GADGETs

WORK-LIFE BALANCE: 5 ไอเทมเปลี่ยนชีวิตคนติดบ้าน 24 ชั่วโมงให้สมดุล

By: anonymK April 9, 2020

ก่อนหน้านี้หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะต้องใช้เวลาอยู่บ้านนานนับเดือน ยังคิดกันเอาเองว่าการ WORK FROM HOME หรือทำทุก อย่าง FROM HOME มันดีจะตาย และคงจะเป็นเรื่องขำ ที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น แต่มาวันนี้ต้องยอมรับว่าเราคงต้องอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนาน พ่วงมาพร้อมความเครียดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป

ด้วยความที่เรายังต้องอยู่บ้านนาน ทำให้ระยะนี้มีข้าวของต่าง ที่พัฒนาขึ้นใหม่ออกมามากมายเพื่อให้การใช้ชีวิตอยู่บ้านตลอดเวลารื่นรมย์มากขึ้น และนี่คือ 5 ไอเทมการอยู่บ้านให้น่าอยู่ที่เราเลือกมา บางอย่างเพื่อตอบโจทย์ความบันเทิง บางอย่างก็เป็นเรื่องความโปรดักทีฟ แต่ไม่ว่าจะชิ้นไหนเราว่าก็ขาดไม่ได้พอกัน

‘THE BEAN’ Samsung Galaxy Buds

ถ้าการอยู่บ้านของพวกเรา ไม่ใช่การอยู่คนเดียว แต่ต้องแชร์พื้นที่ร่วมกับคนอื่นในบ้าน ชนิดที่หาความเป็นส่วนตัวและสมาธิไม่ค่อยจะได้ สิ่งแรกที่จำเป็นต้องหามาใช้คือหูฟังดี เพราะการเปิดเพลงคลอสำหรับตัดโลกบางช่วงเวลาจะสร้างสมาธิให้เราได้ ที่สำคัญจังหวะดนตรียังช่วงปรับมู้ดการทำงานและใช้ชีวิตให้มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

ทว่าหูฟังธรรมดา เราคงไม่เอามาแนะนำให้เสียเวลา ไอเทมชิ้นแรกจึงขอแนะนำเป็น Samsung Galaxy Buds หน้าตาคล้ายเมล็ดถั่วที่กำลังมาแรงตัวนี้ที่ว่ากันว่ารูปที่เราเห็นอยู่คือภาพหลุด เพราะชิ้นนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาของค่าย Samsung

ความเจ๋งอยู่ที่มันเป็นหูฟังประเภท In-ear ที่ออกแบบมาให้พอดีกับทรงใบหูโดยไม่ต้องยัดซิลิโคนเหมือนที่แล้วมา เนื่องจากแต่ละข้างมีลำโพงขนาดเล็ก 2 ตัวครอบคลุมเสียง Midrange (เสียงกลาง) และ Treble (เสียงแหลม) เวลาใส่นาน ก็จะไม่ทรมานหู นอกจากนี้ยังมีระบบไมค์โครโฟนและระบบตัดเสียงจึงมั่นใจได้ว่าการอยู่บ้านด้วยหูถั่วคู่นี้ยังไงก็ส่วนตัวสุด

IKEA Greenhouse Cabinet

ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ตามคอนโดหรือห้องโดยไม่ได้ออกไปไหนหลาย วัน หัวใจมันเฉามากจริง ไอเทมชิ้นที่ 2 ที่เราคิดว่าควรมีติดบ้านจึงเป็นการหาสิ่งมีชีวิตอื่น มาอยู่ร่วมกับเรา โดยต้องเข้ามาแล้วให้พลังบวก ไม่ต้องดูแลให้มันมากมายหรือเรียกร้องอะไรจากเรานักอย่างต้นไม้

ต้นไม้คือสีเขียวที่ช่วยผ่อนคลายสายตาระหว่างทำงานได้ดี แต่จะเอาต้นไม้มาวางทื่อๆ ก็เบาไปและเสี่ยงพลาดไปปัดตกให้เลอะเทอะ เทรนด์คนอยู่บ้านตอนนี้เขาเลยจับตู้กระจกจาก IKEA มา DIY สร้างเป็นสวนกระจกในบ้านมันเสียเลย โดย DIY ติดแสงเทียม หรือหลอดไฟสำหรับปลูกต้นไม้ไว้ในตู้ ราคาเริ่มต้นในตลาดมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน

เท่านี้ก็จะได้เรือนกระจกขนาดย่อมไว้ในบ้านแล้ว แต่ข้อควรระวังคือเราต้องศึกษาเรื่องคุณภาพความเข้มของแสงไฟที่นำมาติดตั้งอีกทีว่าเหมาะกับพรรณไม้ที่เรานำมาปลูกไหม เพราะถ้าไม่เช็กดี ต้นไม้ที่เอามาวางในตู้อาจจะไม่รอด

