Life

บริหารเวลางานและการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ด้วยแนวคิด Work/Life Integration

By: unlockmen April 15, 2021

การระบาดของ COVID-19 คงทำให้หลายคนเกิดความทุกข์ใจกับหลายเรื่อง รวมถึง เรื่องงาน บางคนอาจต้องทำงานหนักขึ้น มีเวลาส่วนตัวน้อยลง เพราะพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจาก pandemic ดังนั้น UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการบริหารชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพที่ชื่อว่า Work/Life Integration ให้ทุกคนรู้จัก และบอกเลยว่า มันจะช่วยให้ชีวิตของคนทำงานทุกคนดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน !!


WHAT IS WORK/LIFE INTEGRATION

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราคงได้ยินกันบ่อยเรื่อง Work/Life Balance หรือ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นสกิลที่ว่ากันว่าสำคัญต่อคนทำงาน เพราะถ้าเราสามารถบริหารเวลาได้ดี เราก็จะใช้ชีวิตได้ราบรื่น

แต่ Work/Life Balance มีปัญหาตรงที่ว่า มันทำให้เรื่อง งาน กับ ชีวิต ถูกแยกออกเป็น 2 ขั้ว ไม่สามารถหลอมหลวมกันได้ เหมือนกับว่า ถ้าเราต้องใช้เวลาทำงาน เราต้องเสียเวลาในการใช้ชีวิตส่วนตัว ในทางตรงข้าม ถ้าเราใช้เวลาส่วนตัว เราต้องเสียเวลาในการทำงาน ซึ่งอีกแนวคิดหนึ่งบอกเราว่า เราไม่จำเป็นต้องแยก 2 เรื่องนี้ออกจากกันก็ได้ กล่าว คือ เราสามารถทำงานและใช้ชีวิตไปพร้อมกันได้

แนวคิดนี้เรียกว่า Work/Life Integration ซึ่งเป็นสกิลหลอมหลวมทุกส่วนของชีวิตเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การใช้ชีวิตส่วนตัว การดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตกับครอบครัว หรือ การทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยตัวอย่างของ Work/Life Integration ก็เช่น การนำสัตว์เลี้ยงหรือเด็กมาดูแลในที่ทำงาน การออกกำลังกายในที่ทำงานแทนฟิตเนส หรือ การทำงานจากบ้านและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัว เป็นต้น

ซึ่งข้อดีของ Work/Life Integration ที่เห็นได้ชัด คือ มันสามารถทำได้จริงมากกว่า Work/Life Balance เพราะบางคนต้องทำงานวันละหลายชั่วโมง การแบ่งเวลางานและใช้ชีวิตออกจากกันอย่างสมดุลจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก นอกจากนี้มันยังทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่น และบริหารจัดการเวลาของได้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อเราไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาที่เราต้องใช้ชีวิต หรือ ทำงาน เราก็จะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตน้อยลง


HOW TO CREATE WORK/LIFE INTEGRATION

เมื่อ Work/Life Integration ทำให้เราบริหารเวลาชีวิตได้ดีขึ้น และมีประโยชน์ต่อ well-being ของเรา ดังนั้น เราเลยอยากมาแนะนำเทคนิคในการสร้าง Work/Life Integration ขั้นเซียน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยเทคนิคที่เราอยากให้ทุกคนจำไว้มีทั้งหมด 5 อย่าง ดังนี้

เช็คก่อนว่ามีชั่วโมงทำงานแบบยืดหยุ่นหรือไม่

ในยุคนี้ที่ COVID-19 กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนทั่วโลก หลายองค์กรหรือบริษัทน่าจะนำนโยบายการทำงานแบบ work from home (WFH) มาใช้แล้ว ซึ่งข้อดีของมัน คือ นอกจากจะลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสแล้ว ยังทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น และสร้าง Work/Life Integration ได้ง่ายขึ้นด้วย แต่สำหรับใครที่ยังต้องไปทำงานที่ออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานอยู่ อาจลองขอเวลาทำงานแบบยืดหยุ่น (flexible working hours) เพื่อให้เราสามารถบริหารเวลาได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้นค่อยมาวางแผนชีวิตกัน

ดูก่อนว่าต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน

แต่ละคนมีชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ วิถีชีวิต ครอบครัว และอาชีพ จึงไม่สามารถบริหารเวลาชีวิตด้วยสูตรเดียวกันได้ และต้องกำหนดแผนชีวิตที่เข้ากับชีวิตของแต่ละคนเอง โดยในแผนชีวิตควรเป็นการเรียงลำดับสิ่งที่เราควรทำเป็นอันดับแรกไปจนถึงอันดับสุดท้ายของแต่ละวัน เหมือนเป็น To-Do list ที่ไกด์ชีวิตประจำวันของเรา

ทำตารางชีวิต

ต่อมาเมื่อเรารู้แล้วว่าแแต่ละวันควรทำอะไรบ้าง เราก็ต้องมาทำตารางชีวิต เพื่อกำหนดว่าเราจะทำอะไรในเวลาไหนบ้าง ซึ่งประโยชน์ของการทำตารางเวลา คือ มันจะช่วยให้เราควบคุมเวลาในการใช้ชีวิตได้ และทำให้เราเกิดข้อผูกมัดกับกิจกรรมที่เราจะทำในแต่ละวันด้วย โดยในการทำตารางชีวิตสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องให้ความสำคัญกับคนรอบตัวเราด้วย ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว คนรัก หรือ เพือนฝูง

สร้างแรงจูงใจในการทำงานตลอดเวลา

บางครั้งการ multitasking ก็ส่งผลเสียต่อการทำงานเหมือนกัน ดังนั้นเวลาจะสร้าง Work/Life Integration เราจะต้องโฟกัสที่เรื่องงานเป็นหลัก พยายามทำงานอย่างมี productivity และรู้จักกระตุ้นตัวเองเพื่อไม่ให้หมดไฟ เช่น การกำหนดเดดไลน์ในการทำงาน และรางวัลที่จะได้เมื่อตัวเองสามารถทำงานเสร็จทันกำหนด

และสุดท้ายอย่าตั้งมาตรฐานสูง

แม้ Work/Life Integration จะช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตและทำงานไปด้วยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่บางครั้งเราก็อาจจะคาดหวังกับการสร้าง Work/Life Integration มากเกินไป จนเป็นการกดดันเกินเองได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ แต่วันนั้นงานเราล้นมือ เราจึงเกิดอาการเครียดได้ เพราะงานทำให้เราให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตได้น้อย เป็นต้น ดังนั้น อย่าลืมเช็คดูว่า เรากำลังมีความสุขในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่หรือเปล่า ? ถ้าไม่แล้วเราควรจะปรับตารางชีวิตของตัวเองได้อย่างไรบ้าง? แบบนี้จะทำให้เรามีความสุขมากกว่า

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการสร้าง Work/Life Integration แบบง่าย ๆ ที่เราอยากให้ทุกคนรู้จักกัน เราหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปปรับใช้ และมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าเดิมหลาย ๆ เท่า


SOURCES: 1 / 2 / 3

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line