อปี 2005 ที่เขาบรรจงแสดงอย่างเร่าร้อนกับนางแบบนั่นเอง แม้เขาจะพยายามลบและฟ้องเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิปเขาขนาดไหน แต่โลกอินเตอร์เน็ทอ่ะเนอะ ไม่มีทางที่จะลบมันได้หมดหรอก เพราะจนบัดนี้คุณก็สามารถหาดูได้ แม้ภาพและเสียงจะไม่ชัดเท่าไหร่ก็ตาม

เคยมีกรณีพิพาทกับวง Slipknot

แน่นอนว่าวงห่าม ๆ อย่าง Limp Bizkit มีหรือจะไม่มีเรื่องกับวงร็อควงไหน และที่เขามีเรื่องวิวาทะก็ดันเลือกสายโหดอย่าง กลุ่มร็อคหน้ากากผี Slipknot เสียด้วย

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Fred เรียกกลุ่มแฟนคลับวง Slipknot ว่า “ไอ้พวกแก๊งหมูตอนน่าขยะแขยง” (ไม่ดูพุงตัวเองเลยเนอะ) ร้อนถึง Corey Taylor แห่ง Slipknot ที่ด่าวงตัวเองไม่ว่า แต่แซะไปถึง FC นี่กูขอด่ามึงหน่อย ว่าแล้ว Corey ก็ด่า Fred ผ่านไมค์บนเวทีคอนเสิร์ตที่นิวยอร์คเมื่อปี 1999 ว่า

“Fred…มึงอาจจะมีแฟนคลับและเงินทองมากมายทั่วโลก แต่ถ้ามึงพูดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับวงพวกกูและแฟนคลับกู…กูจะฆ่ามึง!!!”

ไม่มีเสียงตอบรับจาก Fred ในกรณีพิพาทครั้งนี้ แต่ไม่โต้ตอบแบบนี้ ก็คงเดาง่าย ๆ ว่า “กูไม่น่าปากดีเลย”

เคยมีเรื่องกับ Eddie Van Halen จนถูกเอาปืนจ่อหัว

ไม่ใช่แค่รุ่นเดียวกันเท่านั้นที่ป๋า Fred เคยมีเรื่อง กับรุ่นใหญ่อย่างมือกีตาร์ระดับตำนานอย่าง Eddie Van Halen ก็เคยถูกรุ่นใหญ่เอาปืนจ่อหัวจนขู่จะเอาชีวิตมาแล้ว จากหนังสือ Eruption in the Canyon: 212 Days and Nights with the Genius of Eddie Van Halen เคยเล่าช่วงเวลาหนึ่งที่ Fred และวงเคยเชิญ Eddie มาปาร์ตี้เล่นคอนเสิร์ตที่บ้านพักย่านเบเวอร์รี่ ฮิลล์ และเหมือนวันนั้นจะพวกของ Fred จะเมามากจน Eddie ถึงกับอดรนทนไม่ไหว จนเขาบ่นว่า “เหมือนนักวิชาการอยู่ท่ามกลางเด็กอนุบาล…นักกีตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนนี้อยู่กับวงดนตรีที่แย่ที่สุดที่เคยมีมา”

และเช้าวันรุ่งขึ้น Eddie ขับรถทหารกลับมายังบ้านของ Fred และเคาะประตูเสียงดัง พอ Fred เปิดประตู Eddie ก็เอาปืนจ่อที่กบาล Fred พร้อมสบถรุนแรง “ไอ้ชาติหมา ไอ้หน้าหมี” ก่อนจะขับรถออกไป สร้างความมึนงงให้กับ Fred และเพื่อนในวงอย่างมากว่าพวกเขาทำผิดอะไร…ยังจะกล้าถาม

เคยจัดงาน Jazz Nights

ใครจะไปคิดว่าฟรอนท์แมนวงสุดห่าม ครั้งหนึ่ง จะเคยจัดงาน Jazz Nights ในแอล.เอ.

