Entertainment

ปีทองของเหล่าฮีโร่ เปิดโผความเดือดหนัง SUPER HERO ที่พร้อมเข้าฉายสะเทือนโรงภาพยนตร์ตลอดปี 2022

By: Chaipohn January 7, 2022

ในขณะที่ปี 2022 โลกแห่งความเป็นจริงจะยังลุ้นระทึกว่าจะเป็นภาคต่อของสถานการณ์โรคระบาดหรือไม่ แต่ในโลกของภาพยนตร์นั้น เรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยหนังเจ๋ง ๆ มากมาย ที่พร้อมจะพาคุณห่างไกลจากโลกแห่งความจริงแบบสุดลิ่มทิ่มประตู หลังจากที่ปีที่ผ่านมา กว่าจะคึกคักก็ผ่านไปปลายปีแล้ว ปี 2022 จึงเป็นปีที่พร้อมทบต้นทบดอกความสนุกสุดเหวี่ยงให้ได้ชมกันแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลย

โดยเฉพาะโลกแห่งซูเปอร์ฮีโร่ยังคงผงาดไม่มีแผ่ว พร้อมสร้างจักรวาลใหม่และสานต่อเรื่องราวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรามาดูกันว่าปี 2022 หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องเจ๋ง ๆ เรื่องใดจะเข้าฉายในโรงบ้าง กาปฏิทินจองคิวกันตั้งแต่เนิ่นๆเอาไว้เลย

Morbius
กำหนดฉาย – *ล่าสุดถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน

เปิดปีกันด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างนักสู้ฝ่ายธรรมมะ และวายร้ายฝ่ายอธรรม กับ Morbius เรื่องราวของ Dr. Morbius นักวิทยาศาสตร์ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่เขาจะได้รับพลังพิเศษจากค้างคาว นำพาให้เขากลางร่างเป็นแวมไพร์กระหายเลือด ที่ต้องต่อกรกับมหาวายร้ายนั้นคือ Vulture ที่ทะลุจากจักรวาล Spider-Man: Homecoming และต้องต่อสู้กับความชั่วร้ายของตนเองก่อนความมืดดำจะกัดกินตัวเขาให้กลายเป็นวายร้ายไป

หลังจากที่ Spider Man: No Way Home สร้างสถิติใหม่ทั้งในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำเงินระดับพันล้านเหรียญทั่วโลก และเป็นหนังขวัญใจนักดูหนังในช่วงปลายปี SONY ก็เหมือนจะเป็นสตูดิโอสาขา 2 ของ Marvel ที่พร้อมเสนอภาพซูเปอร์ฮีโร่ด้านมืดหลังจากประสบความสำเร็จจาก Venom มาแล้ว และการนำวายร้ายจาก Spider-Man มาร่วมจอ ทำให้มีความหวังว่าจะขยายขอบเขตของจักรวาล SONY/MARVEL เพิ่มขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

แต่ถึงกระนั้น การแสดงของ Jared Leto ก็น่าเป็นห่วงไม่ใช่น้อยหลังจากเสียงตอบรับที่ไม่ค่อยจะปังนักในบทบาท Joker มาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าการข้ามสตูดิโอมารับบทบาทนี้ จะเปรี้ยงหรือแป๊ก ต้องมาจับตาดูกัน


The Batman
กำหนดฉาย – 3 มีนาคม

ต่อด้วยฮีโร่รัตติกาลในจักรวาล DC ที่มากี่ครั้งก็ปังและดาร์กขึ้นเรื่อย ๆ กับ The Batman ฉบับสุดทมิฬที่รับบทโดย Robert Pattinson นำเสนอภาพมนุษย์ค้างคาวได้เข้มขรึมและโหดเหี้ยมที่สุด ด้วยการเสนอภาพความนัวร์และความระทึกขวัญที่พร้อมเจาะลึกไปสู่ก้นบึงในจิตใจของตัว Bruce Wayne มหาเศรษฐีผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและแบกรับทุกความเจ็บปวดเอาไว้ภายใต้หน้ากากค้างคาว

โดยคาแรคเตอร์ของ Batman เวอร์ชั่นนี้ ใช้คาแรคเตอร์ของร็อคสตาร์อย่าง Kurt Cobain ราชาเพลงกรันจ์ผู้ล่วงลับมาเป็นต้นแบบ มั่นใจได้เลยว่ามนุษย์ค้างคาวเวอร์ชั่นนี้ต้องมืดหม่นและโหดเหี้ยมกว่าครั้งไหน ๆ

