จุดเริ่มต้นแห่งหายนะ “CORRUPTED BLOOD” ไวรัสระบาดครั้งใหญ่ในโลก WORLD OF WARCRAFT

World of Warcraft เกมแนว MMORPG ออนไลน์ชื่อดังสุดคลาสสิกขึ้นหิ้งของ Blizzard Entertainment เกมในตำนานที่มียอดผู้เล่นสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกที่ผ่านกาลเวลามายาวนาน และยังคงเปิดให้เล่นจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าชาว UNLOCKMEN หลายคนต้องเคยเข้าไปผจญภัยในโลกสงครามแฟนตาซีใบนี้มาแล้วอย่างแน่นอน

World of Warcraft เปิดให้เล่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2004 และได้กลายเป็นเกมที่มีผู้เล่นทั่วโลกรวมกันสองล้านคนในเวลานั้น แต่ภายหลังจากเปิดให้บริการไปเพียงหนึ่งปี ได้เกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นฝันร้ายของเหล่าเกมเมอร์ และเป็นเรื่องราวสุดแปลกระดับตำนานในวงการเกม นั้นคือ “Corrupted Blood” เหตุการณ์ไวรัสระบาดที่ทำลายทุกชีวิตในโลก Warcraft

หายนะครั้งนี้เริ่มต้นในวันที่ 13 กันยายน ปี 2005 ในขณะนั้นเกมได้มีอีเวนต์พิเศษให้ผู้เล่นทำในโซน Zul’Gurub เป็นภารกิจที่จะให้เหล่าผู้เล่นร่วมพลังช่วยกันสู้กับ Raid Boss ที่มีชื่อว่า Hakkar ซึ่งเป็นบอสสุดโหดที่มาพร้อมกับสกิลใหม่ที่มีชื่อว่า “Corrupted Blood” ที่จะทำการโจมตีผู้เล่นโดยตรง สร้างความเสียหายโดยการลดค่า HP (Health Point) ของผู้เล่น เพื่อนำไปเพิ่มเป็นค่าพลังชีวิตให้บอส หรือผู้ใช้สกิล

โดยในช่วงนั้นผู้เล่นโดยทั่วไปที่เข้าสู่ดันเจี้ยนจะมีพลังชีวิตอยู่ที่ 4000 – 5000 HP เมื่อโดนสกิล Corrupted Blood เล่นงาน จะทำให้ค่าพลังชีวิตของผู้เล่นลดลงได้มากถึง 875 – 1125 HP โดยในทุก ๆ วินาทีจะลดลงประมาณ 100 – 200 HP และถึงแม้จะไม่โดนโจมตีโดยตรง ก็สามารถติดเชื้อไวรัสได้หากอยู่ใกล้ผู้เล่นที่โดนสกิลมาก่อน ซึ่งเดิมทีสกิลนี้ถูกสร้างมาเพื่อเพิ่มสีสัน และความเร้าใจในการเล่น ควรจะมีผลเฉพาะในดันเจี้ยนนี้เท่านั้น

แต่เรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อสกิลสุดอันตรายนี้สามารถหลุดออกไปสู่ดันเจี้ยนอื่นได้ เพราะสกิล Corrupted Blood นอกจากจะแพร่เชื้อให้ตัวละครหลักของผู้เล่นแล้ว ยังสามารถติดสัตว์เลี้ยงที่เสกออกมาได้อีกด้วย

ในอาชีพ Warlocks และ Hunters จะมีสกิลที่สามารถเก็บสัตว์เลี้ยงไว้กับตัวได้ ทำให้ Corrupted Blood อาศัยสัตว์เลี้ยงของผู้เล่นเป็นตัวพาหะ หากผู้เล่นคนไหนเสกสัตว์เลี้ยงออกมา ก็จะทำให้เชื้อไวรัสมรณะติดตามมาด้วย ตามพื้นที่เมืองหลักๆ ที่มีผู้เล่นอาศัยอยู่หนาแน่นทั้งมือใหม่เลเวลต่ำ และมือเทพเลเวลสูงปะปนกันไป การมาของเชื้อไวรัสจึงส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

มีผู้เล่นหลายคนรับมือสกิลนี้ไม่ไหว จนค่า HP หมดล้มตายเป็นจำนวนมากภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังรับเชื้อ ทำให้เกิดภาพชวนสยองในตำนาน เพราะเวลาผู้เล่นตาย ตัวละครจะไปเกิดใหม่ยังจุดเซฟ แต่ร่างเดิมจะกลายเป็นโครงกระดูกในจุดที่ตาย ทำให้มีกองกระดูกมหาศาลเกลื่อนไปทั่วบริเวณที่พบการติดเชื้อ โดยเหล่าเกมเมอร์เรียกเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า “Corrupted Blood Incident”