แต่มันก็เป็นไปแล้ว แถมงานครั้งนี้เขายังเป็นเจ้าภาพ ควักเงินทุนเพื่อสนับสนุนวงภาตใต้ชื่อ ‘Fred’z with a Z’ เสียด้วย ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นที่ Black Rabbit Rose คลับชื่อดังในตำนาน แม้เราจะไม่รู้ว่าผลตอบรับเป็นอย่างไรหลังจากงานนี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าป๋า Fred นั้นสนใจดนตรีที่หลากหลายมากกว่าที่เราคาดคิดจริง ๆ

เคยคลั่งไคล้รถสไตล์วินเทจ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนอาจไม่รู้ ท่ามกลางบุคลิกห่าม ๆ สุดกวนแบบเขานั้น ถ้าให้นึกถึง Instagram ส่วนตัวคงเต็มไปด้วยภาพโหด ๆ ตลก ๆ กวน ๆ แต่ที่ไหนได้ ในอัลบั้มรูปนั้นกลับเต็มไปด้วยรถโบราณเต็มไปหมด ใช่แล้วเขาโปรดปรานรถอเมริกันวินเทจ อย่าง Station Wagon เรียกได้ว่าใน Instagram ของเขานั้นส่วนใหญ่มีแต่ภาพถ่ายรถวินเทจเหล่านี้

แต่ไม่รู้ว่าเขาเบื่อหรือยังไงก็ไม่ทราบได้ เพราะถ้าตอนนี้คุณแวะเข้าไปใน Instagram ส่วนตัวของเขาจะพบว่ามันไม่มีรูปรถเหล่านี้แล้ว นอกจากรูปโปรไฟล์ของเขาที่เป็นรูปรถอยู่…หวังว่าเขาจะไม่เอารถเหล่านั้นไปขายแล้วนะ

เคยถือศีลอดลดน้ำหนักด้วยการซัดแต่น้ำผลไม้

อันนี้ไม่ถือเป็นการป่วน ตรงกันข้ามถือเป็นการโชว์ความมุ่งมั่นเสียด้วยซ้ำ เพราะในช่วงปี 2012 ป๋ารู้สึกตัวเองตุ้ยนุ้ยเป็นเด็กสมบูรณ์อย่างมาก ป๋าแกก็มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการงดเหล้าเข้าฟิตเนส แถมยังจริงจังขนาดลงบันทึกเรื่องสุขภาพของตนผ่าน Tumblr ในชื่อ Fred60 เลข 60 คือจำนวนวันของการลดแป้งลดไขมัน เพื่อมุ่งมั่นกับการทานน้ำผลไว้อย่างจริงจัง

โดยวันแรกป๋าได้โพสต์ภาพเครื่องคั้นน้ำผลไม้ และขึ้นแคปชั่นตัวเป้ง ๆ ว่า “นี่แหละเพื่อนซี้คนใหม่ของโผมมม” แต่ไม่นาน ผ่านไปแค่ 3 วัน ป๋าก็ดันละเมิดกฎของตัวเองด้วยการยัด M&M เข้าท้องซะงั้น ในที่สุดเพื่อนซี้ของป๋าก็อันตรธานหายไป ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมาโดยป๋าบอกว่า “ไม่เห็นแม่งจะลดน้ำหนักได้เลย ป๋ามีความมุ่งมั่น แต่ไอ้การคั้นน้ำผลไม้มันชวนให้ท้อจริง ๆ ว่ะ” แต่ถึงอย่างไรก็ดี แม้ใน 60 วันป๋าจะทำไม่สำเร็จ แต่ในระยะยาวป๋าแกก็ลดน้ำหนักได้ถึง 80 ปอนด์เลยนะ ก็ถือเป็นเรื่องดี ๆ ที่ในที่สุดแกก็ทำมันได้สำเร็จ

และนี่คือหลากหลายความเกรียนของ Fred Durst ที่แสบไม่แพ้บทเพลงของเขาจริง ๆ แม้ความห่ามของเขาจะทำให้หลายคนส่ายหัวด้วยความเซ็ง แต่ก็ทำให้เราได้รู้ว่าการอยู่ไม่สุขของเขานั้นก็สร้างสีสันให้กับวงการเพลงเสมอมา และการเปลี่ยนลุคของเขาในครั้งนี้ หวังว่าจะมีเซอร์ไพรซ์ในอนาคตกับอัลบั้มใหม่ของเขาในอีกไม่ช้าไม่นานนะ

Source: 1

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line