ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ “Conor McGregor VS Floyd Mayweather” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2017 นี้ ?

ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วย หรือไม่ เกี่ยวกับการที่นักสู้ทั้ง 2 คน นั่นก็คือ แชมป์มวยสากลเจ้าของสถิติชนะรวด 49 ไฟท์ ชาว American อย่าง”The Money” Floyd Mayweather Jr. vs Conor McGragor “The Notorious” เจ้าของเข็มขัดแชมป์ 2 พิกัดน้ำหนักคนแรกของ UFC ที่แฟนมวยลูกกรง MMA รู้จักเป็นอย่างดี

โดยในครั้งก่อน UNLOCKMEN เคยนำเสนอเรื่องราว Conor McGragor ท้า Floy Mayweather ขึ้นเวทีมวยสากล พร้อมเงินเดิมพัน $100 ล้านเหรียญ กันไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ต่างฝ่ายก็ต่างดึงเช็งกันมาตลอด จนล่าสุด มีข่าวร้อน ที่เชื่อถือได้ มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เผยว่า ทั้งคู่ได้ทำการตกลง ที่จะซัดกันได้เป็นที่เรียบร้อย ในปี 2017 นี้ ทำเอาแฟนๆ หมัดมวยทั่วโลก ตั้งตารอคอยวันที่ทั้งคู่ จะออกมาแถลงข่าว พร้อมยืนจ้องหน้า รองัดกันบนเวทีแทบจะไม่ไหว แต่ถ้าหากการตกลงนี้เป็นเรื่องจริง เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า สิ่งที่ Conor เดิมพันกับ Floyd ไว้เป็นเงิน $100 ล้านเหรียญยังคงอยู่ในข้อตกลงด้วยรึเปล่า แต่ในเมื่อมาถึงตอนนี้ ความเป็นไปได้ที่ทั้งคู่จะเจอกันอย่างเป็นทางการ ก็ยังมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ดังนั้น ก่อนที่ไฟท์หยุดโลกนี้จะบังเกิด เราจึงนำเรื่องราวที่ทุกคนควรรู้ ก่อนที่พวกเค้าจะขึ้นสังเวียนมาให้ได้อ่านกัน เผื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมันส์ และทำให้คุณเลือกได้ว่า คุณจะเชียร์ใครดี

อย่างที่เราได้บอกไปสักครู่นี้ว่า ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คนแทบจะทุกวงการต่างก็พูดคุยกันแต่เรื่องการขึ้นชก ระหว่าง Conor McGregor กับ Floyd Mayweather ทั้งนั้น จากไฟท์ที่เป็นเพียงจินตนาการ และหลายๆ คนมองมันว่าเป็นความฝันที่ไม่มีทางเกิดขึ้น จนเวลาค่อยๆ ทำงานไปอย่างเงียบๆ ตอนนี้ ความฝันที่ว่า เริ่มใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกที ไม่ว่าจะเป็นอัตตราต่อรอง ที่ก่อนหน้านี้เปิดราคามาให้กับคนที่ไม่บ้าก็โง่เท่านั้น ที่จะกล้าแทงว่ามวยไฟท์นี้จะเกิดขึ้น หั่นราคาลงแบบมีนัยสำคัญ รวมไปถึงสถานที่ที่ผู้ชายชาวอเมริกัน มักจะเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดอย่าง Barbershop แทบจะทุกร้าน ก็พูดถึงแต่เรื่องของไฟท์นี้ ราวกับว่า มีข่าววงในรั่วไหลออกมาเป็นที่เรียบร้อย

ผู้คนพูดถึงรายละเอียด และข้อมูลการชกไปต่างๆ นาๆ แต่ก็อย่างที่สุภาษิตไทยว่าไว้ “ถ้าที่ไหนมีควัน ที่นั่นย่อมมีไฟ” เมื่อ Conor McGregor กล่าวว่า “ผมเชื่อว่า ครั้งต่อไปที่ผมจะก้าวขึ้นสู่สังเวียน ผมจะต้องมุดรอดเชือกไป พร้อมกับใส่นวมขนาด 8 ออนซ์” ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในเมือง Manchester นอกจากนี้ยังทิ้งท้ายเป็นการบอกใบ้อีกว่า “นี่จะกลายเป็นประวัติศาสตร์” แน่นอน การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด แต่เมื่อคำพูด และการกระทำ มาพร้อมๆ กัน แถมมาจากปากเจ้าตัว มันคงไม่ใช่แค่ การนั่งเทียนเขียนข่าว เพื่อนำไปใช้พาดหัวในหนังสือพิมพ์หน้า 1 ของนักข่าวธรรมดาแล้ว เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้น ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะมีอะไรมาปิดบังต่อไปได้