นอกจากผู้เล่นกับสัตว์เลี้ยงแล้ว NPC ในเกมก็สามารถติดเชื้อไวรัสได้เช่นกัน แต่จะไม่ทำให้เหล่า NPC ผู้โชคร้ายต้องตาย แต่จะกลายเป็นตัวพาหะนำเชื้อไปสู่ผู้เล่นแทน ซึ่งไม่มีวิธีกำจัดพิษออกได้ ทำให้ในขณะนั้นมีผู้เล่นหลายคนได้ตั้งข้อถกเถียงว่า เหตุการณ์โรคระบาดที่เกิดคือความผิดพลาด หรือเป็นความตั้งใจของ Blizzard

ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทีมงานฝ่ายติดต่อประสานงานของ Blizzard ต้องรับโทรศัพท์จากลูกค้าจำนวนมากที่ไม่พอใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน ในระหว่างการแพร่ระบาดทำให้การเล่นเกมแบบปกติถูกหยุดชะงัก เพราะเกมเกิดปัญหาต่างๆ มากมายจนเล่นไม่ได้ ถึงขั้นที่ว่าแค่เข้าไปเดินเล่นก็อาจตายได้ เพราะถึงแม้จะเล่นแบบหลีกเลี่ยงการเจอผู้เล่นด้วยกัน แต่เวลาต้องเข้าใกล้ NPC ก็ต้องติดเชื้ออยู่ดี ผู้เล่นจึงอพยพหนีตายไปยังพื้นที่ปลอดภัย ทำให้พื้นที่ตามเมืองชนบท และเมืองใหญ่ถูกปล่อยทิ้งร้าง เหลือเพียงซากกระดูกตัวละครของผู้เล่นที่ตายแล้ว

สำหรับผู้เล่นบางคนที่มีสกิลเพิ่มค่า HP (Healing) ได้อาสาทำงานเป็นคุณหมอช่วยรักษาผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส และมีการช่วยกันแจ้งข่าวสารการระบาด เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าผู้เล่นที่ไม่รู้เรื่องเดินเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะมีผู้เล่นสายเกรียนหลายคนที่นึกสนุก ทำการบุกตะลุยเข้าไปรับเชื้อไวรัส แล้วนำออกมาแพร่ในดันเจี้ยนอื่นๆ จนสถานการณ์ลุกลามไปในวงกว้างเกินการควบคุม เหล่าผู้เล่นจึงทำได้เพียงแค่เล่นต่อแบบอดทน หรือไม่ก็เลิกเล่นไปเลยจนกว่าทีมงานจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้

ในวันที่ 8 ตุลาคม 2005 คือจุดจบของไวรัส Corrupted Blood เนื่องจากทาง Blizzard ตัดสินใจล้างข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ออกทั้งหมด เพื่อกำจัดเชื้อไวรัส และได้ทำการปล่อย Patch เสริมสำหรับป้องกัน โดยทำให้สกิล Corrupted Blood ไม่สามารถกระจายพิษไปสู่สัตว์เลี้ยงได้

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ World of Warcraft หากเรามองย้อนกลับมาในโลกความจริง ในยามที่เกิด Corrupted Blood กับ COVID-19 ในชีวิตจริงนั้นแถบไม่แตกต่างกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดที่ติดกันง่ายในวงกว้าง การมีกลุ่มคนผู้หวังดีช่วยกันคอยดูแล และร่วมรณรงค์ไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายมากขึ้น

แต่ก็มีกลุ่มคนขั้วตรงข้ามที่นึกถึงตัวองเป็นหลัก ไม่สนใจกฏส่วนรวม จนกลายเป็นพาหะให้ไวรัสแพร่กระจาย สุดท้ายแล้วคนประเภทนี้น่ากลัวกว่าเชื้อไวรัสหลายเท่า เพราะถ้าหากไม่สามารถยับยั้งโรคระบาดที่เกิดขึ้นได้ โลกใบนี้อาจต้องได้รับการชำระล้างใหม่อีกครั้ง เหมือนอย่างที่ Blizzard ทำการล้างเซิร์ฟเวอร์โลกของ Warcraft

Written by: JSTK