CARS

รับกระแสรถ 90s ขายดี ด้วย 5 JDM SPORTS CAR ที่ทุกคนหลงรักและควรกลับมารันวงการอีกครั้ง

By: Chaipohn July 27, 2021

คนที่เกิดในช่วงปี ’90s เหมือนผม และตอนเด็ก ๆ ที่บ้านไม่ได้มีฐานะดีจนสามารถซื้อรถเท่ ๆ ในยุคนั้นไหว น่าจะรู้สึกเสียดายโอกาสเพราะหลังพยายามทำงานเก็บเงินจนพอจะกลับไปไล่เก็บความฝันวัยเยาว์ได้ รถเจ๋ง ๆ เหล่านั้นกลับราคาขึ้นหนีไปไกลจนเกินเอื้อมอีกครั้ง ต่อให้รัก R34 แค่ไหน เจอราคาสิบล้านแบบปัจจุบันคงทำได้แต่มอง หรือจะไปเล่นรถรุ่นใหม่ที่ต่อยอดจากตำนานบทเก่าอย่าง NSX หรือ Supra ก็กลับรู้สึกว่าชอบตัวเก่ามากกว่า

แต่ก็ยังพอมีความหวังจากลิสต์ Sports car เลือด JDM ที่ได้รับความนิยมมากในอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่รอเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจะเปิดตัว generation ใหม่ออกมา ไปดูกันว่ามีรุ่นอะไรตรงใจให้พวกเราได้เฝ้ารอไปพร้อมกันบ้าง บอกเลยว่าแต่ละรุ่นที่คัดมา ถ้าเปิดตัวใหม่เมื่อไหร่ รับรองว่าเรียกเสียงฮือฮาและเสียงกดเงินจองกันได้กระหึ่มแน่นอน

เหลือเพียงจตุรเทพจากยุค ’90s เพียงหนึ่งเดียวคันนี้เท่านั้นที่ยังไม่มีรุ่นใหม่ออกไปปะทะกับ NSX, GT-R, SUPRA ซึ่งอาจจะถือเป็นโชคดีก็ได้ เพราะอีก 3 รุ่นที่ว่าเปิดตัวใหม่มาขัดใจแฟน ๆ ทั่วโลก จนราคารุ่นเก่าพุ่งพรวดกันยกแผง ซึ่งใครจะบอกว่าก็เคยมี RX-8 ที่ออกมาแล้วไง แต่จริง ๆ เรามองว่ามันไม่ใช่สายเลือดที่สืบทอดกันได้โดยตรง

นับตั้งแต่ ‘FB’ 1st generation ไปจนถึง ‘FC’ ใน generation ที่สอง และ ‘FD’ generation ที่สร้างชื่อเสียงให้ sports car จากตระกูล Mazda มากที่สุดรุ่นนึง ไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ที่คลาสสิคเหนือกาลเวลา เครื่องยนต์ 13B Rotary 1.3-liter twin-sequential turbocharged 252 horsepower เป็นยุคที่ bubble ของอุตสาหกรรมยานยนต์ถึงขีดจำกัดพอดี เทคโนโลยีและเครื่องยนต์ในยุคนั้นเรียกได้ว่าสร้างแบบ ‘Overbuilt’ คือจัดเต็มจนล้น ดีและทนสุด ๆ ไม่ใช่แค่ Mazda แต่รวมถึง Supra และ NSX ด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นใหม่ทำให้เห็นปัญหาคุณภาพการผลิตของเครื่อง 13B ใน RX-8 ได้ชัดเจนขึ้น และมีปัญหาจุกจิกในการใช้งานหลายอย่าง ทั้งเรื่องความร้อนในห้องโดยสาร ความทนของลูกสูบที่มักมีอาการถลอกเป็นรอยเพราะร้อนจัดเพียงด้านเดียว