แม้ว่าจะประกาศ Retired ไปแล้ว ตั้งแต่ เดือนกันยายน ปี 2015 ซึ่งรวมแล้ว เป็นเวลากว่า 18 เดือน แต่สำหรับยอดนักชกระดับอัจฉริยะอย่าง Floy Mayweather เวลาเพียงแค่นี้ ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับพรสวรรค์ ความสามารถ  และประสบการณ์ชนะรวด 49 ครั้ง โดยไม่เคยแพ้ใครมากเท่าไหร่นัก

หลังจากที่ประกาศแขวนนวมไปแล้ว มีคนเคยบันทึกคำพูดนึงของ Floyd เอาไว้ เป็นประโยคที่เค้าพูดว่า “ถ้าจะกลับขึ้นสังเวียนอีกครั้ง คู่ชกต้องเป็น Conor McGrageor เท่านั้น ไม่ใช่คนอื่น” นี่ไม่ใช่คำพูดลอยๆ นั่งเทียนเขียนอีกเช่นกัน เพราะว่า Floyd ตอบคำถามนี้กับทาง ESNews ซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่มาทำการสัมภาษณ์เค้าอย่างเป็นทางการ “นี่จะเป็นไฟท์ที่น่าสนใจมากที่สุด ทุกคนจะได้เห็นนักมวยต่อสู้กับนักสู้ MMA มันจะต้องเป็นไฟท์นึง ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างแน่นอน”

หากคุณสังเกตการพูดของ Floyd Mayweather ดูดีๆ คุณจะเห็นได้ถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไป เค้าพยายามจะพูดขายของให้กับ Conor McGragor ว่าที่คู่ต่อสู้อย่างออกนอกหน้า อย่างเช่น บอกว่า McGregor เป็นคู่ชกที่อันตราย และยังพยายามพูดในเชิงว่า McGregor สามารถชกมวยสากล บนเวทีกับตัวเค้าได้อย่างถูกต้องตามกฎกติกา มันก็จริงอยู่ว่า McGragor สามารถจะขึ้นชกได้ เพราะเค้าก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านการชกต่อยโดดเด่นมาแต่ไกล แต่นอกจากการสาวหมัดเพียงอย่างเดียว มวยสากลอาชีพมีกฎกติกาที่ซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด แต่มันก็สามารถเรียนรู้กันได้ ที่น่าเป็นห่วงก็คือ การยืนระยะมากกว่า ถ้าเป็นการชกแบบ 2 ยก 5 ยก หรืออาจจะ 7 ยก นักกีฬาอย่าง McGragor คงเรียกความฟิตได้ไม่ยาก แต่มันไม่ใช่แค่นั้น

มวยสากลอาชีพ ต้องนวดกันไปยาวๆ ถึง 12 ยก ถ้าหากไม่มีการน็อคฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลงไปนอนกองกับพื้น เราจึงลองวิเคราะห์ หาทางที่ McGregor จะชนะยอดมวยสากลคนนี้ดูเล่นๆ  ตามความคิดเรา มันแทบจะไม่มีทางเลย ที่นักสู้คนนึงจะเปลี่ยนสไตล์การชกชนิดข้ามสายพันธ์ จะมีความเจนจัด ทั้งในเรื่องของ เหลี่ยมมวย, กฏกติกา รวมไปถึงการควบคุมอารมณ์ ขณะไล่อัดชาวบ้านด้วยกำลังล้วนๆ ไม่ง่ายเลยที่จะต้อนมวยสไตล์เจ้าเล่ห์ และเหลี่ยมจัด ของ Maywether ได้ เราก็เห็นกันมาแล้วว่า นักมวยสากลอาชีพหลายต่อหลายคน ยังโดนสอนเชิงซะเสียคน ต้อนยังไงก็ไม่จน แถมโดนดักสวนตลอด เพราะฉะนั้น ทางเดียวที่ทำให้ McGregor ชนะได้ก็ คือ TKO เท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอย่าลืมว่า Floyd Mayweather ไม่เคยแพ้ใคร นั่นหมายความว่า เค้าไม่เคยโดน TKO แม้แต่ครั้งเดียวตลอดชีวิตการชกมวยสากลอาชีพ

