adidas Stan Smith Hemp 4/20 รองเท้าสุดชิวรับวันกัญชาโลก

ปกติรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษๆ มักจะถูกผลิตออกมาเพื่อฉลองให้กับเหตุการณ์สำคัญๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับรองเท้าสำหรับโอกาสพิเศษ เอาใจคนเฉพาะกลุ่ม Stay Calm and Smoke Weed หรือแฟนคลับสายเขียว และที่ทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้น เพราะมันคือ BAIT x adidas Stan Smith Hemp 4/20 edition ที่แค่ชื่อก็น่าสนใจแล้ว

การ Collaboration ขั้นสุดครั้งนี้เกิดจากการร่วมมือกันของ BAIT ร้าน sneakers retailer ชื่อดังในย่าน West Coast ประเทศอเมริกา และ adidas Skateboarding ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเตรียมฉลองวันที่ 20 เดือน 4 หรือที่สายชิวสีเขียวรู้จักโค้ดลับ 4/20 (Four Twenty) นี้ดี

เผื่อคนที่อาจจะไม่คุ้นกับ 4/20 คำนี้หลายคนรู้กันดี แต่ว่ามีหลายความหมาย ส่วนใหญ่จะเข้าใจความหมายว่าเป็นวันกัญชาโลก หรือวันที่ผู้คนจะออกมารวมตัวสูบกัญชาในที่โล่งแจ้ง นอกจากนั้น 4/20 ยังถูกใช้เป็นรหัสลับในการนัดสูบกัญชา รวมถึงเป็นรหัสสำหรับตำรวจอเมริกาเวลาพบเจอการใช้กัญชาผิดกฎหมายด้วย แต่แท้จริงแล้วคำว่า 4/20 เกิดจากตำนานกลุ่มเพื่อน High School 5 คนในนาม The Waldos ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับไร่กัญชาขนาดใหญ่ที่มีคนไปเจอเข้า ทั้งกลุ่มจึงนัดกันออกตามหา โดยนัดเจอกันทุก 4:20 ของทุกวัน ก่อนจะขับรถออกไปตามหา พร้อมกับเติมกัญชาไประหว่างทาง กระทั่งกลายเป็นคำสากลโลกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ ประวัติเต็มๆ เดี่ยวไว้เราทำ Scoop แยกอีกที

BAIT x adidas Stan Smith Hemp 4/20 หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Happy 420” คู่นี้ใช้วัสดุจาก Hemp หรือกัญชง นำมาผ่านความร้อนแรงดันสูง ทำให้เหนียวทนทาน ตกแต่งลายให้ดูคล้ายลายไหม้เวลาเผากัญชาในไปป์ ตราสัญลักษณ์ adidas ด้านหลังเป็นหนังกลับสีเขียว เพื่อให้ดูคล้ายรายละเอียดของดอกกัญชาสด แถมป้าย Tab ถูกออกแบบให้ดูคล้าย Sticker แปะขวดยากัญชาอีกด้วย

ที่เจ๋งสุดๆ ของ Happy 420 คู่นี้คือ ใต้ลิ้นรองเท้าด้านในจะมีช่องสำหรับแอบเก็บของอยู่ด้วย ในเจตนาน่าจะเป็นลูกเล่นที่ออกแบบให้โดนใจชาววัชพืชมากกว่า สำหรับผู้ชายอย่างเราน่าจะใช้ซ่อนเงินภรรยามากกว่าซ่อนกัญชา เพราะในบ้านเรายังผิดกฎหมาย

น่าเสียดายที่  adidas Stan Smith Hemp 4/20 ไม่ใช่รองเท้าที่ซื้อง่ายๆ สำหรับนักสะสมจะต้องไปลงชื่อที่เว็บไซต์ BAITme.com เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีในราคา $120 หรือประมาณ 4,000 บาท งานนี้บอกให้ว่าใครได้มาครอบครอง น่าจะสามารถทำกำไรงามๆ ได้ไม่ยากเลย เพราะอย่างน้อย มันก็เป็น Stan Smith สุดฮิตในบ้านเรา