โดยในภาคนี้ต้องปะทะกับวายร้ายอย่าง นางแมวยั่วประสาท Catwoman / มนุษย์เจ้าปัญหาสุดเกรียนที่มาในคราบฆาตกรต่อเนื่อง และ Penguin ราชาแห่งอาชญากรผู้หม่นหมอง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าแม้ช่วงชีวิตของเราจะเห็น Batman มาหลายเวอร์ชั่นแล้ว The Batman ก็ยังพร้อมเสนอแง่มุมใหม่ให้คุณต้องทึ่งอยู่ดี


Doctor Strange in the Multiverse of Madness
กำหนดฉาย – 5 พฤษภาคม

และต่อเนื่องจาก Spider-Man: No Way Home หมอแปลกจอมขมังเวทย์ผู้เปิดมิติคู่ขนานจนสร้างความป่วนปั่นให้จักรวาลฮีโร่ มาครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับ Multiverse หรือมิติคู่ขนานที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนสับสนจนเขาเองไม่สามารถรับมือไหวได้เพียงตัวคนเดียว เขาจึงร่วมมือกับ Wanda Maximoff แม่สาวพลังจิตสุดฮอตที่เมื่อปีก่อนเราได้ชมเธอจากซีรีส์ WandaVision มาครั้งนี้เขาต้องมาช่วยกันยับยั้งพหุจักวาลอันแสนมืดหม่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือการรับมือกับขั้วตรงข้ามของ Doctor Strange นั่นคือหมอแปลกที่เป็นตัวร้ายนั่นเอง

ซึ่งภาคนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของผู้กำกับ Sam Raimi ซึ่งคอหนังคงต้องตื่นเต้นไม่ใช่น้อย เพราะเขาคือผู้จุดกำเนิด Spider-Man เวอร์ชั่น Tobey Maguire ที่สุดแสนคลาสสิค ดังนั้นมั่นใจได้ว่าหมอแปลกเวอร์ชั่นนี้จะต้องมีความเจ๋งและความเก๋ารออยู่อย่างแน่นอน


Thor: Love and Thunder
กำหนดฉาย – 7 กรกฎาคม

การกลับมาครั้งที่ 4 ของขุนค้อนทมิฬ Thor ที่เป็นมาแล้วทุกเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นลิเกอวกาศ / เวอร์ชั่นสุดดาร์ก หรือเวอร์ชั่นฮาแบบสามช่า แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่การได้ผู้กำกับ Taika Waititi ที่เคยกำกับภาค 3 และโดดเด่นในการสร้างไอเดียที่แตกต่าง ครั้งนี้จึงคิดว่าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

โดยครั้งนี้เทพเจ้าสายฟ้า ต้องร่วมมือกับ Valkyrie และ Jane Foster ที่รับบทโดย Natalie Portman รับมือกับศัตรูตัวใหม่ Gorr the God Butcher ที่รับบทโดย Christian Bale อดีต Batman – The Dark Knight ที่ย้ายค่ายมาแสดงบทผู้ร้ายเต็มตัว ร่วมด้วย Russell Crowe ในบท Zeus เทพเจ้าสุดโฉดอีกด้วย

ดาราเพียบขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่า Thor: Love and Thunder ต้องได้รับการกล่าวขวัญเมื่อยามออกฉายแน่นอน


Black Adam
กำหนดฉาย – 28 กรกฎาคม

และในที่สุด The Rock ก็ได้มาร่วมในจักรวาลฮีโร่รายล่าสุดของ DC โดยครั้งนี้เขามาในรูปแบบของมหาเทพผู้รวบรวมพลังทุกด้านในตำนานของเทพแห่งอียิปต์ จนกลายเป็น Supervillain อันน่าเกรงขาม ซึ่งในตอนนี้เรายังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากไปกว่าการร่วมจักรวาลกับ Shazam หนังซูเปอร์ฮีโร่สุดคัลท์ที่จักรวาลของทั้ง 2 น่าจะบรรจบกันในภาคต่อไป

แต่ครั้งนี้เรามาดูกันว่า The Rock จะสร้างความแตกต่างของหนังซูเปอร์ฮีโร่ได้หรือไม่ เพราะปกติหนังของ The Rock เอง เห็นความถึกของแกก็แทบไม่ต่างกับซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปอยู่แล้ว


Spider-Man: Across the Spider-Verse (Part One)
กำหนดฉาย – 6 ตุลาคม

จักรวาลของไอ้แมงมุมยังไม่จบ เพราะนอกจากหนัง Live Action แล้ว ยังมีเวอร์ชั่น  Animation ที่ฟาดทั้งเงินและได้รับคำชมอย่างล้นหลามจนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมไปครองได้ (แถมยังเล่าเรื่องของจักรวาลคู่ขนานมาก่อนกาลอีกด้วย)