“McGregor เป็นนักมวยที่แข็งแกร่ง และทุกครั้งที่ได้ดูเค้าขึ้นชก เค้ามีความเค้าว่องไวกว่าที่ผมมีอยู่นิดหน่อย” Floyd กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่า มันเป็นอะไรที่บันเทิงสุดไปเลย ถ้าเราได้ขึ้นชกกัน โดยเฉพาะการที่จับนักมวย MMA ที่แต่งตัวประหลาด ยัดใส่ลงไปในกางเกงมวยสากล เค้าคือ คู่ต่อสู้ที่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้”

Floyd Mayweather ยังคงยืนยันว่า McGregor คือ คนที่เค้ารู้สึกอยากขึ้นชกด้วยมากที่สุด แต่ใครจะไปรู้ว่า ในใจของ Floyd อาจคิดว่า McGregor ไม่มีทางชนะเค้าได้แน่นอน ถ้าต่อยตามกติดามวยสากลอาชีพ ทำให้เค้ายิ่งพูด กระตุ้นอารมณ์ความอยากในตัว McGregor รวมถึงแฟนๆ ทั่วโลก ช่วยกันทำให้ไฟท์นี้เกิดขึ้นให้ได้

ทำไมน่ะหรือ? ถ้า Floyd มอง McGregor เป็นหมู เงินก้อนใหญ่จากการเดิมพัน รวมถึงค่าตัวในไฟท์สะเทือนจักรวาลระดับน้ี มีใครบ้างบนโลกไม่อยากได้ ถึงแม้จะมีเงินอื้อซ่าอยู่เต็มบ้านแล้วก็ตาม แถมชื่อเสียที่แผ่วๆ ไปหลังจากประกาศ Retied ก็จะกลับมาค้างเติ่งในวงการหมัดมวยไปอีกนานแสนนาน

แต่บางที Conor McGregor อาจจะช็อคโลก คว่ำยอดมวยไร้พ่ายคนนี้ ตั้งแต่ยกแรกก็เป็นได้ ถ้าหากพละกำลังของเค้า ที่ส่งหมัดออกไป เข้าไปที่ปลายคาง Floyd Mayweather ซึ่งเรายังคงยืนยันได้ว่า ไม่ง่ายแน่ๆ แต่ผลงานของ McGregor ในช่วงที่พีคสุดๆ ก็น่ากลัวใช่เล่น ถ้าไม่เชื่อลองหาไฟท์ ที่ McGregor จัดหนักล้างแค้น Nate Diaz ที่ออกแนวประมาท หลังจากที่รัดคอชนะไปในการเจอกันครั้งแรก มาดูก็ได้ว่า เวลา Conor McGregor ตั้งใจเน้นๆ มันก็เขี้ยวสุดๆ และโหดสมชื่อ “The Notorious” จริงๆ

มาถึงสิ่งที่จะทำให้ ไฟท์หยุดโลกนี้เกิดได้กันดีกว่า แม้ว่าความสามารถในด้านการต่อสู้ของทั้ง 2 คน จะอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่า พรสวรรค์ อย่างเต็มปาก แต่เพียงเท่านั้น มันก็ไม่อาจจะทำให้ไฟท์นี้เกิดขึ้นได้ แต่มีบางสิ่งที่ทั้ง Conor McGregor และ Floyd Mayweather มี และสามารถทำให้เกิดไฟท์สุดยิ่งใหญ่นี้ได้ นั่นก็คือ “เงิน” ทั้ง 2 คนนี้ เป็นนักกีฬาที่มีรายได้ติดอันดับเหมือนกัน และในแต่ละไฟท์ที่พวกเค้าขึ้นชก บัตรก็ไม่เคยจะเหลือทั้งๆ ที่มันแพงโคตรๆ บวกกับค่าตัว เงินรางวัล และสปอนเซอร์อีก แต่แน่นอนว่า ย่อมมีนักลงทุนที่ได้รับผลประโยชน์จากพวกเค้าอยู่แล้ว ดังนั้น ขอเพียงแค่ ทั้ง 2 คนเอ่ยปาก ทำไมจะไม่มีใครกล้ามาลงทุน หรือสปอนเซอร์ให้ ทั้งๆ ที่มั่นใจได้เลย ว่า ตั๋วเข้าชมแพงยังไงก็ขายหมด และยังมีอย่างอื่นอีกมากมาย ที่ผู้ลงทุนสามารถแสวงหาผลกำไรได้จากการจัดงานครั้งนี้