หลังมีข่าวมากมายเกี่ยวกับโมเดลที่จะมาแทนที่ RX-7 อย่างเป็นทางการ แต่รอตั้งนานก็ไม่เห็นออกมาสักที ล่าสุดโรงงานใน Hiroshima มีข่าวว่าได้เริ่มกระบวนการผลิตเครื่องยนต์​ Rotary ใหม่อีกครั้งอย่างเงียบ ๆ น่าสนใจว่ามันอาจจะเป็นความหวังครั้งใหม่ของ New RX-7 ที่พวกเราเฝ้ารอมากที่สุดก็เป็นได้


เป็นโมเดลที่สร้างคำถามให้เราทุกครั้ง ว่าทำไมรถสปอร์ตเปิดหลังคาที่มีสไตล์โดดเด่น และมีความต้องการในหมู่ลูกค้าสูงมากอย่าง Honda S2000 ถึงไม่มีรุ่นใหม่ตามออกมา ยิ่งถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง AE86 หรือ MX-5 บอกเลยว่าไม่มีใครจะมาเทียบ S2000 ได้ในด้านภาพลักษณ์และความพิเศษของมัน

นับจากปีที่มันหยุดการผลิตลงมาถึงวันนี้ ก็ปาเข้าไป 12 ปีแล้ว (1999 – 2009) เรายังคงเฝ้ารอรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังจาก Honda เครื่องยนต์ 2.0-liter VTEC 237 horsepower ที่กระจายน้ำหนักได้แบบ 50-50 มองไปใน portfolio ของ Honda ตอนนี้ ก็ยังไม่มี sports car ทรงนี้มาแทนที่เลยแม้แต่คันเดียว (ไม่นับ S660 ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่เป็น kei car)

ก็ต้องลุ้นต่อไปว่า S2000 จะกลับมามีอนาคตอีกหรือไม่ หรือ Honda จะเดินหน้าหันไปพัฒนา Sports EV Concept ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนทดสอบ Prototype อยู่ในตอนนี้


แม้จะมีของดีแค่ไหน แต่ถ้ามันทำยอดขายไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะดึงดันลงทุน Mitsubishi จึงไม่คิดจะผลิตสุดยอดตำนาน rally ขับ 4 สุดแรงของตัวเองออกมาอีกเลยนับตั้งแต่ Evolution X Final Edition

อันที่จริงไม่ใช่แค่ Evolution แต่ไม่มีรถสปอร์ต หรือรถที่น่าตื่นเต้นแปะสัญลักษณ์ Ralliart ออกมาจากโรงงาน Mitsubishi อีกเลยแม้แต่รุ่นเดียว ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งยึดเหนี่ยวเดียวของวัยรุ่นกับแบรนด์ Mitsubishi จึงเหลือเพียงเพียงตำนานที่ยังคงหล่อเลี้ยงจิตใจ ทำให้เกิดคำถามเช่นกันว่า เมื่อไหร่จะใจอ่อนยอมผลิตรถสปอร์ตออกมาให้กระหึ่มโลกกับเขาบ้าง

แม้แต่ผู้ถือหุ้นของ Mitsubishi ยังแสดงความเห็นว่าต้องการให้นำตำนาน Rally sedan กลับมากู้ชื่ออีกครั้งในฐานะสัญลักษณ์แห่ง Performance และ Motorsport ของแบรนด์ แต่ก็ไม่วายโดนทางค่ายรถปัดตกไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะสถานการณ์การเงินที่จำกัด และบริษัทมองว่าโอกาสขายรถสปอร์ตซีดานในยุคที่ผู้คนต้องการ High-performance SUV และยุคพลังงานไฟฟ้านั้นไม่มีทางทำยอดขายได้ดีแน่ Takao Kato, Mitsubishi Motor’s President จึงปฏิเสธแผน reboot ตำนาน Evolution ลงไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนตัวเราคิดว่า ถ้า Mitusbishi แค่ปล่อย teaser ว่าจะมี Evolution XI ใหม่ผลิตในจำนวนจำกัด จินตนาการถึงข่าวในออนไลน์ที่จะพูดถึงมันว่าจะเยอะแค่ไหน และยอดขายที่น่าจะทำได้อย่างรวดเร็วถ้านำเสนอแบบ Limited Edition น่าจะเป็นไอเดียที่ท่านประธานควรพิจารณามาก ๆ