โดยภาคนี้ไอ้แมงมุมยังคงสนุกกับการเที่ยวท่องไปในจักรวาลคู่ขนานอย่างเมามันส์ และได้พบกับ Spider-Man 2099 ให้เสียงพากย์โดย Oscar Isaac ไอ้แมงมุมแห่งโลกอนาคต รวมไปถึง Spider-Woman อีก 2 เวอร์ชั่น และ Spider-Man ภาคญี่ปุ่นอีกด้วย จึงนับเป็นความปั่นป่วนของโลกไอ้แมงมุมที่น่าจับตา และคาดหวังว่าจะยกระดับแอนิเมชั่นได้อีกขั้นนึงเหมือนกับที่ภาคแรกได้ทำไว้ได้อย่างเหนือชั้น


The Flash
กำหนดฉาย – 3 พฤศจิกายน

หลังจากโลดแล่นในจักรวาล DCEU มาแล้วจาก Batman v Superman: Dawn of Justice และ Justice League ในที่สุดไอ้หนุ่มสลาตัน The Flash (ที่คนละจักรวาลกับ The Flash ภาคซีรีส์) ก็ได้มีหนังเดี่ยวซะทีหลังจากที่มีปัญหาในการหาไอเดียที่แตกต่างมาแสนนาน

ซึ่ง The Flash ในครั้งนี้ก็จะพาตัวเขาวิ่งไวเหนือแสงไปพบกับ Batman 2 เวอร์ชั่น นั่นคือเวอร์ชั่น Michael Keaton (นับเป็นปีทองของลุงเขาจริงๆไปได้ทั้ง DC ทั้ง Marvel) และเวอร์ชัน Ben Afleck / General Zod ตัวร้ายของ Superman ไปจนถึง Supergirl

โดย The Flash ได้ Andy Muschietti ผู้สร้างความสยองจาก It ทั้ง 2 ภาคมากำกับ มาดูกันว่าจะเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับจักรวาล DCEU สำเร็จหรือไม่


Black Panther: Wakanda Forever
กำหนดฉาย – 10 พฤศจิกายน

Black Panther สร้างสถิติใหม่มากมาย ทั้งในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่ผิวดำที่ครองใจคนทั่วทั้งโลก และยังเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกที่เข้ารอบลึกบนเวทีรางวัลออสการ์ แม้โปรเจกต์ภาคต่อต้องชะงักลงจากการสูญเสียของฝ่าบาท Chadwick Boseman ทำให้ภาคต่อของหนังเรื่องนี้ริบหรี่ลงไป

แต่สุดท้ายทีมงานก็สานต่อความตั้งใจผลักดันภาคต่ออย่างต่อเนื่องโดยยืนกรานว่าจะไม่มีใครมาแทนที่ Chadwick ได้ โดยหนังเลือกที่จะใช้ทรัพยากรของนักแสดงที่เหลือสร้างจักรวาลของชาววากานด้าให้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรเพิ่มขึ้น มาจับตากันดูว่า Black Panther ภาคสองนั้นจะเป็นอย่างไร ในยุคที่ไร้ฝ่าบาทอันที่เป็นที่รักยิ่งของประชาชนวากานด้าและพี่น้อง The Avengers


Aquaman and The Lost Kingdom
กำหนดฉาย – 15 พฤศจิกายน

เป็นภาคต่อที่เต็มไปด้วยปัญหาไม่ใช่น้อย แม้จะไม่ได้มาจากตัวพระเอกของเรื่อง Jason Momoa โดยตรง แต่มาจากการฟ้องหย่าของ Amber Heard ที่ทำให้อดีตสามีอย่าง Johnny Depp ต้องพบปัญหาสารพัด นำพาไปสู่กระแสการแบนตัว Amber ที่รับบท Mera อย่างชัดเจน

แต่ถึงกระนั้นทีมงานก็ยังยืนกรานที่จะให้หญิงสาวรับบทต่อไปโดยไม่สนกระแสลบใด ๆ ทำให้โปรเจกต์ภาคต่อที่เคยทรงคุณค่าต้องมีรอยราคีไปอย่างไม่ทันตั้งตัว และเลื่อนกำหนดฉายเพื่อให้กระแสร้อนแรงนั้นซาลงบ้าง

พอหนังมีกระแสลบอย่างนี้ James Wan คงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้หนังภาคต่อนี้หลุดพ้นจากข้อครหาต่างๆ (ซึ่งแทบไม่เกี่ยวอะไรกับหนังเลย) ก็ต้องมาดูกันว่าคนที่อยู่ฝ่ายเชียร์ Johnny Depp จะเปิดใจกับหนังเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line