“Do It Or Die 1” ของค่าย Music Bugs คืออัลบั้มรวมศิลปินที่เคยสร้างกระแสฮือฮาให้กับดนตรีนอกกระแสในปี 2005 เป็นอย่างมาก เพราะมันอุดมไปด้วยเหล่าวงที่เล่นดนตรีหนัก ๆ ที่ส่วนมากมาจากแวดวงอันเดอร์กราวน์ โดยมีวงรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงมาก่อนแล้วใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนฟัง นำโดย Basher, Oblivious, Bikini, Winky, Underfloor, Housetrap, Ritalinn, Zigg, Harem Belle และ Madame Dubois

ผลงานชุดนี้ถูกวางขายตรงกับกระแสดนตรีอีโมบูมทั่วโลกพอดี มันก็ยิ่งส่งผลให้ช่วยปลุกกระแสในบ้านเราขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่อเนื่องจากโปรเจกต์ Showroom 1 ของทาง genie records ที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้ โดยมีวงอย่าง Retrospect และ Sweet Mullet นำทางไปก่อนแล้ว

เรามาย้อนวันวานไปสัมผัสดนตรีที่ถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้ม “Do It Or Die 1” กันซักหน่อยดีกว่าครับ

BASHER

เป็นวงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโปรเจกต์นี้ พวกเขาโด่งดังมากับเพลงอย่าง “เสียดายของ” และ “เกินเลย” ที่ฮิตแบบทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าใครก็ร้องตามได้ และสำหรับในโปรเจกต์ “Do It Or Die 1” ด้วยความเป็นรุ่นพี่ทำให้ได้โควต้าถึง 2 เพลง ได้แก่ “คิดสั้น” และ “เคยตัว” กับดนตรีสไตล์อัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่จัดจ้านด้วยเมโลดี้และมีความไพเราะเป็นตัวชูโรง

สำหรับ Basher ในปัจจุบันสมาชิกได้แยกย้ายกันไปแล้ว เหลือเพียง “ปั้น” นักร้องนำของวงที่กลายเป็นศิลปินเดี่ยวกับทาง genie records ซึ่งมีซิงเกิ้ลล่าสุดคือเพลง “คนไม่มีหัวใจ”

OBLIVIOUS

พวกเขานิยามตัวเองว่าเป็นแนว “อัลเทอร์เนทีฟเมทัล” ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วพาร์ตดนตรีของพวกเขาก็มีส่วนผสมหลากหลายแนว ทั้งอีโมและเมทัลคอร์ เป็นต้น ส่วนเพลงที่อยู่ในโปรเจกต์นี้คือ “รับไม่ได้” ที่มาพร้อมกับพลังงานวัยรุ่น ใส่กันสุดแบบไม่เกรงใจใคร ทำให้ได้ดนตรีที่เพียวไปด้วยความมันส์

Oblivious เป็นอีกหนึ่งวงจาก “Do It Or Die 1” ที่ถูกเลือกให้ทำอัลบั้มเต็มออกมาอีก 2 ชุด ได้แก่ “More Sugar Extra Tattoo” และ “One Year Later” ก่อนที่จะแยกตัวกันไป โดย อาร์ท-ร้องนำ ไปทำวง Last Fight For Finish ส่วนเมย์ ไปเป็นมือกลองวง Labanoon แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมารวมตัวกันเมื่อปี 2019 จนถึงปัจจุัน โดยซิงเกิ้ลล่าสุดคือเพลง “เรื่องของกู”

BIKINI

ตัวแทนจากกลุ่ม Screamlab ที่เติบโตจากอัลบั้ม “I Love You” จนสุดท้ายได้กลายมาเป็นศิลปินในโปรเจกต์ “Do It Or Die 1” พวกเขามีการเปลี่ยนทิศทางของวงด้วยการทำเพลงให้ฟังง่ายขึ้น โดดเด่นด้วยจังหวะกรูฟสวย ๆ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนนักร้องนำที่สามารถร้องเสียงคลีนได้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งมันก็ถูกถ่ายทอดออกมาในเพลง “ปลดปล่อย”

Bikini เป็นอีกหนึ่งวงที่แฟน ๆ เรียกร้องให้มีอัลบั้มเต็ม แต่น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น โดยในปัจจุบันพวกเขาก็เป็นอีกวงที่กลับมารวมตัวกัน และมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง ผลงานล่าสุดคือซิงเกิ้ล “Monster” 

WINKY

พวกเขามาในแนวเรกเก้/สกา ที่มีสัดส่วนของดนตรีป๊อปร็อกเข้ามาด้วย “ไม่มีใครจะดีเหมือนเธอ” เป็นเพลงที่มีเนื้อหาค่อนข้างสดใส เกี่ยวกับการง้อคนที่รักให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง ถือเป็นการเบรคจากความหนักหน่วงจาก 2 เพลงก่อนหน้านี้ได้โอเคเลย พวกเขาเองเคยมีอัลบั้มที่ชื่อว่า “How Do You Do” ออกมาให้ฟังด้วย