Nissan เป็นแบรนด์ที่มีความสุดขั้วอยู่ในตัวเองสูงมาก ฝั่งรถบ้านที่หลายคนอาจจะมองว่าขาดสีสันเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ฝั่งรถสปอร์ตนั้นสุดแกร่งอัดแน่นด้วยตำนานที่คนรักรถทุกคนตื่นเต้นได้เสมอ และมีตัวเล่นเยอะกว่าค่ายอื่น นอกจาก GT-R ที่เป็นตำนานทุกรุ่นทุกวัย ไปจนถึง Z400 ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งในสไตล์ retro เพื่อแทน 370Z เราคิดว่ายังมีตำนานอีกรุ่นที่น่าจะชุบชีวิตมันกลับมาด้วย นั่นคือ “Silvia” รถ Sport coupe บน Nissan S platform ที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ปี 1965 ถึง 2002

จากกระแสความนิยม ’90s JDM ทำให้ Nissan Silvia ได้อานิสงส์ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นราคาของ 200SX สภาพเดิม ๆ ที่ดีขึ้น หรือ S15 รถที่เรามองว่าดีไซน์สวยงามคลาสสิคแบบญี่ปุ่นมาก ๆ ก็ราคาดีขึ้นตามไปด้วย รถทรง 2 ประตู coupe’ ขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์ 2.0-liter SR20DET 250 hoursepower ที่วันนี้ยากจะหาคู่แข่งในญี่ปุ่นมาเทียบ

แม้เราจะอยากเชียร์ให้ชุบชีวิต Silvia ขึ้นมา แต่น่าจะเป็นความหวังที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะ Nissan ตัดสินใจยุติการผลิต Silvia ลงเพื่อลดจำนวน platform รถที่ซ้ำซ้อนหรือใกล้เคียงกัน ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียง FM platform ที่ใช้ในการผลิตได้ตั้งแต่ Fairlady Z, Skyline รวมถึง GT-R โฉมปัจจุบันด้วย


เป็นรถอีกรุ่นที่ชอบมากตั้งแต่ยังวัยรุ่น เป็นรถที่ฝันไว้ว่าโตขึ้นจะต้องเก็บเงินซื้อป้ายแดงให้ได้แน่ ๆ แต่ความฝันก็ต้องพังทลาย เพราะ Honda ตัดสินใจหยุดโปรเจคนี้ลงหลังผ่านไป 4 Generations แต่เป็น generation ที่กินระยะเวลานานตั้งแต่ปี 1985 – 2006 เหลือไว้เพียง Honda Civic Type R ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะการหดตัวของตลาดรถ Coupe’ ในยุคนั้น บวกกับบอดี้ในตัวถัง Hatchback ที่ได้รับความนิยมสูงจนสามารถทดแทน Integra ได้โดยปริยาย เพราะนอกจากบอดี้ภายนอก ทั้งเครื่องยนต์​ตระกูล K20 และการตกแต่งภายในของ Integra แทบจะเหมือน Civic Type R เป๊ะ

Integra Type R รุ่นสุดท้ายใช้รหัส DC5 เครื่อง K20A i-VTEC 220 horsepower เป็นรถที่ปัจจุบันยังหาซื้อมือสองได้ไม่ยากนัก และราคาไม่โหดร้ายมากเท่าคู่แข่งจากปีเดียวกัน แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึง New Honda Integra Type R DC6 พร้อมสเปคความแรงและความปลอดภัยที่ทันสมัย น่าจะเป็นโมเดลที่ทำให้สาวก Honda ตื่นเต้นได้มาก ถ้าจะไม่ทำ S2000 อย่างน้อยทำ Integra Type R ออกมาก็ยังดี

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line