Life

“Jonathan Gottschall” ศาสตราจารย์เลือดคลั่ง ว่าด้วยงานวิจัยทำไมผู้ชายถึงชอบความรุนแรง

By: HYENA March 14, 2017

เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และยากที่ปฎิเสธได้ว่าผู้ชายอย่างเรานั้น ลึกๆ แล้วชอบความรุนแรง!! ผู้หญิงหลายต่อหลายคน ทนนั่งอยู่กับเราแทบจะไม่ได้ทุกครั้งที่เราเปิดดูมวยสากล, MMA, มวยไทย หรือแม้กระทั่งคลิป Street Fight ต่างๆ ที่มีให้ดูมากมายใน Youtube  แต่ในทางกลับกัน เรากับรู้สึกได้ถึงความมันส์ รู้สึกได้ถึงอะดรีนาลีนพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย หรือว่าผู้ชายอย่างเราทุกคน เป็นพวกซาดิสม์ ชอบความรุนแรง!?

วันนี้เรามีคำตอบจากศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ  Jonathan Gottschall  ซึ่งบอกได้เลยว่า ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นถึงระดับศาสตราจารย์ แต่ความบ้าคลั่งของเค้าก็เหมือนกับผู้ชายอย่างเราทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น เค้าเคยมีประสบการณ์จริงในศึก MMA มาแล้วด้วย ส่วนคำตอบจะเป็นยังไงนั้น ไปอ่านกันเลย

20150414jonathangottschall-3

“Men are drawn to fighting as an urge to celebrate what’s best in human nature.” — Jonathan Gottschall

Jonathan Gottshcall  เป็นหนึ่งในคนที่น่าจับตามอง และมีความโดดเด่นที่สุดในที่ที่เค้าอยู่ นั่นก็คือ  Washington & Jefferson College  ผลการวิจัยของเค้า ได้นำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์ และความคิดในเชิงศิลปะที่ออกนอกกรอบ มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว มีสื่อชั้นแนวหน้ามากมายนำงานวิจัยของศาสตราจารย์คนนี้ไปเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็น  The New York Time, Scientific American, The New Yorker, The Atlantic, Chronicle of Higher Education, Nature และ NPR

photo_68937_wide_large

นอกจากงานวิจัยแล้ว เค้ายังเป็นนักเขียนอีกด้วย  Gottshcall  เขียนหนังสือออกมาทั้งหมด 7 เล่ม หนึ่งในนั้นก็คือ  The Storytelling Animal  ซึ่งถูกคัดเลือกโดย  New York Times Editor’s Choice  ให้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายใน  LA Times Book Award  เลยทีเดียว และเมื่อ  Gottshcall  อายุได้  39  ปี เค้าก็มีข้อสงสัยอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวขณะที่เค้าดูการแข่งมวยลูกกรง เค้าถามตัวเองว่า คนพวกนั้นทำมันเพื่ออะไร และเพราะอะไรคนเราถึงชอบมันกันนักนะ?

สุดท้ายแล้ว คำตอบก็ออกมาเป็นผลงานหนังสือเล่มล่าสุดที่เค้าเขียนขึ้นมีชื่อว่า  “The Professor in the Cage: Why Men Fight and Why We Like to Watch.”

71bK6F-ix+L

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากที่ครั้งนึง  Jonathan Gottshcall  กำลังเดินข้ามถนนเพื่อกลับบ้าน ในวันที่น่าเบื่อ เค้าก็เหลือบไปเห็นป้ายเกี่ยวกับการชกมวยในกรงเหล็ก หลังจากนั้น  Gottshcall  ก็เริ่มสนใจมันอย่างจริงจัง และหาเหตุผลมาโดยตลอด จนพบกับความจริงที่ว่า การต่อสู้ของผู้ชาย มันถูกปลูกฝังอยู่ในจิตสำนึกของผู้ชายทุกคนมาอย่างยาวนาน ย้อนไปไกลตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน

เราจะสามารถเห็นได้ว่า ในทุกยุคสมัย เด็กที่แข็งแรงจะเป็นฝ่ายแกล้งเด็กที่อ่อนแอกว่าเสมอ คนที่ต่อสู้เก่ง มีความแข็งแกร่ง จะไม่ถูกแกล้ง นั่นคือสัญชาตญาณบริสุทธิ์ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจน จนต่อมาความรุนแรงเหมือนจะค่อยๆ เลือนหายไปเรื่อย ๆ  เนื่องจากกฏเกณฑ์ทางสังคมเข้ามาตีกรอบครอบเอาไว้ ซึ่งกรอบที่ว่านี้เริ่มต้นตั้งแต่สถานศึกษา ที่จะทำโทษเด็กที่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาท ต่อมาก็กลายเป็นสถานีตำรวจ สิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดทอนโอกาสแสดงออกถึงความดิบของมนุษย์ให้น้อยที่สุดนั่นเอง

25da8c745386fbcae454241805fb45cf

สำนักงานสาธารณสุขของแคนาดา รายงานว่า  20%  ของเด็กชายชาวแคนาดา พบว่าพฤติกรรมและการตัดสินใจอยากจะต่อสู้ ลดน้อยลงตามอายุที่โตขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะโทษที่ถูกกำหนดไว้ทางสังคมทวีความรุนแรงขึ้นตามอายุและความรุนแรง เช่นทำร้ายร่างกายด้วยมือเปล่า กับทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ ความหนักของโทษที่ได้รับนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว ซึ่งคงไม่มีใครอยากจะเสียเวลา กว่าจะจบเรื่องลงด้วยการฟ้องร้อง และกฏหมาย ไม่ใช่การตัดสินกันด้วยกระสุนปืนเพื่อสะสางความในใจแบบในยุค  Cowboy  อีกต่อไป

