World

NIHON STORIES: “ยากูซ่า สตรี และรอยสัก” เรื่องราวของหญิงสาวในพื้นที่สีดำของมาเฟีย

By: TOIISAN July 26, 2019

หลายคนกล่าวถึงความเลวทรามของโลกอาชญากรรมว่าเป็นสิ่งที่ต่ำตมไร้เกียรติ แต่บางคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกันและคิดว่าอาชญากรรมที่ฉาวโฉ่ก็ซ่อนสิ่งสวยงามที่โรแมนติกเอาไว้ด้วยเช่นกัน รวมถึงโลกสีดำของประเทศญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยมาเฟียที่เรียกว่า ยากูซ่า 

ในครั้งนี้ UNLOCKMEN จะพูดถึงวงโคจรที่ไม่อาจก้าวออกมาได้ของหญิงสาวในโลกสีดำที่เหล่าผู้ชายไม่เคยเห็นหรือเคยนึกถึงมาก่อน โดยเล่าผ่านมุมมองและภาพถ่ายของ Chloe Jafe ช่างภาพสาวผู้สร้างคอลเลกชันรูปถ่ายชื่อว่า “命預けます” หรือ “I Give You My Life” 

ตามคำนิยามที่เธอเขียน ผู้หญิงไม่สามารถเป็นยากูซ่าได้ ดังนั้นโลกของมาเฟียญี่ปุ่นจึงเต็มไปด้วยผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แม้กระนั้นบทบาทหน้าที่ที่ไม่ชัดเจนของเหล่าสตรีในโลกสีดำกลับเต็มไปด้วยความน่าสนใจ 

บางครั้งผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งที่เป็นสาวธรรมดา ๆ ไม่ได้เป็นแฟนของยากูซ่าแต่ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า “Grey Area” หรือพื้นที่สีเทา จำพวกบาร์ ร้านเหล้า โรงแรมที่ต้อนรับกลุ่มยากูซ่า ก็จะได้คลุกคลีและพบเจอกับโลกสีดำอยู่บ่อย ๆ และยังมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ก้าวผ่านเขตสีเทาไปยังสีดำอย่างเป็นภรรยาของยากูซ่า และสำหรับบางแก๊ง ผู้หญิงเก่งก็ถือเป็นนายหรือสุดยอดปรมาจารย์ที่ชายผู้มีรอยสักให้การยกย่องถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ถูกเรียกว่ายากูซ่าอย่างเป็นทางการก็ตาม

Chloé Jafé

เรื่องราวของพวกเธอหลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบ ทำให้ Chloe Jafe ตระหนักว่าหากต้องการรูปถ่ายของพวกผู้หญิงก็จะต้องพบกับหัวหน้าของยากูซ่า เพราะในตามหลักแล้วผู้หญิงจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เธอเลือกไม่ได้ว่าเธออยากถูกถ่ายภาพไหม และคนที่ตัดสินใจทุกอย่างคือผู้เป็นสามี 

แต่มันไม่ง่ายนักที่จะเข้าพบกับบอสใหญ่ ความยากนี้ทำให้เธอเกือบถอดใจเตรียมล้มคอลเลกชันภาพที่อยากทำ แต่แล้ววันหนึ่งในงานเทศกาลมีผู้ชายเดินเข้ามาหาและชวนเธอดื่ม ซึ่งชายคนนั้นคือคนที่ทำให้โปรเจกต์ภาพของเธอขยับเข้าสู่ความสำเร็จอีกขั้น เพราะเขาเป็นทายาทที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูลยากูซ่าที่ทรงอิทธิพล 

ชายคนดังกล่าวแนะนำให้ Chloe Jafe รู้จักกับภรรยาของเขา การพบกันในครั้งนี้ทำให้ช่างภาพสาวเริ่มเข้าสู่วงสังคมยากูซ่า เธอพบว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับคนลำดับสูงของกลุ่มจะมีบอดี้การ์ดหญิงส่วนตัว และเธอก็ยังได้พูดคุยกับบอดี้การ์ดสาวนามว่า Yumi อีกด้วย 

ข้อเท็จจริงอีกสิ่งคือภรรยาของหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่เธอรู้จักจะไม่มีอำนาจต่อแก๊ง ต่างจากภรรยาของกลุ่มมาเฟียตะวันออกที่มีบทบาทดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมายไม่ต่างจากสามี เพราะผู้หญิงเหล่านี้เป็นทั้งผู้ช่วย ดูแลด้านจิตวิทยา ไปจนถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ 

Chloé Jafé

เมื่อเอ่ยถึงยากูซ่าก็คงหนีไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า Irezumi หรือรอยสักขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วทั้งตัว การสักตามธรรมเนียมประเพณีที่ทำต่อกันมาอย่างยาวนาน การอดทนนั่งให้ช่างสักปักเข็มลงบนผิวกายนานติดกันหลายชั่วโมงถือเป็นเครื่องมือพิสูจน์ถึงความอดทนว่าคุณจะรับมือกับความเจ็บปวดได้มากน้อยเพียงใด 

แม้ว่ารอยสักจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ฝีมือ เปี่ยมไปด้วยศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงทางสังคม รอยสักไม่ใช่แฟชั่น ไม่ใช่สิ่งที่ดี และรอยสักคือสิ่งที่จะผลักคนที่มีมันออกนอกกรอบของสังคม เพราะกลุ่มที่มีรอยสักในญี่ปุ่นมักเป็นคนไม่ดี ทำให้คนที่มีมันอยู่บนร่างกายทำอะไรไม่ได้มากแม้แต่การเข้าห้องอาบน้ำสาธารณะ

ถึงจะถูกผลักออกจากกรอบของสังคมทั่วไป แต่ Yuko ลูกสาวตระกูลหนึ่งของยากูซ่าให้มุมมองที่แตกต่างว่า เหตุผลที่เธอมีรอยสักเป็นเพราะต้องการกีดกันคนบางกลุ่มไม่ให้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ รวมถึงเหตุผลที่ว่าต้องการใช้ชีวิตอิสระอย่างผู้ชาย ทั้งยังมองว่ารอยสักที่อยู่บนแผ่นหลังของตัวเองเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและยังช่วยปกป้องเธออยู่เสมอ

Chloé Jafé

สิ่งที่เห็นผ่านภาพถ่ายของ Chloe Jafe คงเป็นแค่ส่วนหนึ่งจากเรื่องราวอีกมากมายของเหล่าสตรีที่อยู่ในโลกใต้ดินของประเทศญี่ปุ่น แต่ถึงแม้จะเป็นแค่เศษเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เราเห็นถึงแนวคิด ค่านิยม ทัศนคติรวมถึงมุมมองของยากูซ่าและสตรีที่คอยอยู่เคียงข้างได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่เคยมีประสบการณ์ตรงเมื่อครั้งไปอยู่หรือไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นก็นำมาเล่าและแบ่งปันเรื่องราวกันได้นะครับ

 

All images courtesy of the artist. © Chloe Jafe 

SOURCE: 1 / 2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line