Work

5 แทคติคจิตวิทยาก่อนสัมภาษณ์งานที่จะพาเราวิ่งเข้าเส้นชัย

By: anonymK November 20, 2018

ไม่ว่าพวกเราจะทำงานผ่านมากี่ที่ แต่เชื่อว่าความรู้สึกช่วงสัมภาษณ์ก็ยังเป็นโมเมนต์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเราอยู่ดี บางครั้งเรียกได้ว่านาทีต่อนาทีที่ตอบโต้กันระหว่างเรากับผู้สัมภาษณ์เราก็แทบทำนายได้แล้วว่าเราจะได้งานนี้หรือชวดต้องไปสัมภาษณ์ครั้งหน้า

เพื่อให้ผู้ชายอย่าง เราสามารถโต้กลับการสัมภาษณ์ได้แบบไม่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว วันนี้ UNLOCKMEN ได้รวบแทคติคจิตวิทยาเพิ่มโอกาสพิชิตการสัมภาษณ์งานที่เขาทดสอบกันมาว่าพาวินกันนักต่อนัก จาก 5 สิ่งต่อไปนี้ให้ไปลองเลือกใช้กัน

 

นัดเวลาสัมภาษณ์ให้อยู่ช่วงวันอังคาร 10.30

5 วันทำการโอกาสจะทำให้ HR มีแรงดลใจนัดเราในวันอังคารอาจจะยากสักหน่อย แต่ถ้าเลือกได้ก็ลองระบุเวลานี้กันดู เพราะเขาว่ากันว่าเวลานี้จะเป็นช่วงที่ให้การสัมภาษณ์รีแลกซ์ เนื่องจากยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่เร่งรีบเท่ากับต้นสัปดาห์และไม่ปั่นเหมือนวันสุดสัปดาห์

ส่วนเรื่องเวลาเน้นหลีก 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงเช้าไว้ เพราะช่วงเช้าเป็นช่วงที่หลายบริษัทกำลังประชุมกันซึ่งเขาจะเอาเวลาช่วงนั้นไปโฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำอยู่ กับช่วงบ่ายคล้อยเย็นไว้ด้วย เพราะคนสัมภาษณ์เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้วนอกจากอยากกลับบ้าน

อย่าสัมภาษณ์ช่วงต่อจากผู้แข่งขันตัวเป้ง

เราอาจจะไม่รู้ว่าใครเป็นคู่แข่งที่โหดสุดในการสัมภาษณ์ แต่ถ้าบังเอิญรู้เข้าก็ให้เลี่ยงการประเมินในช่วงใกล้กันไว้ เพราะมันเสี่ยงมากที่เราจะโดนปัดออกจากสนามแข่งแบบไม่รู้ตัว เนื่องจากนักวิจัยพบว่าผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่วางบรรทัดฐานการประเมินจากพื้นของผู้สมัครแต่ละคนในวันสัมภาษณ์นั้น

จากการวิจัยของ University of Pennsylvania และ Harvard University จึงเผยความจริงหนึ่งว่า ระยะเวลาอันตรายของการสัมภาษณ์โดยมีผู้สมัครม้ามืดมาเป็นคู่เทียบซึ่งเราควรหลีกเลี่ยงนั้น นับตั้งแต่สัปดาห์เดียวกันผู้สมัครคนนั้นมาเหยียบบริษัทในฝันเราเพื่อสัมภาษณ์ ยาวต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์ต่อไป ใครที่งงก็ให้จำไว้ว่าไปสัมภาษณ์อาทิตย์ที่ 3 หลังจากที่ไอ้ตัวเต็งนั่นมาสัมภาษณ์แหละที่ปลอดภัย

 

