MUSIC

ย้อนรอยความหนักหน่วง! กับ 8 อัลบั้มเพลงร็อกล้นคุณภาพช่วงปี 2006-2010 จากค่ายย่านอโศก

By: JEDDY January 11, 2023

ต่อเนื่องจากบทความ 12 ผลงานร็อกสุดคลาสสิคในช่วงปี 2000-2005 จากค่ายยักษ์ใหญ่ย่านอโศก วันนี้เรามาเจาะกันที่ช่วงปี 2006-2010 ว่ามีอัลบั้มอะไรที่โดดเด่นในช่วงนั้นบ้าง ซึ่งทาง Unlockmen ก็รวบรวมมาให้ทั้งหมด 8 ผลงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ


RETROSPECT

“UNLEASHED” (2007)

 

ในช่วงกลาง-ปลายยุค 2000’s คงไม่มีวงไหนโดดเด่นเท่ากับ Retrospect อีกแล้ว พวกเขาสถาปนาจากวงใต้ดินให้กลายเป็นวงร็อกระดับหัวแถวของประเทศจากอัลบั้มแรก “Unleashed” ที่มีพื้นฐานจากดนตรีสไตล์เมทัลคอร์ที่ถูกปรับจูนให้ฟังง่ายขึ้น จนเกิดเพลงฮิตแบบถล่มทลาย ไม่ว่าจะเป็น “เพราะว่ารัก”, “ปล่อยฉัน”, “ความฝันของเรา”, “สุดที่รัก” และ “ให้ฉันลืมเธอ” เป็นต้น เอาจริง ๆ ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ฮิตทุกเพลง

นอกจากความสำเร็จด้านดนตรี ด้านผู้นำแฟชั่นพวกเขาก็ชนะเลิศจากการแต่งตัวของ “แน็ป” ที่มาพร้อมกับเสื้อเชิร์ตลายสกอต, การปัดผมสไตล์อีโม รวมไปถึงการเจาะสักตามร่างกาย ทำให้ในช่วงนั้นเราได้เห็นวัยรุ่นแต่งตัวตามกันเต็มทั่วบ้านทั่วเมือง จนทำให้ทางงวงต้องเรียกแฟนเพลงเหล่านี้ว่า “เรทโทรเรี่ยน”

แถมแน็ปยังโดนข่าวลือปั่นกระแสว่าเจ้าตัวเป็นผู้หญิงผ่าตัดกล่องเสียงมาร้องเพลงแทนพี่ชายอีก ยิ่งทำให้ชื่อวง Retrospect เป็นที่พูดถึงมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เรื่องดังกล่าวจะเป็นการมโนขึ้นมาของใครซักคนก็ตาม


SWEET MULLET

“LIGHT HEAVYWEIGHT” (2007)

 

ตีคู่กันมากับวง Retrospect แถมยังเติบโตมาจากกลุ่ม Screamlab ด้วยกัน และออกผลงานในโปรเจกต์ Showroom Vol.1 ร่วมกัน จนในที่สุด Sweet Mullet ก็ได้ส่งผลงานชุดแรกในสไตล์ อีโม/สครีมโม/ร็อก ออกมาให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนทางดนตรีของพวกเขา

ผลงานเพลงแรกที่ส่งมาทักทายคือ “เพลงของคนโง่” เพลงช้าแต่มีภาคริธึ่มที่ดุดันมาก รวมไปถึงมีเสียงสครีมสุดหลอดลมของเต๋าให้ฟัง ซึ่งมันคือเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวที่โดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะต่อด้วยซิงเกิ้ล “หลอมละลาย” อีกทั้งยังมีเพลงอย่าง “หลับข้ามวัน”, “น้ำตา”, “ไกลสุดไกล” ที่ทำออกมาได้อย่างไพเราะ 

ส่วนใครชอบความเดือดก็คงเลือกเสพเพลงอย่าง “ลั่น”, “ใต้แสงไฟ” และ “ไต่เย้ยนรก” ที่ได้ “เอ๋ Ebola” มาร่วมแจมด้วย


NO MORE TEAR

“YELLOW LIGHT” (2008)

 

หากแน็ปเป็นไอคอนฝั่งผู้ชาย ฝ่ายผู้หญิงในช่วงนั้นก็ต้องเป็น “ฟักแฟง” นักร้องนำสาวจากวง No More Tear ทันทีที่พวกเขาปล่อยอัลบั้ม “Yellow Light” ออกมา มันก็เกิดกระแสฟีเวอร์ทันที เพราะแฟชั่นและคอสตูมของวงนี้มันโดดเด่นโดนใจเด็กอีโมดีเหลือเกิน

ส่วนผลงานเพลงสร้างชื่อ เช่น ฉันเป็น DJ. ให้เธอ”, “หัวใจหมดแรง”, “ล่องหน”, “ไม่กอดเธอไว้” และ “รักเคยดีกว่านี้”

พวกเขาจัดเป็นอีกหนึ่งวงที่เติบโตมาจากวงการอันเดอร์กราวน์ และสามารถขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองในโลกเมนสตรีมได้สำเร็จ


BIG ASS

“BEGIN” (2006)

 

หากมีคำถามว่าอัลบั้มไหนของวง Big Ass ที่หนักที่สุด คำตอบคงชัดเจนว่าจะต้องเป็นอัลบั้ม “Begin” อย่างแน่นอน กับสไตล์ดนตรีเมทัลคอร์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคนิคทางดนตรี ชนิดที่แอบทึ่ง เพราะไม่น่าเชื่อว่าค่ายยักษ์ใหญ่จะปล่อยให้ศิลปินใส่เต็มแบบไม่มีกั๊กได้ถึงขนาดนี้

