หลาย ๆ คนมักจะตีความดนตรีแนว “ฮาร์ดคอร์” กันผิด เพราะคนส่วนใหญ่ชอบเหมารวมว่าเพลงที่หนัก ๆ แหกปาก รุนแรง คือแนวฮาร์ดคอร์ไปซะทั้งหมด โดยเฉพาะในยุคนูเมทัลที่ในเริ่มแรกก็ถูกเรียกแบบนั้นเช่นกัน แต่แท้จริงแล้วซาวด์ของมันไม่ได้มีความใกล้เคียงเลย ดังนั้นเราลองมาทำความรู้จักพื้นฐานของฮาร์ดคอร์กันซักนิดก่อนดีกว่า

ดนตรีฮาร์ดคอร์มีพื้นฐานมาจาดนตรีพังก์ ก่อตัวขึ้นในช่วงปลายยุค 70’s ถึงช่วงต้นยุค 80’s โดยเฉพาะในวอชิงตัน ดี.ซี. และนิวยอร์ก แต่ดนตรีของฮาร์ดคอร์จะมีความดิบกว่า หนักกว่า รวดเร็วกว่า และเสียงดังกว่า พังก์ขึ้นไปอีกเท่าตัว แถมยังใช้การแหกปากในการร้องเพลงด้วยเช่นกัน มีวงอย่าง Minor Treat, Bad Brains, Black Flag, Circle Jerks และ Dead Kennedys เป็นศิลปินบุกเบิกและเป็นต้นแบบให้กับวงในยุคต่อมา

ดนตรีฮาร์ดคอร์ ยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจที่แฝงตัวอยู่ ไม่ว่าการนิยมใช้ระบบ D.I.Y., การมอชพิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตแบบ Straight Edge (ไม่ดื่ม ไม่เสพ ไม่มั่วเซ็กส์) เป็นต้น นอกจากนี้ดนตรีฮาร์ดคอร์ยังกลายเป็นอิทธิพลสำคัญให้กับดนตรีแนวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแธรช เมทัล, เมทัลคอร์, เดธคอร์ และอื่น ๆ

นอกจากนั้นดนตรีฮาร์ดคอร์ยังมีการพัฒนาโครงสร้างทางดนตรีให้แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงปลาย 80’s จนถึงต้น 90’s ด้วยการนำกลิ่นของดนตรี เมทัลเข้ามาใส่ไว้ด้วย โดยมีวงจากฝั่งนิวยอร์ก เช่น Sick Of It All, Madball, Earth Crisis และ Biohazard ที่ทำซาวด์พวกนี้ออกมาได้โดดเด่นจนถูกเรียกกันว่า “นิวยอร์ก ฮาร์ดคอร์” อย่างติดปาก รวมไปถึงฮาร์ดคอร์ยังมีการแตกแขนงแนวทางไปได้อย่างหลากหลาย

อิทธิพลของดนตรีฮาร์ดคอร์ยังแผ่มาถึงประเทศไทย จนทำให้เกิดกลุ่ม PKHC (ปากเกร็ดฮาร์ดคอร์) และ THHC (ไทยแลนด์ฮาร์ดคอร์) ขึ้นมา ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ก็อยู่ในวงการอันเดอร์กราวน์ไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ปี รวมถึงยังมีวงอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจาก 2 กลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน เราลองไปทำความรู้จักกันซัก 6 วงดีกว่าครับ

BORN FROM PAIN

ชื่อวงของพวกเขาได้มาจากเพลงของวง Earth Crisis ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม “Destroy The Machines” สำหรับ Born From Pain เป็นวงที่ยืนหยัดในสไตล์ฮาร์ดคอร์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ก่อตั้งวงเมื่อปี 1998 และยังเป็นแกนนำหลักแห่งกลุ่มปากเกร็ดฮาร์ดคอร์ด้วยเช่นกัน

ผลงานเพลงของพวกเขาได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงฮาร์ดคอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ Born From Pain มีโอกาสไปทัวร์ในหลาย ๆ ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว

และต้องบอกเลยว่าการเล่นสดก็ถือเป็นหนึ่งในหมัดเด็ดของพวกเขา โดยเฉพาะเพลงชาติอย่าง “Hardcore Is In My Blood” ที่บรรเลงเมื่อไหร่ได้เรื่องทุกที

