CARS

ALL-NEW 2023 ALFA ROMEO TONALE ขุมพลัง 2 ทางเลือก PHEV และ 2.0L TUBRO

By: Chaipohn February 9, 2022

เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตรงปกเป๊ะ สำหรับ Crossover คันแรกจาก Alfa Romeo หลังดีเลย์มานานเนื่องจากบอสใหญ่ไม่ค่อยพอใจดีไซน์มากนัก ในที่สุด Tonale ก็ถูกเปิดผ้าคลุมพร้อมเผยสเปกที่หลายคนเฝ้ารอมานาน

Alfa Romeo Tonale รถยนต์ Crossover ขุมพลัง plug-in hybrid คันแรกของค่าย คู่แข่ง Audi Q3 และ BMW X2 ชื่อได้จากภูเขาสูงใน Italy แสดงถึงความแข็งแกร่งมั่นคง

ดีไซน์ของ Tonale ใช้แรงบันดาลใจจากจุดเด่นของ Alfa Romeo ในอดีตหลายรุ่น ด้านข้างใช้เส้นสายจาก Guilia GT Junior เสริมมิติที่บึกบึน ตัวถังสไตล์ Coupe’ ตามสมัยนิยม ขนาดกำลังดีไม่ย้วยจนขับยาก ยาว 178.3 นิ้ว กว้าง 72.4 นิ้ว  ด้านหน้าได้ต้นแบบจาก 8C Competizione ไฟหน้า Trilobo เรียวยาวคล้ายของ SZ Zagato ฝังไฟดวงเล็กสามดวงไว้ด้านใน รวมถึงกระจังหน้าที่มีช่องดักลมและ Scudetto grille shield ดูดุดันเต็มอารมณ์สปอร์ตแตกต่างจากคู่แข่ง

ขุมพลังของ Alfa Romeo เปิดตัวมาพร้อมสองทางเลือก แบบแรกคือขุมพลังไฟฟ้า PHEV Q4 AWD มอเตอร์ไฟฟ้า 90-kW และแบตเตอรี่ lithium-ion 15.5-kilowatt-hour ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 4-cylinder 1.3-liter turbocharged เกียร์ 6-speed automatic ให้พละกำลังสูงสุด 272 horsepower ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ระยะทาง 48 km.

ส่วนขุมพลังแบบที่สอง Q4 AWD ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0-liter turbo-four จับคู่เกียร์ 9-speed automatic ให้พละกำลัง 256 horsepower แรงบิด 295 lb-ft

นอกจากขุมพลังที่แตกต่างกัน ทั้งสองทางเลือกมาพร้อมรูปแบบการขับขี่ 3 modes คือ Dual power Dynamic, Natural และ Advanced efficiency แม้สเปกจะฟังดูธรรมดาสำหรับยุคนี้ แต่ที่เก๋กว่าคือการเป็นรถรุ่นแรกในตลาดที่มี NFT digital certificate ระบุข้อมูลการใช้งานของรถและเจ้าของได้อย่างละเอียด เพื่อมูลค่าในการขายต่อที่ดี

ภายในของ Alfa Romeo Tonale ออกแบบได้อย่างสวยงามและทันสมัยมาก หน้าจอกลางคอนโซล touchscreen display ขนาด 10.25 นิ้ว ใส่ระบบ Uconnect 5 infotainment รุ่นใหม่ มี Apple CarPlay, Android Auto และ in-vehicle Amazon Alexa เป็นมาตรฐาน หน้าจอ digital instrument cluster บอกข้อมูลฝั่งคนขับขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบอัพเดทข้อมูลสำคัญแบบ Over-the-air ไม่ต้องเสียเวลาเอารถเข้าศูนย์

ตอนนี้เราทราบเพียงว่า Alfa Romeo เปิดตัว Tonale ด้วยสามรุ่นย่อย Sprint, Ti และ Veloce ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมน่าจะตามออกมาในไม่ช้า ดูจากรูปทรงและสเปคแล้ว น่าจะทำตลาดในบ้านเราได้ไม่ยาก

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line