Life

โมโหจนควบคุมตัวไม่อยู่ รู้จัก ANGER MANAGEMENT FAILURES และวิธีดูอาการว่าคุณเข้าข่ายปัญหานี้หรือไม่

By: Chaipohn February 16, 2019

เพราะคนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน ย่อมต้องมีอารมณ์ความรู้สึกผันผวนต่อสิ่งเร้าหลากหลายรูปแบบ เจอเรื่องดีๆ ก็อารมณ์ดี มีความสบายใจ ส่วนใครเจอเรื่องแย่ๆ ร้ายๆ ก็ต้องรู้สึกอารมณ์เสียเป็นธรรมดา แต่ในดีกรีไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะรับได้มากน้อยแตกต่างกันออกไป บางคนรับได้มาก ก็ไม่ค่อยจะโมโหกับเรื่องเล็กน้อยเท่าไหร่ แต่คนไหนจุดเดือดต่ำเกินไป เจอเรื่องกระทบจิตใจเข้านิดหน่อยก็พร้อมจะบันดาลโทสะ อาละวาด หรือหนักถึงขั้นลงมือลงไม้แบบขาดสติได้ และเมื่อไหร่ที่อารมณ์โกรธทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน นั่นแปลว่าเราต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างได้แล้ว ก่อนที่มันจะสร้างปัญหาให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราแย่ลง ทำลายชื่อเสียง หรืออาจถึงขั้นเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มักจะมีการโต้เถียงรวมเนื่องจากมุมมองความเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ดราม่าบนหน้า Social Media หรือแม้แต่ข่าวต่าง ๆ ก็๋ทำให้คนทะเลาะกันได้ง่าย ๆ เพียง Comment ไม่กี่ตัวอักษร ทำให้เห็นว่าหลายคนเริ่มมีปัญหานี้กันมากขึ้น เราจึงคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะชวนให้ทุกคนได้ลองสังเกตตัวเองดูว่า คุณกำลังเข้าข่ายมีความเสี่ยงเรื่องปัญหาการควบคุมอารมณ์โกรธ (Anger Management Failures) ของตัวเองอยู่หรือไม่?

 

สังเกตตัวเองดูว่าสามารถรับมืออารมณ์โกรธได้ดีแค่ไหน

โดยธรรมชาติแล้ว เมื่อมีใครมาทำให้เราเดือนร้อน ลำบาก ทำให้รู้สึกไม่พอใจ เป็นสาเหตุปกติที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธขึ้นได้ แต่หลายครั้งที่ความโกรธนั้นถูกแสดงออกมาผ่านพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งโดยที่เราไม่รู้ตัว การสังเกตตัวเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพื่อเช็คว่าตัวเราสามารถรับมือกับอารมณ์โกรธได้ดีหรือไม่

วิธีสังเกตตัวเองทำได้ไม่ยาก เริ่มจากการเช็คประวัติตัวเองย้อนหลังและจดบันทึกปัญหาใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นจากอารมณ์โมโหร้ายของตัวเอง เพราะคนที่มีปัญหาเรื่องควบคุมอารมณ์มักจะมีประวัติเจ็บ ๆ จากความโมโหจนเลยขอบเขตมาก่อน เช่น ผลเสียที่เกิดจากการโมโห หรือเคยใช้ความรุนแรงเกินจำเป็นจากการโมโห เช่นทำลายข้าวของเสียหาย ทำร้ายร่างกายคนอื่นจากสาเหตุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นการขับรถปาดกันไปมาเล็กน้อย จนลุกลามกลายเป็นอุบัติเหตุ หรือการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ที่มีผลทำให้ทะเลาะรุนแรงจนเสียเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทีมฟุตบอล ความเชื่อ หรือเรื่องการเมือง ถึงขั้นต่อยตีกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็น

 

จุดเดือดต่ำ ทำให้โมโหหน้ามืด

ถ้าคนปกติสามารถนับเลขได้ตั้งแต่ 1 – 10 เพื่อให้ใจเย็นลงได้ คนที่มีปัญหา Anger Management Failures มักจะนับได้แค่ 1 – 3 ก็จะถึงขีดจำกัดสติหลุดกระจุย และตอบสนองต่อปัญหานั้นด้วยความรุนแรง ไม่ว่าจะลืมตัวหรือรู้ตัวก็ตาม ซึ่งหลายคนมักประสบปัญหานี้จากการขับรถบนท้องถนน หรือในชีวิตการทำงาน เช่นมีรถขับช้าขวางทางอยู่ข้างหน้า หรือมีรถปาดหน้าแบบกระชั้นชิด คนที่มีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์อาจจะพุ่งไปแก้แค้นเอาคืนแบบหน้ามืด ลืมธุระ ลืมประชุม ลืมลูกลืมเมีย ขอให้ได้ปาดคืนเป็นสะใจ ในหลายกรณีก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือต่อยดั้งหักจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเถียงเรื่องงานกับเพื่อนในทีมที่มีความคิดเห็นต่างกัน จนลุกลามถึงขั้นเหม็นขี้หน้ากันไป ปล่อยให้อารมณ์โมโหครอบงำโดยไม่สนใจเรื่องของทีมหรือคนส่วนรวมเลยเป็นต้น