อีกสิ่งนึงที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้ว่า หลายคนมองว่า McGregor เป็นมวยรองบ่อน  ถ้าหากไฟท์นี้เกิดขึ้น แต่ข้อดีของ McGregor ก็คือ ถ้าเค้าแพ้ เค้าก็ยังกลับมาได้ เช่นเดียวกับที่เค้าแพ้ให้กับ Nate Diaz ในครั้งแรก และกลับมาเอาคืนได้ภายหลัง แต่ถ้าเค้าดันชนะขึ้นมาล่ะก็ ผลประโยชน์ทั้งหมด จะเทไปที่เค้าแบบเต็มข้อกันเลย 1. ชื่อเสียง ที่เอาชนะ  Floyd Mayweather  ได้เป็นคนแรก 2. เค้าจะได้รับรายได้สูงที่สุด ตั้งแต่เค้าทำการแข่งขันการต่อสู้มาอย่างแน่นอน 3. อย่างน้อยๆ ถ้าแพ้ เค้าก็จะถูกจารึกลงประวัติศาสตร์อย่างที่บอกเอาไว้ตอนแถลงข่าว และถึงแม้ว่าเค้าจะพ่ายแพ้ให้กับ Floyd Mayweather เค้าก็ได้ชื่อว่าแพ้ยอดมวยที่มีตำนานไร้พ่าย แล้วก็ย้ายก้นกลับไปต่อย UFC ต่อ

“Watch me take over boxing!!” คือ คำที่ Conor McGregor คำรามออกมาอย่างมั่นใจ “ไม่มีใครในวงการมวยสากลรู้ว่า อะไรกำลังมาเยือนพวกเค้า แต่เชื่อเถอะว่า วันนึงที่ผมก้าวเข้าสู่วงการมวยสากล ผมจะทำให้คนทั้งโลกต้องโคตรช็อคไปตามๆ กัน!! จ้องมาในดวงตาของผม…ด้วยวัย 28 ปี และพกความมั่นใจมาเต็มเปรี่ยม ช่วงชกยาว, หุ่นกำยำ, อันตรายสุดๆ ไม่ว่าจะออกอาวุธด้วยมือซ้าย หรือมือขวา!! เชื่อผมสิ ผมจะเป็นคนที่หยุดสถิติของไร้พ่ายของ Floyd Mayweather ทุกคนถ่มถุยว่า ผมไม่มีทางทำได้ สุดท้ายพวกเค้าจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ผมจะชกมวย!!”

แค่คนนึงบิ้ว อีกคนก็บ้าจี้เล่นใหญ่ตาม เพียงคิดว่า ถ้ามันเป็นสงครามจิตวิทยาของทั้งคู่ก็ติดตามกันมันส์สุดๆ แล้ว ถ้าซัดกันจริงๆ มันจะสุดยอดขนาดไหน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากบางแหล่งข่าวบอกว่า Floyd Mayweather ได้เลือกเดือนมิถุนายน เอาไว้ สำหรับการขึ้นชกกันทาง Conor McGregor แต่แหล่งข่าวอีกแหล่งนึงของนิตยสาร Rolling Stone ระบุว่า เป็นเดือน กันยายน ซึ่งดูมีความเป็นไปได้มากกว่า ที่สุดแล้ว ยังไงเราก็เชื่อว่าโคตรมหากาพย์ไฟท์สุดเดือด ระหว่าง Floyd Mayweather vs. Conor McGregor จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า อาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ แต่เค้าว่ากันว่า เงินตรา มันไม่เคยเข้าใครออกใคร และใช้เปลี่ยนใจคนได้เสมอ 

SOURCE