“หนังเรื่องไหนถูกพูดถึงมากที่สุด ?” เปิดลิสต์รายชื่อ 5 ภาพยนตร์ที่ผู้คนเฝ้ารอดูในปี 2020

เมื่อเข้าสู่ปี 2020 วงการภาพยนตร์ก็ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้มีหนังภาคต่อเข้าหลายเรื่อง มีหนังภาคแยกจากจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมจากผู้คน มีแอนิเมชันน่าจับตามองจากค่ายดัง และภาพยนตร์ดัดแปลงจากนวนิยายหรือหนังรีเมคนำของเก่ากลับมาเล่าใหม่ 

The Hollywood Reporter สำนักข่าวรายงานข่าวสารของวงการฮอลลีวูดก่อตั้งมานานกว่า 8 ทศวรรษ จึงไม่พลาดธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำมายาวนาน โดยให้ผู้คนเข้ามาร่วมโหวตเพื่อจัดอันดับภาพยนตร์ที่เรารอคอยและอยากดูมากที่สุดในปี 2020 

UNLOCKMEN ได้เลือกภาพยนตร์ที่ถูกโหวต 5 อันดับแรกมาให้ทุกท่านได้ชมกันพร้อมกับวิเคราะห์เพิ่มเติมว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้คนส่วนใหญ่อยากดู และหนังทั้ง 5 เรื่องจะใช่เรื่องเดียวกันกับที่คุณอยากดูหรือไม่ 

อันดับ 5 BLACK WIDOW 

หนังจากตัวละครของนาตาชา โรมานอฟ (Natasha Romanoff) ผู้ยอมสละชีวิตตัวเองในสงครามใหญ่อย่าง Avengers: End Game (2019) เธอกำลังจะมีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองสักที โดยเรื่องราวภายใน Black Widow เล่าถึงช่วงที่เธอหลบหนีจากการตามจับของรัฐบาล ถ้านับเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์ของการฉายภาพยนตร์ในจักรวาล Marvel หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของนาตาชาช่วง Captain America: Civil War (2016) – Avengers: Infinity War (2018) 

แม้กัปตันอเมริกาจะบอกว่าทีมอเวนเจอร์สคือครอบครัวเดียวของเธอ แต่จริง ๆ แล้วนาตาชายังมีกลุ่มเพื่อนและครอบครัวอื่นอยู่ด้วยเหมือนกัน หนังเรื่องนี้จะพาเราไปเห็นระบบ Red Room ของโซเวียตที่สร้างนักรบหญิงสุดแข็งแกร่งอย่าง Black Widow ทำให้ทุกคนรู้ว่านาตาชาไม่ใช่แม่หม้ายดำคนเดียวในโลก แต่ยังมีสายลับหญิงมากความสามารถอยู่อีกหลายคน ถึงกระแสฟีดแบ็กก่อนดูหลายคนยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่อยากคาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะกลัวว่าจะเป็นการเล่าย้อนหลังชีวิตฮีโร่แบบเดิม ๆ รวมทั้งนักแสดงหลักอย่าง Scarlett Johansson เองได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า 

“ไม่อยากให้หนังเรื่องนี้เล่าถึงต้นกำเนิดแบบเดิม ๆ และไม่อยากให้มันเป็นหนังสายลับจ๋า แต่อยากจะลงลึกถึงความรู้สึกของตัวละคร ไม่ใช่อยากจะสร้างหนังแค่เพื่อจะเรียกเงินจากคนดูที่รักตัวละครนี้เหมือนกับเธอ” 

ความผูกพันนานนับ 10 ปี ของผู้ชมกับตัวละครนาตาชา โรมานอฟ สามารถนำภาพยนตร์เรื่อง Black Widow เข้าฉายในวันที่ 29 เมษายน จนไต่มาสู่อันดับ 5 ของผลโหวตในครั้งนี้ได้สำเร็จ 

อันดับ 4 DUNE 

ภาพยนตร์รีบูตถือเป็นสิ่งที่มีมาให้เห็นกันเป็นประจำทุกปี เรื่อง Dune ในเวอร์ชัน 2020 ก็เช่นกัน โดย Dune ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมที่ผู้คนยกย่องว่านี่คือหนังสือสะท้อนสังคม เสียดสีการเมืองและศาสนาได้อย่างกลมกล่อม จากความคิดที่กลั่นออกมาเป็นหนังสือของ Frank Herbert ตีพิมพ์เมื่อปี 1965 กับยอดขายกว่า 12 ล้านเล่ม และถูกนำไปสร้างเป็นหนังครั้งแรกในปี 1984 

