Ashton Kutcher เห็นการแสดงนิ่งๆ แต่ชีวิตจริงที่ไม่ธรรมดา

หากพูดถึงชื่อ Ashton Kutcher หลายคนอาจจะคิดถึงแต่ในผู้ชายภาพลบคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผลงานการแสดงที่ไม่ได้มีสักชิ้นที่เข้าใกล้คำว่า Masterpiece หรือจะเป็นข่าวที่เคยนอกใจอดีตภรรยาที่แก่กว่าเกือบ 10 ปี อย่าง Demi Moore จนต้องหย่าร้าง ทำให้หลายสื่อ รวมถึงประชาชนอเมริกันล้วนเทใจโหวตให้เขาเป็น 1 ใน 20 Celebrity ที่น่ารังเกียจมากที่สุดจากนิตยสาร Star Magazine

ซึ่งนั่นก็เป็นภาพจำเก่าๆ ของหนุ่มนักแสดงหน้าหล่อคนนี้ที่ทุกคนชินตา แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ชาญฉลาด และประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐ เรียกว่างานด้านนี้ของเขาประสบความสำเร็จมากกว่าการแสดงเสียอีก

ก่อนอื่นเลยเราขอเกริ่นถึงประวัติของ Ashton Kutcher กันสักนิดก่อน เขาเป็นนักแสดงที่เข้าวงการตั้งแต่อายุ 20 ปี จากบท Michael Kelso จากซิทคอมเรื่อง That 70s Show จากเรื่องนี้เองทำให้เขาได้รับการจับตามองอยากมากในฐานะดาราหนุ่มหน้าหล่อที่มีอารมณ์ขัน และอาจก้าวมาเป็น Jim Carrey คนต่อไป แหลังจากนั้นงานแสดงก็ถาโถมเข้ามาหาเขาอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นหนังเบาสมองที่รายได้ถล่ม Box Office อย่าง Dude, Where’s My Car ทำให้เขาขึ้นแท่นไปเป็นพระเอกหนังแนวเบาสมองอย่างเต็มตัวจากนั้นก็มีหนังต่อมาอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Just Married, My Boss’s Daugther ก็ล้วนเป็นหนังทำรายได้อีกเช่นกัน แต่ในแง่ของเสียงวิจารณ์กลับบอกว่าเขาเป็นเพียงนักแสดงดาดๆ แสดงได้เพียงอารมณ์เดียว แต่โชคดีที่เกิดมาหล่อ

ระหว่างนั้นเหมือนส้มหล่น  Ashton  ได้รับบทที่ว่ากันว่าดีที่สุดในชีวิตกับ  Butterfly Effect  ทำให้คนเริ่มยอมรับในตัว Ashton มากขึ้น แต่สุดท้ายก็วนกลับไปเล่นหนังแนว  Romantic Comedy  เหมือนเดิมอีกหลายเรื่อง จนมาถึงหนังกึ่งชีวะประวัติของ Steve Jobs ที่หลายสำนัก และคนดูตามจับตามองมาก เพราะลุคที่ดูคล้ายกับ  Jobs  บวกกับ  Trailer  ที่เรียกกระแสได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายก็สอบตกอีกเช่นเคย เรียกว่าเป็นดาราที่มีงานแสดงอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีจุดพีคที่น่าสนใจในอาชีพสายนี้มากนัก​ หลายสำนักข่าวจึงฟันธงว่า  Ashton Kutcher  เป็นได้เพียงนักแสดงเกรด C ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ในทางกลับกัน Ashton Kutcher เป็นคนที่หลงใหลในเรื่องของ Technology อย่างมาก โดยเขาเป็นดาราคนแรกๆ ที่ปลุกกระแส Twitter และทำให้คนดังทั่วโลกหันมาใช้ เพราะเขาเป็นคนแรกของโลกที่มียอด Followers สูงถึง 1 ล้านคน  ดูเหมือน  Ashton  จะค้นพบสิ่งที่ตัวเองหลงใหลและเชี่ยวชาญ นั่นคือด้าน  Technology   เมื่อบวกกับนิสัยที่ชื่นชอบการลงทุนอย่างมากอยู่แล้ว ในปี 2010 เขาจึงได้ร่วมกับกลุ่มนักลงทุน Startup ชื่อว่า A-Grade Investment เพื่อเป็นกองทุนลงเงินให้กับงาน Starup ดีๆ ที่ขาดปัจจัยเงินหล่อเลี้ยง