จากอดีตมายังปัจจุบัน วัฒนธรรมหลายอย่างได้มีการเปลี่ยนแปลงไป วิวัฒนาการของมนุษย์ก็เช่นกัน เพศชายเคยต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาหาร อาณาเขต สิ่งของ และเพศชายทุกคน มักจะเฝ้าดูการต่อสู้อย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้รู้ว่า ใครเป็นนักสู้ที่ดีที่สุด และเป็นผู้นำของพวกเค้า ส่วนปัจจุบันต่างคนต่างโฟกัสไปที่การแข่งขันด้านผลงาน ด้านฐานะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สัญชาตญาณดิบส่วนลึกที่หลบซ่อนอยู่ใน  DNA  และจิตใจของเพศชายจะหมดไปด้วย มันยังคงมีอยู่อย่างเข้มข้น เก็บอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ

Xi4Tf6A

Jonathan Gottshcall  ยังตั้งคำถามขึ้นมาอีกด้วยว่า จริงหรือ? ใจของทุกคนคิดตรงกับคำพูดที่ว่า เราเกลียดความรุนแรง? ทั้ง ๆ ที่มนุษย์ก็ยังคงเสพความบันเทิงซึ่งต้องมีฉากรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นกีฬาชกมวย, ภาพยนต์  Action  ที่มีฉากต่อสู้, วีดีโอเกม ที่ยังคงดึงดูดความสนใจพวกเราได้ผลทุกครั้ง

ครั้งนึง   Jonathan Gottshcall  ได้เข้าร่วมการแข่งขัน  Amateur MMA  ซึ่งจัดขึ้นที่  Hockey Arena  ใน  Johnstown  เค้าใช้เวลาทั้งหมดฟิตหุ่น ฝึกเชิงมวย และสร้างกล้ามเนื้อจนเห็นถึงความแข็งแกร่งได้อย่างชัดเจน มันเป็นช่วงเวลาที่เค้ารู้สึกว่า เค้ามีความสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา โดยคู่ต่อสู้ของเขาในวันนั้นมีชื่อว่า  Justin McCloskey  เป็นเด็กหนุ่มวัยเพียง 24 ปี เท่านั้น ส่วนรายละเอียดอย่างอื่น เค้าไม่รู้อะไรเลย และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่เคยมีความโกรธแค้นกันมาก่อน

jonathan_gottschall_030

Gottshcall  เล่าให้ฟังต่อว่า “เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น ผมไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกต่อไป ผมตรงดิ่ง ปรี่เข้าไปที่ไอ้เด็กหนุ่มนั่น จัดการอัดมันซะน่วม บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่เท่ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาทั้งชีวิต ความรุนแรงที่รู้สึก ณ ตอนนั้นราวกับว่า นี่คือการต่อสู้ที่ต้องแลกด้วยชีวิต แต่เพียงชั่วพริบตา คู่ต่อสู้ก็พลิกกลับมาอัดผมจนน่วม จนในที่สุดก็ต้องตบพื้นขอยอมแพ้ไป เป็นการแข่งขันที่ใช้เวลาเพียงแค่  47  วินาทีเท่านั้น”

หลังจากแข่งขันเสร็จ เชื่อหรือไม่ว่า มันให้ความรู้สึกที่สะใจในแบบที่อธิบายไม่ถูก จริง ๆ แล้วตัวเราเองก็พอจะเข้าใจอารมณ์ที่  Gottshcall  ต้องการจะสื่อสาร เอาเป็นว่าใครเคยผ่านการฟาดปากมาแล้วบ้าง อาจจะพอนึกความรู้สึกนั้นออกได้ไม่ยาก แต่บอกเลยว่าใครไม่เคยผ่านการต่อสู้มาก่อน ให้อธิบายยังไง ก็ไม่มีทางเข้าถึงความรู้สึกนี้อย่างแน่นอน มันมีความเหมือนภาพยนตร์  Fight Club  อย่างมาก ถ้าบอกว่า  Fight Club  สร้างจากเรื่องจริง หรือมีอยู่จริง เราก็จะไม่แปลกใจเลยแม้แต่นิดเดียว

โดยสรุปแล้ว ความรุนแรงที่อยู่ใน  DNA  ของผู้ชาย มันไม่เคยไปไหน มันยังคงถูกเก็บในล็อคอย่างดีในตัวพวกเราทุกคน ซึ่งล็อคที่หนาแน่นนั้น ก็คือกฎเกณฑ์ทางสังคม ภาระหน้าที่ ชื่อเสียง ทำให้ผู้ชายที่แม้จะโมโหอยากจะฟาดปากกับคู่อริมากแค่ไหน ก็ต้องทนปล่อยให้มันผ่านไป ข้อดีคือการไม่เจ็บตัว ชีวิตมีความสุข สังคมอยู่กันอย่างเรียบร้อย เป็นอีกวิวัฒนาการที่ทำให้โลกในปัจจุบันนี้น่าอยู่มากขึ้นนั่นเอง

 

 

SOURCE

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line