Dune เล่าถึงโลกแห่งอนาคต เมื่อต้นไม้หมดไปจนมองทางไหนก็เจอแต่ทะเลทราย สัตว์ดุร้ายสุดอันตราย แถมประชาชนยังต้องเจอกับสงครามจากความแตกแยกทางความคิด แต่ละกลุ่มต้องสู่เพื่อแย่งชิงทรัพยากรอันน้อยนิด พร้อมกับพูดถึงมุมมองการเมืองและการตั้งคำถามถึงศาสนา 

แม้ยอดขายหนังสือจะถล่มทลายแต่รายได้ในภาพยนตร์ฉบับปี 1984 กลับไม่ประสบความสำเร็จทั้งแง่รายได้และคำวิจารณ์ Dune (1984) เพราะใช้ทุนสร้างถึง 40 ล้านดอลลาร์แต่กลับทำเงินได้เพียง 29.8 ล้านเท่านั้น แถมระหว่างการถ่ายทำยังต้องเจอกับปัญหานักแสดงไม่ได้อ่านหนังสือนิยาย บางคนแสดงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าตัวละครของตัวเองต้องการอะไร การสื่อสารผิดพลาดระหว่างผู้กำกับกับนักแสดง รวมถึงการเปรียบเทียบกับหนังประเภทเดียวกันที่ตอนนั้นมีคู่แข่งสุดแกร่งอย่าง Star Wars 

เมื่อเวลาผ่านไป Dune จะกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันใหม่ปี 2020 ด้วยผลงานกำกับของ Denis Villeneuve จากเรื่อง Blade Runner 2049 (2017) อำนวยการสร้างโดย Warner Bros. ร่วมกับ Legendary Entertainment เล่าผ่านตัวละครหลักชื่อว่า Paul Atreides เด็กหนุ่มหัวไวที่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของตัวเอง โดย Dune 2020 มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2020 ด้วยตัวเลขน่าผิดหวังกับความล้มเหลวครั้งก่อน จึงอาจเป็นเหตุผลที่ส่งให้ผู้คนเฝ้ารอดูว่าเวอร์ชันนี้จะปังหรือจะแป้ก ก็คงต้องมาลุ้นกันครับ

อันดับ 3 NO TIME TO DIE 

เดินทางมาถึงปลายทางของเจมส์ บอนด์ คนล่าสุดกันอีกครั้งกับ No Time to Die ภาพยนตร์แอ็กชันสายลับยอดมือปราบ หากนับกันจริง ๆ ภาคนี้จะเป็นตอนที่ 25 ของหนังตระกูล 007 แล้ว เรื่องราวของภาคนี้จะเล่าถึงช่วงเวลาหลังเสร็จสิ้นภารกิจจากภาค Spectre (2015) บอนด์ตัดสินใจเกษียณตัวเองหันไปใช้ชีวิตสบาย ๆ กับ Madeleine Swann ที่ประเทศจาไมกา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องกลับเข้าสู่วังวนสายลับอีกครั้งเมื่อเพื่อนเก่าจาก CIA มาขอให้เขาช่วยเหลือนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไป 

หลังจาก Spectre (2015) ออกฉายและกลายเป็นเจมส์ บอนด์ที่น่าผิดหวังในแง่ของคำวิจารณ์ No Time to Die ถือเป็นตัวตัดสินครั้งสำคัญของ Daniel Craig เพื่อปิดตำนานบอนด์ของตัวเองให้สมบูรณ์ แถมยังได้นักแสดงรางวัลออสการ์เมื่อปี 2019 อย่าง Rami Malek มารับบทเป็น Safin วายร้ายของภาค และกำกับภาพยนตร์โดย Cary Joji Fukunaga จึงไม่แปลกใจเลยว่าใคร ๆ ต่างก็เฝ้ารอดูหนังเรื่องนี้ 

