เมื่อพูดถึงประเทศเยอรมนี พวกเราอาจจะนึกถึงอยู่ไม่กี่อย่าง เช่นรถยนต์คุณภาพสูงอย่าง Porsche สาวผมบลอนด์สุดเซ็กซี่อย่าง Diane Kruger ความยิ่งใหญ่ด้านทีมฟุตบอลระดับโลก รวมถึงนักฟุตบอลชื่อดังอย่าง Miroslav Klose, Jurgen Klinsmann, Oliver Kahn และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “เบียร์” ประเทศเยอรมนีนับว่าขึ้นชื่อทางด้านคุณภาพที่เข้มงวดในการผลิตเบียร์ เป็นประเทศที่มีระดับการดื่มเยอะติด 1 ใน 3 ของโลกเสมอ และเทศกาลที่คนชอบเบียร์ทั่วโลกต่างต้องจองตั๋วไปเที่ยวเยอรมนี คือช่วงเทศกาล Oktoberfest ที่มีระยะเวลาลิ้มรสชาติเบียร์รสเยี่ยมยาวนานประมาณ 16 – 18 วัน จัดเป็นประจำทุกช่วงเดือนตุลาคม โดยมีตัวเลขสถิติการดื่มในช่วงเทศกาล Oktoberfest เบา ๆ อยู่ที่ 7.3 ล้านลิตรเท่านั้นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเหินฟ้าไปหาเบียร์ดี ๆ เฉพาะที่ประเทศเยอรมนีเท่านั้น เพราะในประเทศไทยเราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เบียร์ระดับพรีเมี่ยมสไตล์เยอรมัน แบบ German Quality ได้ อย่างล่าสุดที่เราได้ไปสัมผัสลิ้มรสชาติ ก็คือ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) นั่นเอง *เฟเดอร์บรอย (Federbräu) มาจากคำในภาษาเยอรมัน
จินตนาการถึงเสียงคลื่น หาดทราย แสงแดดที่กำลังกระทบแว่นกันแดดอันโปรดของคุณ ในระหว่างที่คุณกำลังจิบค็อกเทล กลิ่นหอมๆ ของเตาบาร์บีคิวก็พัดมาตามลม เพลงแจ๊ซร่วมสมัยกำลังบรรเลงสร้างบรรยากาศแสน ผ่อนคลายให้คุณ คนที่รัก เพื่อนๆ และครอบครัว วันพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความสุขนี้เกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน ที่ “SIWILAI CITY CLUB” social club (โซเชียล คลับ) พื้นที่สังสรรค์แห่งใหม่ที่รวบรวมวัฒนธรรมการกินดื่ม รวมไปถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์เชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลายไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บนชั้น 5 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่จะมายกระดับสุนทรียภาพของการใช้ชีวิตในเมืองให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ณ ใจกลางกรุงเทพฯ SIWILAI CITY CLUB อาณาจักรใหม่และเป็นส่วนขยายของแบรนด์ SIWILAI ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผู้นำในวงการศูนย์การค้าและไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย ให้มี คาแร็กเตอร์ที่เป็นตัวของตัวเองและรสนิยมที่ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ที่ยังคงยึดปรัชญาหลักของ SIWILAI นั่นคือ การคัดเลือกนำเสนอเทรนด์ร่วมสมัยในวิถีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่อันเป็นสากล แต่ก็ไม่ละทิ้งเอกลักษณ์กลิ่นอายความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เสียงดนตรี หรือค็อกเทล ซึ่งได้รับการคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ SIWILAI CITY CLUB มุ่งเน้นการสร้างความรู้สึกเพลิดเพลิน “สบาย สบาย” เหมือนอยู่ริมหาดสำหรับผู้มาเยือน
ในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง คนทำงานหาเช้ากินค่ำทุกคนย่อมต้องอยากได้รายได้หลายทางมากขึ้น ในยุคที่คนรุ่นใหม่มีความฝันและความใจร้อนมาก ด้วยความเชื่อที่ว่า คนสมัยนี้ต้องมีรายได้หลายช่องทาง จะมานั่งรออัพเกรดกันเป็นปีคงจะไม่ไหว เลยตัดสินใจใช้เวลาว่างจากการทำงานรับงานนอกไปด้วย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องชอบธรรม ทำไมล่ะ? ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน แถมตัวเราเองก็ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างครบถ้วนอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องแยกให้ออกคือ ฝิ่น หรืองานนอก ไม่ใช่ งานเสริม งานเสริมคืองานอดิเรก ที่เราใช้ความสามารถหาเงินจากเวลาว่าง โดยไม่ conflict กับงานที่ทำอยู่ แต่การรับงานนอก หรือที่ชาวออฟฟิศเรียกว่า รับฝิ่น เป็นการทำงานแบบเดียวกัน ให้หลายบริษัทพร้อมกัน ซึ่งมันกลายเป็นเทรนด์ที่ทุกคนมองเป็นเรื่องปกติ จนหลายคนเริ่มมีมุมมองกับฝิ่นผิดไป เมื่อตัวเลขเงินที่อยากได้มากขึ้น ฝิ่น ก็เข้ามาเบียดเบียนเวลาทำงานปกติและการพัฒนาศักยภาพมากขึ้น ต้องยอมรับว่าการทำฝิ่นเองนั้นมีข้อดี ช่วยทำเงินได้มากขึ้นในยุคการเงินติดขัด แต่ผลกระทบระยะยาวที่หลายคนมองข้ามไปก็มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งเราควรต้องคิดว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไรกันแน่ อยากเป็นใหญ่เป็นโตในบริษัท หรืออยากได้เงินหลายทางเร็ว ๆ แต่ไม่มั่นคงกันแน่? ได้เงินหลายทางจริง แต่อาจกระทบประสิทธิภาพ ผลตอบแทน และอนาคตที่มั่นคงจากงานหลักแน่นอน คนทำงานรุ่นใหม่หลายคนเข้าใจผิดไปว่า แค่ทำงานให้เสร็จตามที่กำหนดไว้ขั้นต่ำ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่คิดแบบนี้นั้น เป็นคนส่วนใหญ่ที่มีอยู่เต็มองค์กร ในขณะที่คนส่วนน้อยทุ่มเทให้งานประจำอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำให้เสร็จตาม KPI ขั้นต่ำที่บริษัทกำหนดไว้ แต่ทำเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เสมอ เสนอตัวทำงานอื่น
เมื่อหลายปีก่อน ใครชอบไปนั่ง hang out แถวซีนสเปซ ทองหล่อ เป็นต้องแวะลองหอยนางรมสดที่ร้าน The Raw Bar ถ่ายรูปสวย ๆ โพสลง instagram เป็นประจำ จนได้รับความนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว และการกินหอยนางรมสดนำเข้า ก็กลายเป็นเทรนด์ใหญ่ในกรุงเทพอย่างชัดเจน ดังนั้นจะเรียกว่า The Raw Bar เป็นตัวจุดระเบิดวัฒนธรรมศาสตร์การกินหอยนางรมสดนำเข้า คู่กับศิลป์การจับคู่ดื่มเครื่องดื่มกับอาหารทะเล เพื่อให้ได้รสชาติที่เติมเต็มอย่างแท้จริง เมื่อเรา forward ภาพวันนั้นมาสู่ปัจจุบัน ก็พบว่า The Raw Bar ได้ขยายร้านออกไปมากมายหลายแห่ง เป็นตัวชี้วัดความนิยมได้อย่างดี วันนี้เราจึงไปลองทุกเมนูของร้านนี้ เพื่อหยิบเมนูที่เป็น UNLOCKMEN’s PICK อร่อยถูกใจผู้ชายแน่นอนมาแนะนำ จุดเด่นของเมนูอาหารที่นี่คืออาหารทะเลขึ้นชื่อเรื่องมีรสชาติชัดเจนเฉพาะตัว และความสดก็คือหัวใจสำคัญ ยิ่งเมื่อนำมาปรุงโดยผู้ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญนั้น คงจะยิ่งเสริมรสชาติของวัตถุดิบให้ดีขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่ง ‘เดอะ รอว์ บาร์’ (The Raw Bar) นับว่าเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อระดับต้นในด้านนี้ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับเมนูหลักอย่าง หอยนางรมสดสายพันธุ์ดี, กุ้งล็อบสเตอร์ที่มีตั้งแต่ขนาดปานกลางไปจนถึงขนาดใหญ่
ถ้าพูดถึงผู้ชายระดับ Idol ผู้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ชายด้วยกัน ในนั้นจะต้องมีชื่อ เร แม๊คโดแนลด์ อยู่แน่นอน สำหรับอดีตวัยรุ่นยุค 90’s ไปจนถึงวัยรุ่นปัจจุบัน น่าจะรู้จักเร จากหลากหลายบทบาท ตั้งแต่พิธีกรรายการทีนทอล์ค บทบาทของอาร์ท จาก O-negative หรือบทบาทนักเดินทางใน Roaming Raymac ที่เร เปลี่ยนความชอบของตัวเองให้เป็นธุรกิจส่วนตัว สร้างผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม พูดได้เลยว่าจากอดีตถึง ณ วันนี้ สิ่งที่เราเห็นในตัว เร แม๊คโดแนลด์ ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ก็คือการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทำงานอย่างจริงจัง และเล่นให้เต็มที่ ด้วยบุคลิก หน้าตา และคาแรคเตอร์มาดกวนที่ชัดเจนของผู้ชายคนนี้ ทั้งหมดรวมกันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน นอกจากจะเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนคลับทั้งชายหญิงแล้ว ก็ยังเข้าตาแบรนด์แฟชั่นอย่าง Singha Life แบรนด์เสื้อผ้าที่มีความเท่ casual สวมใส่ง่าย ตรงกับความเป็นตัวตนของ เร แม๊คโดแนลด์ อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ธรรมดา แต่ทั้งเรและ Singha Life ได้จับมือร่วมงานกันเป็นเวลา 8 ปีต่อเนื่อง นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปี 2008