GoTouch Beam

ชิ้นที่ 3 ขอเน้นเรื่องความบันเทิงบ้าง ‘GoTouch Beam’ ชิ้นนี้เป็นผลงานเทคโนโลยีโปรเจกเตอร์ตัวล้ำสุด ที่เราสามารถ Interactive กับจอที่กำลังฉายบนกำแพงได้ผ่านอุปกรณ์ปากกาที่เขาแถมมาให้ในเครื่อง โดยปากกาชิ้นนี้ทำหน้าที่คล้าย stylus ดังนั้นไม่ว่าเราจะจิ้มไปตรงไหน มันจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต้นทางที่ใช้งาน หรือถ้าอยากควบคุมจอคล้ายใช้เมาส์ ด้านบนเหนือเครื่องโปรเจกเตอร์ยังมีฟังก์ชัน Touchpad ให้เราใช้งานด้วย

จุดเด่นของโปรเจกเตอร์ชิ้นนี้อยู่ที่ทุกสิ่งที่เรา Interact บนจอสามารถแชร์ผ่านออนไลน์ได้แบบ real-time หรือถ้าแค่ต้องการแชร์ระหว่างประชุมเพื่อ Meeting ระหว่างอยู่บ้าน เหมือนมีไวต์บอร์ดติดผนังบ้าน

ส่วนฟังก์ชันเบสิกอย่างการฉายภาพคมชัดเรื่องนั้นไม่มีปัญหา เชื่อมต่อกับระบบ andriod, PC Desktop สบาย ความเบาสามารถพกพากับแบตอึด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ เผื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปฉายบนกำแพงดาดฟ้าแทนห้องก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจ 

3D printing a hands-free door opener

ตัวที่ 4 จะเรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ใช้งานเฉพาะเรา แต่เหมาะกับคนที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะร่วมกับคนอื่นอย่างคอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือสถานที่ที่มั่นใจว่าไม่ได้มีแค่เราหรือคนที่ไว้ใจว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ชัวร์

นี่คือผลงาน 3D Print ที่เป็นที่จับแบบประตูแบบไม่ต้องใช้มือจับแต่ใช้แขนจับที่คำนวณองศามาเสร็จสรรพ สามารถกดที่จับลงเพื่อเปิดประตูได้ง่าย ของ materialise สตูดิโอสถาปนิกที่ตั้งใจให้คนในออฟฟิศปลอดภัยด้วยการลดสัมผัสสาธารณะจากที่เปิดปิดประตู

การใช้งานไม่ได้ใช้งานยุ่งยาก พิมพ์ออกมาเป็นตัวจับ 2 ชิ้นนำมาประกอบกัน จากนั้นนำไปปรับยึดความแน่นหนากับที่จับประตูได้ทันทีด้วยนอต 4 ตัว

ไฮไลต์อยู่ที่ชิ้นนี้เขาแจกฟรีแบบ 3D ดังนั้น ใครที่มีเครื่อง 3D ที่บ้านหรือสนใจจะผลิต สามารถดาวน์โหลดไฟล์จากลิงก์นี้ https://www.materialise.com/en/hands-free-door-opener ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ใด แค่ไปสั่ง print ที่ร้านเพื่อนำมาใช้งานก็เรียบร้อย

Curve and Curve SE

ปิดท้ายด้วยคนใช้งานจอคอมหลายจอทั้ง MacBook และ Desktop ทำให้ช่วงนี้บ้านอาจจะคล้ายฐานบัญชาการย่อม แต่เก็เจอปัญหาเรื่องก้ม เงย มองเพื่อเทียบแสงระหว่างจอที่ 2 และ 3 กับ Macbook สิ่งที่ช่วยได้จึงเป็นขาตั้งที่ออกแบบมาให้มีองศาระดับพอดี

Curve and Curve SE คือฐานวางที่ยกระดับองศาของ MacBook เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตระหว่างทำงานและสุขภาพ ผลิตด้วยโลหะ ติดซิลิโคนกันลื่น และผลิตโดยไร้รอย เป็นโลหะไร้รอยต่อตลอดทั้งชิ้นจึงมั่นใจเรื่องความแข็งแรงทนทานได้ว่าเซฟเครื่องของเราให้อยู่ในตำแหน่งปลอดภัย

ประโยชน์การใช้งาน เมื่อต่อคีย์บอร์ด Bluetooth ต่อ Wacomเข้าไป คุณภาพชีวิตของเราก็ยกระดับตามตัวฐานที่ยกเครื่องเลย เพราะจะแก้ปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อถึง อาการปวดคอ รวมทั้งแสงที่กระทบจอซึ่งอาจจะทำให้ภาพที่รับผ่านสายตาเพี้ยนได้ แถมยังมีพื้นที่ว่างด้านล่างให้ขยับมือไม้ได้อย่างเต็มที่

เทคโนโลยี จะเกิดประโยชน์มากกว่าความสะดวกสบายเมื่อเราใช้ประโยชน์มันเต็มประสิทธิภาพและรู้เท่าทัน ในช่วงต้องรัดเข็มขัดแบบนี้ ถ้ามีชิ้นไหนที่ถูกใจก็พิจารณากำลังทรัพย์ส่วนตัวก่อน ใครมีก็สั่งได้ส่วนใครไม่มีให้ชะลอไว้ก่อนแล้วเลือกซื้อหรือประยุกต์ของที่มีอยู่ตอนนี้มาใช้งานตามความเหมาะสม

ของดีน่าใช้ นาทีนี้ต้องภาระไม่มีหนี้ิติดตาม 🙂
anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line