Life

YOU’RE TOO OLD FOR THIS! 5 สิ่งที่ผู้ชายอายุ 30+ ถึงเวลาต้องลดความระห่ำเหล่านี้ลงบ้าง

By: PERLE May 21, 2018

วันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน รู้ตัวอีกทีอายุของคุณก็ขึ้นต้นด้วยเลข 3 เสียแล้ว และสังขารมันก็เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ฝืนกันไม่ได้เสียด้วย ถึงแม้ว่าใจคุณจะยังสู้อยู่ แต่ร่างกายอาจจะฟื้นฟูไม่ไหว วันนี้ UNLOCKMEN จึงมาพูดถึง 7 สิ่ง ที่สมัยวัยรุ่นทำได้สบาย ๆ แต่พออายุได้ 30+ อาจต้องพิจารณาลดลงบ้าง เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีกว่า แถมยังช่วยลดโอกาสความผิดพลาดจากหน้าที่การงานอย่างไม่จำเป็นด้วย ป้องกันให้เราไม่ต้องมาย้อนคิดว่า ‘ไม่น่าเลยกู’ ส่วนจะมีอะไรกันบ้างติดตามกันได้เลย

ไม่น่าปาร์ตี้รัวคืนชนคืนยาวเป็นอาทิตย์เลยกู

ช่วงที่คุณยังเป็นวัยรุ่น ยิ่งเป็นช่วงอยู่มหาลัย การปาร์ตี้ติดต่อกัน 2 วันนี่สบายมาก อย่าว่าแต่ 2 วันเลย ติดต่อกันทั้งอาทิตย์ก็ยังไหว เพราะร่างกายมันยังเครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย แต่เมื่อคุณอายุทะลุ 30+ ไปแล้ว การออกไปปาร์ตี้หนัก ๆ หลายคืนติดต่อกัน เราจะรู้สึกได้เลยว่ามันช่างใช้พลังงานเยอะเสียเหลือเกิน ตื่นขึ้นมาก็ปวดหัวสุด ๆ กว่าจะฟื้นได้บางทีเวลาผ่านไปเป็นวัน ความซวยคือถ้ามันเป็นวันที่เช้าถัดไปมีประชุมสำคัญ หรือมีงานใหญ่รออยู่ คงได้แต่นั่งโทษตัวเองว่า ‘ไม่น่าเลยกู’  ต่อให้คุณอยากออกไปปาร์ตี้ต่ออีกคืน แต่ร่างกายคุณจะสั่งเองว่า ‘พอก่อนเถอะ’

แต่สายปาร์ตี้วัยดึกคนไหนอดใจไม่ไหวจริง ๆ ทาง UNLOCKMEN ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนจากการปาร์ตี้ในคลับที่เต้นกันสุดเหวี่ยง เป็นปาร์ตี้ในบาร์เงียบ ๆ กับเพื่อนสนิทไม่กี่คน จิบเครื่องดื่มไปคุยไป แบบนี้น่าจะปาร์ตี้ติดต่อกันหลายวันได้โดยไม่ทรมานร่างกายนะ ลองนำไปใช้กันดู

 

ไม่น่า Beer Bong เลยกู

Beer Bong กิจกรรมยอดนิยมในวงเหล้า นอกจากจะเป็นการโชว์ความคอแข็งของคุณให้คนอื่นเห็นแล้ว เวลาดื่มหมดขวดได้ในทีเดียวมันช่างสะใจเสียเหลือเกิน แน่นอนว่าเรารวมถึงชาวกรอกเหล้า 7 วิ 10 วิด้วย แต่นั่นมันเรื่องในอดีตที่ทำแล้วโคตรมันส์สมัยวัยรุ่น เพราะในความเป็นจริงเมื่อคุณอายุ 30 แล้วต้องดื่มเบียร์ทีเดียวทั้งขวดที่ไหลผ่านทางกรวยโดยมีสายยางยัดปากคุณอยู่ หรือสายโหดท่าไหนก็ตาม กรณีที่แย่ที่สุดคือคุณจะอ้วกและร่วงลงไปกองตรงนั้นเลย หรืออย่างดีถ้าคุณอดทนขึ้นมาหน่อยอาจจะผ่านคืนนั้นมาได้ แต่ไม่พ้นต้องตื่นมารับกรรมในวันรุ่งขึ้น หัวคุณจะปวดเหมือนมีใครมาบีบไว้ยังไงอย่างนั้นแหละ

เพราะฉะนั้นเราแนะนำให้ลดลงดีกว่า การเป็นคนใจถึงพึ่งได้ในวงเหล้า นอกจากเสี่ยงต่อสุขภาพของตัวเอง ทำให้คนอื่นเที่ยวไม่สนุกแล้ว ยังเสี่ยงต่ออันตรายจากมือเท้าผู้ชายในผับรอบด้าน ถ้าเกิดไปสร้างวีรกรรมอะไรขึ้นมา อายุ 30+ ยิ่งต้องดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ ไม่เดือนร้อนคนดื่น เมาไม่ขับ ไม่กระทบต่อหน้าที่การงานต่างหากล่ะที่เท่ระเบิด

 

