ต่อเนื่องจากบทความครั้งที่แล้ว “11 อัลบั้มโคตรแรร์! ของวงการอันเดอร์กราวน์ไทยปี 2000-2005”  มาต่อกันที่ผลงานที่กลายเป็นของหายากสำหรับวงการร็อกและเมทัลไทยในช่วงปี 2006-2010 จะเป็นของศิลปินวงใดกันบ้าง เราไปทำการขุดมาให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันแล้วครับ

G6PD “PAST OF PIECES” (2006)

G6PD วงดนตรีสไตล์เมทัลคอร์ จากเมืองล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ พวกเขาเติบโตมาจากวงการอันเดอร์กราวน์แบบขนานแท้ ก่อนจะได้รับโอกาสร่วมงานกับสังกัด Day One Records ที่ดูแลโดย สมศักดิ์ แก้วทิตย์ มือกลองของวงดอนผีบิน

“Past Of Pieces” คืออัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขา ที่เต็มด้วยท่วงทำนองอันหนักหน่วง ทำลายล้าง มันส์ตั้งแต่เพลงแรกไปยันเพลงสุดท้าย แถมยังทำความเข้าใจกับเนื้อหาของเพลงได้ง่ายเพราะใช้ภาษาไทยในการเล่าเรื่องทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ G6PD สร้างรากฐานแฟนเพลงเมทัลเฮดไทยอย่างรวดเร็ว

แทร็กแนะนำ : “เส้นทางความฝัน”

IMAGINARY LIE (2007)

หากพูดชื่อวง Imaginary Lie หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แต่หากพูดถึงชื่อวง No More Tear หลาย ๆ คนต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะในช่วงกระแสดนตรีอีโมบูมในบ้านเรา พวกเขาถือว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ “ฟักแฟง” นักร้องนำสุภาพสตรีของวงที่กลายเป็นแฟชั่นไอคอนของสาว ๆ ในยุคนั้น ทำให้เราได้เห็นบรรดาวัยรุ่นลุกขึ้นมากรีดอายไลน์เนอร์, ย้อมสีผม และแต่งตัวเป็นซีนเกิร์ลกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ชื่อ Imaginary Lie เป็นชื่อในยุคที่พวกเขายังเป็นวงในระดับอันเดอร์กราวน์ นำเสนอดนตรีสไตล์อีโม/สครีมโม ที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด และหนักกว่าในร่างของ No More Tear หลายเท่า โดยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารทั้งหมด ใครอยากเห็นตัวตนที่แท้จริงของ No More Tear ต้องไปหาผลงานเก่า ๆ ฟังดู แต่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นทางวงไม่ได้ผลิตออกมาเป็นแผ่นให้เก็บสะสม มีแต่ปล่อยเพลงให้ฟังทางมายสเปซเท่านั้น

ส่วนที่เห็นในลิงค์ว่าเป็นอีพี จริง ๆ แล้วคนนำมาเผยแพร่แค่นำเพลงมารวมให้ฟังเท่านั้นเอง (คอนเฟิร์มโดย “เม้ง” มือกีตาร์ของวง)

แทร็กแนะนำ : “We Can’t Be The Dearest”

DRENCHED “DRENCHED” (2010)

อีกหนึ่งวงที่นำเสนอแนวทางเมทัลคอร์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวง Killswitch Engage แบบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นริฟฟ์กีตาร์สไตล์เมโลดิกที่ติดหู, การขับเคลื่อนเพลงที่ดุดัน และเสียงร้องคอรัสแบบคลีนในท่อนฮุค ทั้งหมดถูกยกมาเสิร์ฟไว้ในทุก ๆ บทเพลงของวง Drenched 

นอกจากนั้นพวกเขายังเขียนเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ทำให้ชาวเมทัลในยุคนั้นสามารถเสพได้แบบตรง ๆ ไม่ต้องไปนั่งแปลภาษาให้ปวดหัว

แทร็กแนะนำ : “รักทำร้าย”

NO PENQUINS IN ALASKA

“EP.1303” (2008)

วงดนตรีที่ได้ชื่อวงมาจากบทเพลงของวง Chiodos เดิมทีจุดเริ่มต้นพวกเขาเล่นเป็นแนวอีโม/สครีมโม แต่สุดท้ายก็ได้ปรับเปลี่ยนทิศทางกลายมาเป็นแนวเดธคอร์สุดโหดแทน คุณสามารถสัมผัสความทารุณทางโสตประสาทได้จาก EP.1303 ที่บรรจุไว้ทั้งหมด 4 เพลงด้วยกัน

ซาวด์ของพวกเขาไม่มีอะไรนอกจากคำว่าทำลายล้าง เช่นเดียวกับเสียงร้องที่โหดเหี้ยมราวกับสัตว์ประหลาด ใครหูไม่แข็งแกร่งพอรับรองได้ว่าฟังไม่ไหวแน่นอน

แทร็กแนะนำ : “Make For Gore Guys”

BORN FROM PAIN

“EP.FIGHT FOR THE TRUTH” (2006)

วงฮาร์ดคอร์ระดับตำนานของเมืองไทยจากกลุ่มปากเกร็ดฮาร์ดคอร์ พวกเขาก่อตั้งวงตั้งแต่ช่วงยุค 90’s เล่นดนตรีอันหนักหน่วงมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวัยรุ่น บุกน้ำ ลุยไฟ ฝ่าฟันในวงการอันเดอร์กราวน์อย่างแข็งแกร่งมาจนปัจจุบัน แถมยังเคยออกไปเล่นต่างประเทศมาแล้วหลายครั้ง

ผลงานที่สร้างชื่อให้กับ Born From Pain คงต้องมอบให้เพลง “Hardcore Is In My Blood” ที่เปรียบเสมือนเพลงชาติของพวกเขาไปแล้ว ซึ่งมันถูกรวมอยู่ในอีพีชิ้นนี้ มันถูกผลิตมาในรูปแบบซองพลาสติก พร้อมกระดาษปรินต์สีที่สอดเข้ามาเป็นตัวอาร์ตเวิร์กตามแบบฉบับวิถี D.I.Y.