ความจัดจ้านทางดนตรีที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองอันหนักหน่วง เราสามารถสัมผัสได้จากเพลง “ปลุกใจเสือป่า”, “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”, “อะไรกันนักกันหนา”, “Begins” และ “สิ่งกีดขวาง”

แม้ว่าจะมีเพลงอารมณ์สะใจให้เสพเยอะ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทิ้งเพลงเพราะ ๆ ติดหูที่มีทั้งเพลงเร็วและเพลงช้า เช่น “ข้าน้อยสมควรตาย”, “พรหมลิขิต” และ “สิ่งกีดขวาง”


BODYSLAM

“คราม” (2010)

 

อัลบั้มแรกของวง Bodyslam ที่เริ่มปรับเนื้อหามาทางปรัชญามากขึ้น และมันก็เป็นผลงานที่ส่งวงขึ้นไปถึงจุดพีค มีเพลงฮิตอยู่ทุกเพลงในอัลบั้ม เป็นการไต่ระดับนับตั้งแต่อัลบั้มแรกที่น่าประทับใจ 

ส่วนเพลงที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับคนฟังมาจนถึงปัจจุบันคงต้องยกให้ “แสงสุดท้าย” ที่เปรียบเสมือนเป็นเพลงชาติของวงไปแล้ว แถมเนื้อหาในเพลงยังเป็นกำลังใจชั้นดีอีกด้วย และอีกเพลงคือ “คิดฮอด” กับการดึงศิลปินสายลูกทุ่ง/หมอลำ อย่างศิริพร อำไพพงษ์ มาร่วมถ่ายทอดความเป็นอีสานเข้าไปในเพลงโมเดิร์นร็อกได้อย่างออกรส

อัลบั้มนี้ยังปูไปทางไปสู่คอนเสิร์ต “Live In คราม” ที่ราชมังคลากีฬาสถานอีกด้วย


POTATO

“CIRCLE” (2008)

 

เป็นอัลบั้มที่เราได้ฟังรายละเอียดดนตรีดี ๆ มากมาย ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการฟังมากนับตั้งแต่เพลงแรก “Circle” จนไปถึงเพลงสุดท้ายคือ “มีอะไรจะเล่าให้ฟัง” อีกทั้งยังมีส่วนผสมของสไตล์อีโมที่กำลังฮิตในช่วงนั้นมาพอสมควรเลยทีเดียว 

และอีกหนึ่งความพิเศษในอัลบั้มนี้คือเพลง “ยื้อ” ที่ทางวงได้ “เต๋า Sweet Mullet” มาร่วมแจมในท่อนสครีมสุดเดือด อีกทั้งเพลงนี้ยังถูกใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง “โลงต่อตาย” ด้วยเช่นกัน


EBOLA

“5:09” (2010)

 

อัลบั้มเดียวที่ทางวง Ebola ออกกับทาง genie records แม้จะก้าวข้ามมาอยู่ค่ายยักษ์ใหญ่แล้ว แต่ไวรัสพันธุ์ดุวงนี้ก็ไม่ได้ทิ้งความหนักของดนตรีออกไปแต่อย่างใด พิสูจน์ได้จากเพลงอย่าง “เอาให้ตาย”, “05:59”, “จดหมายถึงพระเจ้า”, “War Song”, “หนีไม่พ้น” และ “แผลเป็น”

ในขณะเดียวกับ Ebola ก็มีเพลงที่สามารถเข้าถึงง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น “ฉุดฉันขึ้นไป”, “ทางที่ดีกว่า” และ “วันที่ไม่มีจริง” 

ถ้ามองภาพรวมอัลบั้ม “05:59” มีการวางเมโลดี้การร้องที่น่าจะเพราะที่ชุดแล้วจากทุก ๆ ผลงานของวง Ebola


KLEAR

“STAY ALIVE” (2008)

เดบิวต์อัลบั้มของวง Klear และเป็นรากฐานของความสำเร็จในปัจจุบันของทางวง หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักเพลง “หาย” เพลงช้าในสไตล์ที่เราคุ้นเคยจากทางวงเป็นอย่างดี แต่แท้จริงแล้วอัลบั้ม “Stay Alive” ซ่อนไว้ด้วยเพลงหนัก ๆ มากมาย 

ไม่เชื่อลองไปฟังเพลง “ขอสักคน”, “เธอมัน”, “Stay Alive” และ “Hear Me” บอกได้เลยว่ามันส์มาก แถมยังมีเทคนิคทางดนตรีที่แพรวพราว มีสัดส่วนที่ไม่ธรรมดา แถมยังมีเสียงสครีมจากแพทให้ฟังอีกด้วย เสียงเธอโหดเอาเรื่องเลย

ทุกวันนี้คงยากแล้วที่เราจะได้ฟังวง Klear กลับมาเล่นในสไตล์นี้อีกครั้ง หรือแม้กระทั่งในคอนเสิร์ตเราก็คงไม่ได้เห็นการนำเพลงเหล่านี้มาเล่นแล้วเช่นกัน 


ผลงานทั้งหมดส่วนมากจะมีเพลงหนัก ๆ ให้ฟังกันแทบทั้งนั้น ใครรู้ตัวว่าตรงสายห้ามพลาดเด็ดขาดครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line