แทร็กแนะนำ : “Hardcore Is In My Blood”

WHISPERS

พวกเขาขนานนามแนวดนตรีว่าเป็น “เมทัลลิก/ฮาร์ดคอร์” นั่นก็เพราะดนตรีของ Whispers มีส่วนผสมของความเป็นเมทัลอยู่ด้วยนั่นเอง แต่พื้นฐานหลักก็ยังคงเป็นดนตรีสไตล์ฮาร์ดคอร์ และมีผลงานออกมาแล้ว 1 อัลบั้มมีชื่อสุดโหดว่า “นรกบนดิน” ซึ่งออกกับสังกัด Holding On Records

ด้วยสไตล์ดนตรีที่มีเอกลักษณ์และชัดเจน ทำให้พวกเขาสามารถสร้างฐานแฟนเพลงในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว มีทั้งแฟนเพลงจากอเมริก, ญี่ปุ่น และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังมีโอกาสออกไปทัวร์มาแล้วในหลาย ๆ ประเทศ

รวมไปถึงในปีนี้เราอาจจะได้เห็น Whispers ออกทัวร์ที่ยุโรปด้วยเช่นกัน

แทร็กแนะนำ : “Morbid Vision”

DEPRESSED

อีกหนึ่งศิลปินจากสังกัด Holding On Records กับแนวดนตรี “บีตดาวน์ ฮาร์ดคอร์” ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือความโหดของดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากบรูทัล เดธ เมทัล เข้ามา รวมถึงมีท่อนเบรกดาวน์ที่หนักหน่วง ซัดคนฟังให้ร่วงได้ง่าย ๆ

ปัจจุบัน Depressed กำลังได้รับการจับตามองของแฟนเพลงฮาร์ดคอร์ไม่น้อยเลยทีเดียว

แทร็กแนะนำ : “Your Grave”

LICENCE TO KILL

วงฮาร์ดคอร์พังก์จากไทยแลนด์ฮาร์ดคอร์ ที่ก่อตั้งวงตั้งแต่ปี 1998 โดยได้รับอิทธิพลมาจากฟังเพลงของวง Sick of It All, Indecision และ Shutdown รวมไปถึงยังมีการสะท้อนความตรงไปตรงมาของสังคมผ่านเสียง ดนตรีของพวกเขา

แม้ว่าการเดินทางของวงจะนานเกือบ 25 ปีแล้ว แต่ปัจจุบัน Licence To Kill ก็ยังคงออกอาละวาดตามคอนเสิร์ตอันเดอร์กราวน์อย่างต่อเนื่อง

แทร็กแนะนำ : F**CK THE POLICE

THE SHREDDER

วงฮาร์ดคอร์ที่ส่งตรงจากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพวกเขาเพิ่งจะรวมวงกันไม่กี่ปีก่อน แต่ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว The Shredder ก็มีโอกาสไปเปิดประสบการณ์แสดงสดในประเทศสิงคโปร์มาแล้ว อีกทังยังได้รับโอกาสลงมาโชว์ฝีมืองานในกรุงเทพอยู่เป็นประจำ

แทร็กแนะนำ : “Terrify Is Surrounded Me”

CARRY ON  

ปิดท้ายกันด้วยวงดนตรีสไตล์เมโลดิก/ฮาร์ดคอร์ นามว่า “Carry On” โครงสร้างทางดนตรีถูกปูพื้นด้วยความเป็นฮาร์ดคอร์ แต่ก็เคลือบไว้ด้วยการสร้างเมโลดี้สไตล์เมโลดิก ซึ่งมีส่วนช่วยเข้าไปเพิ่มความสวยงามให้กับตัวเพลง

แม้ปัจจุบันพวกเขาจะห่างหายจากการปล่อยผลงานเพลงไปพักใหญ่ แต่เชื่อว่าเร็ว ๆ นี้เราจะได้ฟังกันอย่างแน่นอน

แทร็กแนะนำ : “Gone”

หวังว่าทั้ง 6 วงนี้จะช่วยให้คุณเปิดโลกดนตรีฮาร์ดคอร์ในบ้านเรา และยังเป็นสิ่งสะท้อนว่าแนวดนตรีที่ดี ๆ ไม่ได้มีแค่ในกระแสหลักเท่านั้นครับ