 

เก็บกดไว้ข้างใน ไม่เคยอาละวาด ใช่ว่าจะไม่เข้าข่ายเสี่ยง

หลายคนมั่นใจว่าตัวเองไม่มีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ แต่ที่จริงแล้วการจัดการเก็บอารมณ์โกรธไว้ข้างในโดยไม่แสดงออกมา ก็ใช่ว่าคุณจะไม่มีความเสี่ยง สิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีคืออาการที่แสดงออกทางร่างกายและจิตใจ เมื่อต้องเจอกับปัจจัยที่ทำให้โมโห เช่นเผลอขุดปัญหาเรื่องเก่า ๆ เดิม ๆ ที่ผ่านไปแล้วขึ้นมาจิกกัดทุกครั้งที่คน ๆ นั้นทำสิ่งที่คุณไม่ชอบ คุณอาจจะเผลอสร้างทัศนคติดูถูกคิดว่าคนอื่นช่างทำเรื่องโง่ ๆ ตลอดเวลา โดยที่บ่อยครั้งคุณก็ทำมันโดยไม่รู้ตัว หรือคุณสูบบุหรี่จัดขึ้น หันหน้าเข้าหาเหล้าเบียร์มากขึ้นทุกครั้งที่มีอารมณ์โมโห รวมถึงการแสดงออกทางร่างกาย เช่น การกัดฟัน ปวดหัว หน้ามืด ปวดท้อง เหงื่อออกบริเวณฝ่ามือ รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่ไม่เกิดขึ้นในเวลาปกติ

เนื่องจากเราอาจจะทำพฤติกรรมทั้งหมดที่ว่ามาแบบไม่รู้ตัว ดังนั้นสัญญาณอีกข้อที่ชัดเจนที่สุด คือการสังเกตจากความสัมพันธ์หรือเสียงบอกเล่าจากคนรอบข้าง ลองสังเกตว่าคนรอบข้างพยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียงกับคุณ คุณเป็นคนมีเพื่อนน้อย หรือถ้ามีคนเตือนคุณเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่ดีตอนมีอารมณ์โมโห นั่นแปลว่าถึงเวลาต้องพิจารณาเรื่องการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะมันไม่ใช่เรื่องปกติที่คนเราจะทักกันเล่น ๆ อย่างแน่นอน

 

ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเสี่ยงที่จะมีปัญหา Anger Management Failures

อารมณ์โมโหนั้น แม้จะเกิดขึ้นได้ง่ายจากสิ่งรอบตัว แต่ที่จริงแล้วมันสลายไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ไม่แปลกที่จะมีการเปรียบอารมณ์โมโหเป็นเปลวไฟ เราจะหยุดมันไม่ให้ลุกลาม ก็แค่ปล่อยให้ไฟนั้นดับไป หรือเราจะส่งกองไฟนั้นไปลุกลามเผาผลาญสิ่งอื่น ก็อยู่ที่ตัวเราเป็นคนกำหนดทั้งนั้น การนับ 1-10 เมื่อเรามีอารมณ์โกรธสามารถช่วยได้มาก เพราะเวลาแค่ 10 วินาทีก็มากพอจะทำให้ความโมโหนั้นหายไป

แต่ถ้าไม่สามารถควบคุมได้ ไม่สามารถนับได้แม้แต่ 1-3 เราขอแนะนำให้หาเวลาไปนั่งปรึกษาแพทย์ดู เพราะความเสี่ยงที่เกิดจากอารมณ์โมโหนั้นรุนแรงกว่าที่คิด หลากหลายตัวอย่างบนหน้าข่าวก็มีให้เห็นว่าการปล่อยให้ความโมโหเข้าครอบงำจนทำอะไรบ้า ๆ ลงไป สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจกันทุกรายเมื่อสติกลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นตัวเองเสียใจ หรือคนรอบข้างเสียใจก็ตาม ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า Anger Management Failures สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ในพริบตา ทำลายชื่อเสียง โอกาสงาน ทำลายธุรกิจ รวมถึงอนาคตที่สดใสพินาศย่อยยับได้ภายในคลิปความยาวเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น

เมื่อไหร่ที่มีคนทำให้หงุดหงิด ขอให้ท่องเอาไว้เสมอว่า ใจเย็นเข้าไว้ ท่องนะโม 3 จบ เมื่ออารมณ์เย็นลงแล้ว สติก็จะมา และปัญญาก็จะเกิดตามมาอย่างรวดเร็ว

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line