ไม่น่าเติม (ยาเสพติด) เลยกู

ข้อนี้ไม่ใช่แค่วัย 30 ปีเท่านั้นนะ แต่รวมถึงทุกช่วงอายุนั่นแหละที่ไม่ควรยุ่งกับยาเสพติด เรื่องกฎหมายมันเหมือนกันทั้งก่อนและหลัง 30 อยู่แล้วล่ะ แต่ในด้านสุขภาพ ถ้าคุณยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ผลเสียที่เกิดขึ้นมันใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล เพราะร่างกายคุณยังแข็งแรงอยู่ ฤทธิ์ของยาเสพติดอาจไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายคุณมากเท่าไรนัก และในเรื่องของการงานคุณก็ยังไม่มีอะไรให้รับผิดชอบมากมาย

แต่เมื่อคุณอายุ 30+ แล้ว โอกาสพบเจอมันก็เพิ่มมากขึ้น เงินก็มี บางทีเพื่อนตัวดีก็ถามว่าเอามั้ย? ยิ่งทำให้เราต้องหักห้ามใจกันมากขึ้น  การเผลอไปใช้หรือครอบครองยาเสพติดแค่เพียงครั้งเดียว ผลเสียที่ตามมามันมีมากมายเกินจะจินตนาการได้ อย่างเช่นพกกัญชาไปเที่ยวต่างจังหวัด โอกาสเจอด่านตรวจค้นและจบเกมมันก็มีมาก แล้วคนเรายิ่งมีอะไรจะเสียเยอะ ยิ่งกลัว ยิ่งมีพิรุธ ไม่สบายใจซะเปล่า ๆ รวมถึงผลเสียด้านสุขภาพ และการงานที่จะตามมาเหมือนโดมิโนเลยทีเดียว

 

ไม่น่าซัดแป้งซัดไขมันเป็นประจำเลยกู

ตอนวัยรุ่นพวกเราคงสงสัยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงมีพุง เพราะเราก็กินแป้งกินไขมันจนอิ่มก่อนนอนกันเป็นประจำก็ไม่เห็นจะอ้วนอะไร พึงระลึกไว้เสมอว่าระบบเผาผลาญของคุณไม่เหมือนสมัยวัยรุ่นแล้วนะ คุณอาจจะลำพองใจว่าเป็นคนที่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน แต่เชื่อเถอะว่าการกินแป้งหรือไขมันจำนวนมาก ๆ  โดยไม่ได้ออกกำลังกายเผาผลาญสิ่งที่กินเข้าไปตอนอายุเกิน 30 ไปแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดี ไม่ใช่แค่เรื่องความอ้วน แต่ยังรวมถึงไขมัน คอเลสเตอรอล ปัญหาการไหลเวียนของเลือด โรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตัน และอีกมากมายสารพัดโรคที่ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย

ดังนั้นเวลาคุณหิวมาก ๆ ลองเปลี่ยนจากพิซซ่าถาดใหญ่ตอนก่อนนอน เป็นสลัดผักชามโตกับอกไก่จะดีมั้ย ถึงจะไม่อร่อยฟินเท่าเดิม แต่เชื่อเถอะว่าดีต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่าแน่นอน

 

พึ่งพาพ่อแม่ แทนที่จะดูแลพวกท่าน

ถ้าคุณอายุ 30+ มันคือเวลาที่ต้องตอบแทนพวกท่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะมากจะน้อยไม่สำคัญ ขอแค่ได้แบ่งเบาภาระอะไรบางอย่างถือว่าโอเค แต่สิ่งที่ต้องหยุดทำ เพราะมันจะทำให้คุณดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ขาดความเป็นผู้นำ คือการยังต้องหันไปพึ่งพาพ่อแม่อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งที่น่าจะเป็นเวลาพักผ่อนของพวกท่านแล้ว

คำนวณคล่าว ๆ จากคนอายุ 30 คุณพ่อแม่น่าจะอยู่ราว ๆ 60 ปี ดังนั้นถ้าใครอายุ 30+ แต่ยังหันไปขอเงินพ่อแม่ทุกครั้งเพื่อมีบิลค่าใช้จ่าย หรือเพื่อซื้อของที่อยากได้ อันนี้ถือว่าอยู่ในข่ายอันตราย เพราะคงยากที่จะดูแลภรรยาและครอบครัวได้ คงยากที่ผู้หญิงจะกล้าฝากชีวิตให้เราดูแล ซึ่งรวมถึงการทำความสะอาดบ้าน การซักเสื้อผ้าด้วยตัวเอง เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่เราควรทำด้วยตัวเองตั้งแต่วันนี้ (ถ้าใครยังให้พวกท่านทำอยู่)  ความจริงเรื่องนี้คุณควรจะทำเองตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วด้วยซ้ำ มันคือหนึ่งในขั้นตอนวิวัฒนาการของการเป็นผู้ใหญ่ จำไว้ว่าถ้าคุณอายุ 30 แล้วยังให้พ่อแม่ซักเสื้อผ้า ซักกางเกงในให้อยู่ แปลว่าคุณคือเด็กไม่รู้จักโตนะ

คนเราโตขึ้นทุกวัน ไม่มีใครเป็นเด็กไปตลอดกาลหรอก บางครั้งมันอาจจะใจหายสักหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงและพยายามปรับชีวิตประจำวันให้ตรงกับวัยของตัวเองจะดีกว่า

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line