แทร็กแนะนำ : “Hardcore Is In My Blood”

CHAOS OF SOCIETY

“PUNK OF THAILAND” (2007)

ในบ้านเราเอาจริง ๆ มีวงพังก์เจ๋ง ๆ ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือ Chaos Of Society วงดนตรีที่สะท้อนคัลเจอร์ของพังก์ออกมาได้อย่างครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์, การแต่งตัว รวมไปถึงตัวดนตรีที่วิพากวิจารณ์สังคมและการเมืองไทยได้อย่างออกรส ผ่านซาวด์ดนตรีที่ดิบสาก ซัดกันแบบตรงไปตรงมาในแบบฉบับฮาร์ดคอร์/พังก์ พิสูจน์ได้จากอีพี “Punk Of Thailand” ที่บรรจุความอลหม่านไว้ทั้งหมด 6 เพลง รับประกันเลยว่าถูกใจชาว Oi! แน่นอน

แทร็กแนะนำ : “Stand Up and Fight Back”

SMALLPOX AROMA

“ANATHOMICAL PATHOLOCAUST” (2007)

วงดนตรีแนวกอร์/ไกรคอร์ ที่เล่นดนตรีด้วยความซาวด์แห่งความซาดิสต์ ไม่ซับซ้อน แต่หนักและรวดเร็วบรรลัยจนคนทั่วไปไม่สามารถฟังได้ โดยใช้ความยาวต่อเพลงบางทีไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ

แม้สไตล์ดนตรียากที่จะเข้าถึง แต่ผลงานของพวกเขาก็ได้กระจายไปสู่หลายประเทศทั่วโลกด้วยการโผล่ไปสปริตอัลบั้มร่วมกับวงอื่น ๆ เช่นเดียวกับ “Anatomical Patholocaust” ที่ทางวงทำร่วมกับวง Surgikill Incision

แทร็กแนะนำ : “Lapping The Pig Menstrual Fluid With The Appreciative Mood”

ANNALYNN

“A YEAR OF MISERY” (2009)

“A Year Of Misery” คือผลงานอัลบั้มแรกของวง Annaylnn ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2009 บรรจุไว้ทั้งหมด 7 เพลงที่บ่งบอกความชัดเจนในรูปแบบของซาวด์เมทัลคอร์มากขึ้นกว่าเดิม โดยเนื้อหาทั้งหมดถูกใช้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเช่นเดิม

ส่วนเพลงที่ถือเป็นตัวชูโรงคงหนีไม่พ้น “Unbreakable” ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในรูปแบบ MV ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงไตเติ้ลแทร็ก “A Year Of Misery” ที่ซัดกันมันส์ตั้งแต่เริ่มเข้าเพลง และนี่คือผลงานที่สร้างรากฐานให้กับวง Annaylnn จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นวงเมทัลแถวหน้าของวงการไทยได้ในปัจจุบัน

แทร็กแนะนำ : “Unbreakable”

SOUND OF DESOLATE

“WAITING FOR LAST LOVE AT HORIZON” (2006)

Sound Of Desolate คือวงดนตรีแนวอีโม/สครีมโม จาก Banana Record ซึ่งสร้างชื่อเป็นอย่างมากกับอัลบั้มแรก “Waiting for Last Love at the Horizon” พวกเขาเล่าเรื่องผ่านเพลงด้วยภาษาไทย รวมถึงใช้เนื้อหาเกี่ยวกับความรักในการเล่าเรื่อง และด้วยความที่ดนตรีไม่หนักจนเกินไป ทำให้เด็กอีโมในยุคนั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก

แทร็กแนะนำ : “รอรักสุดท้ายที่ปลายฟ้า”

กล้วยไทย “สิบสองสัตว์” (2009)

ผลงานชุดที่สามของกล้วยไทย ที่บ่งบอกการเติบโตจากดนตรีที่พวกเขาเล่นออกมาได้เป็นอย่างดี “สิบสองสัตว์” ถูกทำขึ้นมาเป็นคอนเซปต์อัลบั้มด้วยการโยงเรื่องราวของสัตว์ทั้ง 12 ชนิดให้เข้ากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์

ความน่าสนใจของ “สิบสองสัตว์” นอกจากเรื่องราวที่อยู่ในอัลบั้ม มันก็คือดนตรีที่พวกเขาสามารถบาลานซ์ความหนักหน่วงและความป๊อปได้อย่างลงตัว แถมยังมีเพลงทีเด็ดอย่าง “กำเนิดหนุมาน” กับการนำดนตรีไทยมาเบลนด์เข้ากับดนตรีนูเมทัลได้อย่างถึงพริกถึงขิง

แทร็กแนะนำ : “กำเนิดหนุมาน”

ผลงานที่เราได้หยิบยกมาบอกได้เลยว่าหายากมาก! และแน่นอนมันคือผลงานที่ทรงคุณค่าและบ่งบอกความหลากหลายของวงการดนตรีไทย ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบได้เป็นอย่างดีเลยครับ