อันดับ 2 TENET

อีกหนึ่งภาพยนตร์สายลับจากผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Christopher Nolan จากผลงานโด่งดังหลายเรื่องเช่น The Dark Knight (2008), Inception (2010), Interstellar (2014) และ Dunkirk (2017) ก่อนหน้านี้ในปี 2012 โนแลนเคยเข้าไปพูดคุยกับทีมโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ตระกูลเจมส์ บอนด์ ว่าเขาอยากจะกำกับหนังไตรภาคนี้ แต่สุดท้ายไอเดียของโนแลนค่อนข้างจะไม่ตรงใจกับสิ่งที่บอนด์เป็นเท่าไหร่นัก ทำให้ในตอนนี้ผู้กำกับชื่อดังหันมาสร้างภาพยนตร์สายลับเป็นของตัวเองออกมาในปี 2020 

ปัจจุบันยังไม่มีใครรู้เรื่องราวแน่ชัดของ Tenet ว่าจะเล่าถึงอะไร แต่สิ่งที่มีอยู่ในหนังอย่างแน่นอนคือ สายลับข้ามชาติ การควบคุมเวลา ผ่านการถ่ายทำมากถึง 7 ประเทศ นำแสดงโดย John David Washington (ลูกชายของ Denzel Washington) ประกบคู่กับนักแสดงชายที่พิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลาอย่าง Robert Pattinson 

ถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX 70 mm ความกว้างตระการตาแบบเดียวกับเรื่อง Dunkirk (2017) พร้อมกับทุนสร้างสูงถึง 225 ล้านดอลลาร์ และอำนวยการสร้างโดย Warner Bros. ที่มั่นใจในฝีมือของโนแลนมากจริง ๆ ถึงกล้าให้ทุนสร้างหนังสายลับมากขนาดนี้ ด้วยชื่อของโนแลน ทุนสร้างมหาศาล รวมถึงเหล่านักแสดงมากฝีมือ ทั้งหมดทำให้ Tenet ที่จะเข้าฉายในวันที่ 16 กรกฎาคม กลายเป็นภาพยนตร์อันดับ 2 ที่คนอยากดูมากสุดของปี 2020 

อันดับ 1 WONDER WOMAN 1984

เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่คำวิจารณ์และรายได้เป็นอย่างมากกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่หญิงค่าย DC อย่าง Wonder Woman (2017) ที่กู้หน้ากลับมาให้ทางฝั่ง DC ได้บ้างหลังจากที่ฮีโร่ของค่ายนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังฮีโร่ค่าย Marvel อยู่บ่อย ๆ 

ครั้งนี้ไดอานา (Diana Prince) กลับมาอีกครั้งในปี 1984 เดิมทีเธอเติบโตอย่างไร้เดียงสาในเกาะที่มีแค่สตรี เมื่อต้องย้ายเธอเข้ามาสู่โลกใบใหม่กับสังคมชายเป็นใหญ่ ไดอานาก็ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ เต็มไปด้วยพลัง แถมยังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ในภาคนี้เธอต้องต่อสู้กับวายร้ายถึงสองคนทั้งแมกซ์ ลอร์ด (Max Lord) มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลของยุค 80 และ บาบาร์ร่า มิเนอร์ว่า (Barbara Minerva) เพื่อนร่วมงานของไดอานาที่จะกลายเป็นสตรีตัวร้ายผู้ได้รับพลังของเทพเจ้าแห่งชีต้าร์ (Cheetah) จากเผ่าลึกลับ 

หลังจากตัวอย่างแรกของภาพยนตร์ถูกปล่อยออกมาก็สร้างความสับสนให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยเป็นอย่างมากว่า ทำไมตัวละครจากภาคแรกที่น่าจะโดนระเบิดตายไปแล้วอย่างสตีฟ เทรเวอร์ (Steve Trevor) ถึงกลับมามีชีวิตอยู่ในยุค 80 ที่เวลาผ่านไปแล้วกว่า 66 ปี แถมเขายังไม่แก่ลงเท่าไรอีกด้วย นอกจากนี้ Wonder Woman 1984 ยังคงได้ทีมนักแสดงชุดเดิมกับผู้กำกับสาว Patty Jenkins มานั่งแท่นควบคุมการดำเนินเรื่องทั้งหมดอย่างเคย และมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 4 มิถุนายนนี้

ครบทั้ง 5 อันดับแล้ว มีเรื่องไหนให้ชาว UNLOCKMEN เตรียมเสียเงินค่าตั๋วกันบ้าง ?

SOURCE: 1 / 2 / 3