Business

Apple Inc. รายได้ดี แต่อนาคตไม่แน่นอน

By: Chaipohn July 26, 2015

ทันทีที่ Apple Inc. ประกาศ Annual Report ผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นของ Apple Inc. ร่วง 5% ทันที ทั้งๆที่บริษัทมีรายได้เกือบห้าหมื่นล้านเหรียญ แบ่งเป็นกำไรประมาณหนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านเหรียญ โดยรายได้หลักมาจาก iPhone เกือบ 70% หรือสามหมื่นหนึ่งพันล้านเหรียญ ทิ้งห่างสินค้าอื่นๆทั้งบริษัทรวมกันเช่น iPad, Mac, Apple Watch หรือบริการจาก iTune ไปไกล แต่ภาพรวมก็คือสินค้าทุกอย่างของ Apple มีรายได้โตขึ้นทั้งหมดยกเว้นสินค้ากลุ่ม Tablet ซึ่งอันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับ Apple แต่เป็น trend ของตลาด Tablet โดยรวมทั้งโลก คำถามคือ แล้วทำไมหุ้น Apple ถึงร่วง และอนาคตของ Apple จะเป็นยังไง

applestockprice

จากการวิเคราะห์ของผู้เขียน ก็มีทั้งสิ่งที่น่ากลัวและไม่น่ากลัว เริ่มจากสิ่งที่ไม่น่ากลัวก่อน ในภาพใหญ่ หุ้นกลุ่ม IT ตกทั้งพวง ในขณะที่ Microsoft รายงานขาดทุนหลายพันล้านเหรียญในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัท Apple ยังคงเป็นบริษัทที่มีผลกำไรจากรายได้สูงที่สุดในโลกอยู่ จากรายงานผลประกอบการ ทำให้เห็นว่าตัวเลขรายได้ (Revenue) เติบโตขึ้นถึง 33%, Earning per share ก็เพิ่มขึ้นเป็น $1.85$ จากเดิม 1.28$ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขาย iPhone และสิ่งที่ทำให้ราคาหุ้นของ Apple ร่วงนั้นก็มาจาก iPhone เช่นกัน เนื่องจาก Apple มียอดขาย iPhone ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้นิดหน่อย (Wall Steet คาดว่า iPhone น่าจะขายได้ประมาณ 48.7 ล้านเครื่อง แต่ยอดขายจริงทำได้ 47.5 ล้านเครื่อง เรามองว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น) ซึ่งการคาดการณ์นี้เป็นความเคยตัวของนักลงทุน เพราะ Apple มักจะสร้างสถิติยอดขายได้ทุกครั้งที่แนะนำ iPhone รุ่นใหม่ (Apple Investor Relations)

apple-store

ถ้ามองจากผลกำไรแบบผ่านๆก็เหมือนจะดูดี แต่ถ้าดูลึกๆจะเห็นว่านี่เป็นภาพที่ตอกย้ำว่าสินค้าใหม่ๆของ Apple ยังไม่สามารถทำตลาดแบบที่เคยเป็นมาในอดีต ซึ่งนี่คือคำถามที่เราและหลายๆคนมีขึ้นหลังจากเห็น iPhone 5, 6 กล่าวคือ ความตื่นเต้นที่คนมีให้ iPhone เริ่มลดน้อยลงหรือไม่? แล้วถ้า iPhone 7 8 9 เปิดตัวแบบไม่ทำให้สาวกร้องว้าว ทีนี้น่าจะเห็นปรากฏการณ์งานเข้า Apple อย่างหนักแน่นอน เพราะนั่นหมายถึงว่าแหล่งรายได้เกินครึ่งนึงของบริษัทจะหายไปทันที

อีกความน่าเป็นห่วงคือ ในยุคที่ไม่มี Jobs เราเห็น Apple เข็นสินค้าใหม่ๆออกมา ทั้งจากการลงทุนซื้อ Beat by Dre ไปสามพันล้านเหรียญ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ port ดูหวือหวามากนัก การเปิดตัว Macbook 12″ ก็ยังไม่สามารถสร้างยอดขายถล่มทลายได้ (จากการทดลองใช้งาน พบว่าการออกแบบที่บางเกินไป ไม่มีพัดลมระบายความร้อน รวมถึงสเปคโดยรวมทำให้การใช้งานยาวๆไม่สะดวกมากนัก) หรือ Apple Watch ที่หลายคนยังส่ายหัว ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องใช้งาน ยากจะมาแทนที่นาฬิกาเท่ๆบนข้อมือคนทั่วไปได้ ล่าสุดก็ Apple Music ที่ผู้เขียนลองใช้แล้วไม่ประทับใจเอาซะเลย ยังห่างไกลจากความเก๋าของเจ้าตลาด Music Streaming อย่าง Spotify พาลจะทำให้เลิก subscribe ในเร็ววันนี้แน่นอน

notnow

น่าติดตามจริงๆ และคนที่เป็นห่วงเรื่องนี้คงไม่ใช่มีแค่เรา ดูจากราคาหุ้นของ Apple Inc. ที่ตกลงมาประมาณ 5% และยังไม่สามารถกลับไปที่เดิมได้ ยิ่งสะท้อนว่านักลงทุนหลายๆคนก็คิดเหมือนเราเช่นกัน แต่อีกมุมนึง ถ้าถามนักลงทุนแนว Value Investor ก็จะมีมุมมองที่น่าสนใจว่า ในระยะยาว Apple ยังเป็นบริษัทที่แข็งแรงน่าคบหาอยู่แน่นอน ด้วยมูลค่าของแบรนด์ที่แข็งแรงมาก แถมยังต่างจากเหล่าค่าย Smartphone ที่เคยประสบปัญหาหนักๆจนกิจการเสียหายอย่าง Nokia หรือ RIM (Blackberry)  เพราะมีธุรกิจมากมายที่เกาะอยู่กับ Apple product และ service อยู่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นวงการออกแบบ วงการโฆษณา วงการอุตสาหกรรม ไปจนถึงวงการบันเทิง

ดังนั้นในช่วงนี้ เรายังคิดว่า Apple ยังดูดี แต่ตัวชี้ชะตาของบริษัทนี้ดูง่ายๆ คือยอดขาย iPhone ทุกครั้งที่เปิดตัวรุ่นใหม่ หรือถ้าจะสังเกตุแบบชาวบ้านๆ ลองดูจากความยากง่ายในการซื้อเครื่องครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเดินไปแล้วซื้อได้เลย ไม่มีคิวรอ (ซึ่งเกิดขึ้นให้เห็นในการซื้อ iPhone 6 ที่สามารถซื้อได้ง่ายดายกว่าตอนเปิดตัว iPhone 4-5 มากๆ) ก็จะรู้ได้เลยว่า Apple อยู่ในช่วงลำบากแน่นอน

appleold

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line