และเนื่องจาก  Ashton  เป็นกูรูด้านเทคโนโลยี เขาจึงเลือกลงทุนอย่างชาญฉลาดกับ  Skype, Foursquare  และ  Airbnb   ซึ่งล้วนทำเงินมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ในการลงทุนที่เข้าขั้น “พรสวรรค์”  ของ  Ashton Kutcher  จนกระทั่งผลงานไปเข้าตา  Lenovo  ให้มานั่งแท่น Product Engineer และยังเป็นเป็น Creative Director ให้กับบริษัท Ooma ที่เป็นกลุ่มคนที่นำเสนอไอเดียการตลาดแบบ Viral Video และ Voice Over Internet Protocol กลุ่มแรกๆ อีกด้วย

ปัจจุบัน  Ashton  ก็ยังคงเป็นคนที่แสวงหาการลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง ผลงานล่าสุดไม่ว่าจะเป็น Uber  หรือจะเป็น Meerkat  แอพวีดิโอถ่ายทอดสดสำหรับคนที่ใช้ Twitter  และล่าสุดเพิ่งลงทุนไปกับ Grow คลัง Digital Magazine แห่งใหม่จากกลุ่มเงินทุน Acorns ซึ่งก็เป็นของ Ashton อีกเช่นกัน

สำหรับหลักในการลงทุนที่ทำให้​ Ashton Kutcher ประสบความสำเร็จนั้น ใช้หลักการง่ายๆ คือ เขายอมสละเวลาส่วนตัวในการใช้ชีวิตสนุกสุดเหวี่ยงอย่างที่ดาราหรือคนมีเงินมักจะทำ เอาเวลาเหล่านั้นมาทำงาน ศึกษา เรียนรู้ผู้คน พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด ความต้องการ สิ่งเหล่านี้คือความท้าทายที่นักลงทุนทั่วไปมักมองข้าม นักลงทุนมักจะมองธุรกิจที่ตัวเงินกำไรเพียงอย่างเดียว แต่  Ashton  จะเลือกลงทุนกับสิ่งที่สามารถทำให้ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งเปลี่ยนไปได้ แล้วสิ่งนั้นก็นำเงินกลับมาหาเขาเอง

เขาบอกต่ออีกว่า บางทีการที่เราได้แลกเปลี่ยนคุยกับผู้คนที่เป็น Innovator เจ๋งๆ  เขาไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายอะไรเลย แค่กาแฟไม่กี่แก้วบวกกับความจริงใจ คุณก็จะสามารถมีความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมกับเจ้าของโปรเจค และเข้าไปร่วมลงทุนได้อย่างง่ายดาย และหลักการที่เขาใช้ในการลงทุนอีกอย่างก็คือ ต้องรู้จักตัวเองเสียก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่เรารัก และเชี่ยวชาญ วิธีการคือให้ดูว่าเราทำอะไรเมื่อมีเวลาว่าง นั้นหละคือสิ่งที่ชอบ และเหมาะกับตัวคุณที่สุด การทำอะไรที่เรารัก มันจะออกมาดีเสมอ พอเรารู้ดังนี้แล้วก็เดินหน้ามองหาลู่ทางที่จะสามารถลงทุนมองหากำไรได้

ทุกอย่างในโลกมีช่องทางทำเงินเสมอ เพียงแต่คุณต้องเป็นคนช่างสงสัย และช่างค้นหา ถ้าคุณทำธุรกิจร้านขายของ แต่คุณมีปัญหาในการจัด Stock ไม่สามารถนำของใหม่ๆ มาลงได้ คุณต้องคิดแล้วว่าวิธีไหนจะช่วยแก้ปัญหานี้ให้หมดไป? ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้ คนอื่นก็น่าจะมีเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเกิดมีใครสามารถแก้ปัญหานี้ ได้แต่ขาดแรงสนับสนุน เราก็ควรจะลงทุนกับมัน

สุดท้าย Ashton ได้ให้ข้อคิดถึงการลงทุนว่า การลงทุนมีความเสี่ยงแน่นอน เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนเสียก่อน แต่สุดท้ายมันก็เหมือนโยนเหรียญหัวก้อย ถ้าคุณเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองแล้ว มันอาจจะประสบความสำเร็จ หรือไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นชีวิตที่เราเลือกได้เอง เราจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองในอนาคต นักรบที่เก่งล้วนเคยผ่านบาดแผลจากสนามรบมาแล้วทั้งนั้น

และนี่ก็เป็นเรื่องราวอีกด้านของ Ashton Kutcher ในมุมของนักลงทุนที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก แม้ว่าผลงานด้านการแสดงอาจจะไม่ติดตาเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเรื่องวิสัยทัศน์ในการลงทุน เราต้องยกนิ้วโป้งให้ผู้ชายคนนี้จริงๆ

Source , Source 2 , Source 3