ปัจจุบันไม่ทราบสถานะวง Winky ว่าแยกย้ายกันไปไหน เท่าที่ทราบคือ โอ๊ต-ร้องนำ กลายเป็นบาริสต้ากาแฟร้าน “ร้านกฤษณา วารี” ที่จังหวัดพังงาไปแล้ว

UNDERFLOOR

“ตรงข้ามกัน” ผลงานสไตล์โมเดิร์นร็อกสุดมันส์กับอารมณ์เจ็บปวด เพราะเนื้อหาบอกเล่าถึงอาการของคนถูกทิ้งที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ ดนตรีเพลงนี้ช่วงท้าย ๆ ใส่กันแบบหนักหน่วงเอาเรื่องไม่ใช่เล่น

Underfloor ปัจจุบันไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่มีฝีมือเรียบเรียงดนตรีที่ดีมาก ๆ

HOUSETRAP

วงดนรีที่หนักสุดในโปรเจกต์นี้กับสไตล์ดนตรี “สครีมโม/โพสต์ฮาร์ดคอร์” ในเพลง “Saturday Stays” ที่ซัดกันยับด้วยความเกรี้ยวกราด พวกเขาเติบโตมาจากกลุ่ม Screamlab เช่นกัน หลังจากเพลงในโปรเจกต์พวกเขามีโอกาสได้ทำซิงเกิ้ล “ลบเธอไม่ให้ลืม” ออกมาให้ฟัง

ภายหลังพวกเขาได้แยกตัวกัน โดยสมาชิกส่วนหนึ่งมาทำวง Ugoslabier และอีกส่วนออกไปทำวง The Rocket Whale

RITALINN

อีโมพังก์ฟอร์มร้อนแรงจาก “Do It Or Die 1” ด้วยเพลง “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้” ที่รุกเร้าอารมณ์จนถูกใจเด็กอีโมผมปัดเป๋ การแต่งตัวของพวกเขายังเตะตาตรงตามสไตล์ของดนตรีตัวเองแบบสุด ๆ หลังจากที่สร้างชื่อจากซิงเกิ้ลนี้ พวกเขาก็ถูกส่งไปทำอัลบั้มเต็ม จนได้ออกมาเป็น “Heaven And Hell” พร้อมเพลงฮิตอย่าง “ตายทั้งเป็น”

ปัจจุบันพวกเขามีผลงานเพลงออกมาให้ฟังอย่างต่อเนื่อง สำหรับซิงเกิ้ลล่าสุดคือ “เสียเวลา”

ZIGG

วงร็อกที่มาพร้อมกับเพลง “กลบเกลื่อน” ดนตรีรวม ๆ ทำออกมาค่อนข้างเอาใจตลาดบ้านเราเป็นหลัก ฟังง่าย เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็เป็นที่พูดถึงจากแฟนเพลงจำนวนไม่น้อยเช่นกัน จนทำให้มีอัลบั้ม “No Pain No Gain” ตามออกมาให้ฟัง

หลังจากวง Zigg แยกย้ายไป แชมป์-ร้องนำ ก็มาทำหน้าที่ให้กับวง SDF แทนจนถึงปัจจุบัน

HAREM BELLE

อีกหนึ่งศิลปินที่แจ้งเกิดได้จากโปรเจกต์นี้กับเพลง “น้ำตาเป็นเลือด” ดนตรีอีโมที่เล่าเรื่องความเจ็บปวดได้สุดอารมณ์ จนกลายเป็นเพลงฮิตประจำตู้คาราโอเกะขอเด็กฝึกร้องแหกปากในช่วงนั้น

โดยก่อนหน้าที่พวกเขาจะแจ้งเกิด Harem Belle เคยมีอีพีที่ชื่อว่า “Secret Of Darkness” ออกมา ซึ่งเต็มไปด้วยความดิบ แตกต่างจากสิ่งที่เราได้ฟังภายใต้ชายคาของ Music Bugs 

ส่วนเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางวงเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ล “หมาป่าเดียวดาย” ภายใต้สังกัด Vom Records ออกมา ใครชอบความเดือดรับรองว่าถูกใจแน่นอน

MADAME DUBOIS

ปิดท้ายกันด้วยเพลง “คนแปลกหน้า” กับซาวด์สไตล์นูเมทัล แม้จะหนักหน่วงแต่ก็เต็มไปด้วยท่วงทำนองที่น่าฟัง ถ้าหากให้เปรียบเทียบกับวงอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะมีความใกล้เคียงกับ Big Ass 

หลังจากที่มีผลงานในโปรเจกต์นี้เราก็ไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวของ Madame Dubois อีกเลย

“Do It Or Die 1” คืออีกหนึ่งผลงานแห่งประวัติศาสตร์วงการเพลงร็อกของประเทศไทย ที่สำคัญไม่แพ้อีกหลาย ๆ โปรเจกต์ใหญ่เลยแม้แต่น้อยครับ