AUDI E-TRON S และ E-TRON SPORTBACK S ต้นแบบสปอร์ตเอสยูวีไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 ใน 4.5 วินาที

By: SPLESS March 4, 2020

Audi ถือเป็นอีกค่ายที่มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่นเตรียมไว้สำหรับแข่งขันในตลาดในอนาคต หนึ่งในนั้นคือเอสยูวีอย่าง E-Tron 55 Quattro ที่เปิดตัวรถคอนเซ็ปต์ครั้งแรกในปี 2015 และเพิ่งส่งมอบรถคันแรกในลูกค้าไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2019 ที่ผ่านมา

audi

หลังเปิดตัว E-Tron กลายเป็นรถที่ได้รับความนิยมได้ทั่วทวีปยุโรปด้วยยอดจองเกิน 10,000 คัน รั้งตำแหน่งรถยนต์ที่ถูกสั่งจองเป็นอันดับ 2 ในเดือนธันวาคมปี 2019 ของประเทศเนเธอแลนด์ แต่พร้อมกันนั้น Audi ก็ได้ทำการพัฒนา E-Tron ออกมาเป็นเอสยูวีครอสโอเวอร์ในชื่อ E-Tron S และ E-Tron Sportback S แต่รถทั้ง 2 คันจะพัฒนาขึ้นจากรุ่นมาตรฐานในจุดไหนบ้าง มาชมไปพร้อมกัน

เริ่มที่เรื่องสำคัญที่ทำให้ E-Tron S และ E-Tron Sportback S มีประสิทธิภาพมากขึ้น คือรถทั้ง 2 รุ่นเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ 1 ตัววางไว้ที่เพลาขับด้านหน้าและอีก 2 ตัวที่เพลาขับด้านหลัง ทั้งหมดให้พลังรวมกันที่ 320 Kw และแรงบิดที่ 973 Nm แต่ถ้าขับเคลื่อนในเกียร์ D และโหมด Boost พลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 370 Kw และแรงบิดที่ 808 Nm

พลังทั้งหมดทำให้ E-Tron S สามารถมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรในเวลาเพียง 4.5 วินาทีส่วน E-Tron Sportback S ทำให้ใน 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Audi เคลมว่ารถทั้ง 2 รุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้ระบบมอเตอร์แบบ 3 ตัว ซึ่งถ้าอยากครองตำแหน่งนั้นให้ได้จริง พวกเขาจะต้องเร่งขั้นตอนการผลิตแล้ว เพราะปัจจุบันค่ายแห่งอนาคตอย่าง Tesla ก็กำลังเตรียมผลิตระบบมอเตอร์ 3 ตัวลงใน Model S Model X Roadster รวมถึง Cybertruck ด้วยเช่นกัน

audi

อีกเรื่องที่ท้าทายของ Audi คือการเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาด 95 kWhเหมือนกับรุ่นก่อน ในขณะที่โมเดล E-Tron S และ E-Tron Sportback S มีระบบเสริมมากกว่า รวมถึงมีมอเตอร์เพิ่มขึ้นอีก 1 ตัวซึ่งอาจกระทบต่อระยะทางการใช้งาน แต่ Audi ก็เตรียมแผนสำรองไว้เป็นการเพิ่มแบตเตอรี่เข้าไปซึ่งมีผลต่อน้ำหนักรถโดยตรงหรืออาจเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงกว่าเดิม

Audi ยังไม่ได้ประกาศราคาของ E-Tron S และ E-Tron Sportback S ออกมา คาดว่าพวกเขาจะพัฒนาทั้ง 2 โมเดลเพื่อให้พร้อมสำหรับปี 2021