เลือกเนื้อผ้าให้เหมาะกับเนื้องาน

ไม่ใช่แค่สุภาพอย่างเดียวเท่านั้นที่จะชนะใจ แต่เรื่องสีเสื้อมันก็มีการวิจัยเช่นกันว่ามีผลกับการให้คะแนนของผู้สัมภาษณ์ โดยจากการสัมภาษณ์เพื่อเก็บสถิติของ Career Builder เขาเผยว่า 23% ของผู้สัมภาษณ์จะชอบมากถ้าคุณจะใส่สีเฉด “น้ำเงิน” เข้ามาในงานที่ต้องใช้พลังของการทำงานเป็นทีมเวิร์ก และ 15% แนะนำว่างานที่ต้องการศักยภาพผู้นำ “สีดำ” นี่แหละเหมาะ

ส่วนสีที่โยนทิ้งได้เลยซึ่งเห็นพ้องตรงกันถึง 25% คือสีส้ม เพราะมันเป็นสีที่ข่มความเป็นมืออาชีพของคุณเสียมิดเลย

สำหรับสีอื่นที่สอดคล้องกับแขนงงาน หรือสร้างภาพลักษณ์ที่ดีก็ยังมีอีก และนี่คือสีที่พวกเขาแนะนำว่าจะสร้างโหงวเฮ้งให้เราได้

  • สีเทา: ตรรกะ / วิเคราะห์
  • ขาว: การจัดการ
  • สีน้ำตาล: เชื่อถือได้
  • สีแดง: พลัง

 

หาจุดเชื่อมโยงกับผู้สัมภาษณ์ให้เจอ

คนเราชอบคนที่ทัศนคติคล้ายกัน มันคือกฎแรงดึงดูด เรียกได้ว่าถ้าเราหาอะไรก็ตามที่ทำให้ผู้สัมภาษณ์เขารู้สึกว่าเรามีอย่างที่เหมือนกับเขา แต่ไม่ใช่การวางกับดักล่อให้เราตอบหรือพูดอะไรลงหลุมนะ แยกให้ออก จากนั้นให้เราพยายามต่อบทสนทนาแนวนี้กับผู้สัมภาษณ์เพื่อให้เขารู้สึกดี

ที่สำคัญอย่าลืมพูดเรื่องกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยเพราะมันเป็นแต้มบวกที่ทำให้คุณโดดเด่นกว่าใคร

 

สะท้อนภาษากายของผู้สัมภาษณ์

นี่ไม่ใช่เรื่อง Joke ไว้ล้อกันเล่นนะ แต่เขาแนะนำให้ทำท่าเลียนแบบผู้สัมภาษณ์แบบเนียน ๆ โดยนำมาจากหลักจิตวิทยาที่เรียกว่า “chameleon effect” ซึ่งว่าด้วยปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่อธิบายว่าคนเราจะชอบคนที่ทำท่าทางคล้ายกับตัวเอง

Patti Wood ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Body language หรือภาษากายเผยว่าการทำท่าให้สอดคล้องกับฝ่ายตรงข้ามที่เรากำลังคุยด้วยมันจะเหมือนกับการเต้นรำเนี่ยแหละ ถ้าเราไม่ขยับตาม คู่ของเราก็จะรู้สึกว่าเราไม่สนใจ ดังนั้น หากมีโอกาสลองลอบทำท่าทางให้คล้าย ๆ เขาไว้ แต่อย่าให้เขาจับได้ล่ะ เช่น ลักษณะการวางมือ การขยับตัวเอนหลังบนเก้าอี้ ฯลฯ

 

หวังว่าทั้ง 5 แทคติคง่าย ๆ นี้จะเป็นอีกช่องทางเพิ่มโอกาสพลิกให้พวกเราชาว UNLOCKMEN ที่กำลังขมีขมันตามหางานในฝัน ได้งานที่อยากได้ แต่ก็อย่าลืมล่ะว่าจิตวิทยาก็เป็นแค่บางส่วน อย่าพะวงจนลืมเผยความเจ๋งของผลงาน และความมั่นใจจากการพรีเซนต์ตัวเองรวมเข้าไปด้วยจะได้ครบเครื่อง

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line