แนะนำจุดหมายที่เราใช้นั่งทำงานเป็นประจำ พร้อมเคล็ดลับวิธีสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ในการทำงาน
หลายคนรู้ว่า Mercedes-Benz มี AMG รู้ว่า BMW มี Alpina คงไม่มีนักเลงรถคนไหนไม่รู้จัก Porsche tuner ชื่อดัง ภายใต้แบรนด์พิเศษอย่าง Ruf ที่ได้รับการไว้วางใจในการสร้างตำนานรุ่นพิเศษให้กับทาง Porsche โดยใช้รถเปล่าที่เรียกว่า Body in white นำมาสร้างสรรค์ และตอกเลขตัวถังเองได้ โดยมักจะขึ้นต้นด้วย W09 หรือบางประเทศอาจจะทำไม่ได้ ก็สามารถส่ง Porsche เข้าไปให้ RUF ปรุกเสกได้เช่นกัน ตำนานที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักความเป็น Ruf ต้องย้อนกลับไปในปี 1987 วันที่ Ruf CTR Yellow Bird สีเหลืองสด กดความเร็วสร้างสถิติทะลุ 340 km/h ในสนาม Volkswagen’s Ehra-Lessein high-speed track in Germany ชื่อเสียงของ Ruf CTR Yello Bird ก็ขจรไกลตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ผ่านไป
เฟอร์นิเจอร์สวยงามหนึ่งชิ้นที่เราเห็นกันนั้น เบื้องหลังต้องผ่านกระบวนการออกแบบ และขั้นตอนการผลิตที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ดี ๆ แต่ละชิ้นนั้น แม้จะมีราคาที่สูง แต่มันมีอายุการใช้งานที่ยาวนานข้ามยุคสมัยได้ ทั้งในด้านความทนทานและการออกแบบ เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ที่เราชอบมาก แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อกันมากนัก เราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับแบรนด์ Republic of Fritz Hansen แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ระดับโลกสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ผลงานการออกแบบที่ไร้ซึ่งกาลเวลาของแบรนด์รวมเอาทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟไฟ และแอคเซสซอรี่ สุดคลาสสิค และร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน Republic of Fritz Hansen ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศเดนมาร์กตั้งแต่ปี ค.ศ. 1872 ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประวัติอันยาวนาน และผลิตชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์สำคัญ ๆ มากมาย ที่เป็นผลงานออกแบบร่วมกับนักออกแบบชื่อดังระดับโลก เพื่อทำให้คอนเซ็ปต์งานดีไซน์ของพวกเขามีชีวิตขึ้นมา และเป็นความจริงขึ้นมา CLASSIC COLLECTION สำหรับ Classic Collection ของ Republic of Fritz Hansen มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นพิเศษที่ทำขึ้นโดยสถาปนิก และดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์กหลายต่อหลายคน อาทิเช่น Egg™, Swan™ และ เก้าอี้ Series 7™
จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เอาใจวิสกี้เลิฟเวอร์ชาวไทย ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรม เพื่อ การรับรู้ครบทุกผัสสะ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงและการสัมผัส ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ มรดกตกทอดด้านการผสมวิสกี้ และการบุกเบิกในยุคแรกเริ่มของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในงาน “The Journey of Whisky Experiment” โดยจัดพื้นที่พิเศษ ในไสตล์เก๋ไก๋ร่วมสมัยกลางพื้นที่ Gourmet Garden ชั้นล่างของศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น มุ่งให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์ จากผู้เชี่ยวชาญการผสมสก็อตซ์วิสกี้ ตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2560 นี้ พื้นที่จัดงานสุดฮิปและเทรนดี้นี้ ได้แรงบันดาลใจจาก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เบลนเดอร์ส แบทช์ เรด ไรย์ ฟินิช (Johnnie Walker Blenders’ Batch Red Rye Finish) วิสกี้ลิมิเต็ดเอดิชั่นล่าสุด เป็นพื้นที่แห่งการทดลอง เรียนรู้และบอกเล่าเรื่องราว
ก่อนจะมาเป็นหัวหน้าที่มีลูกน้อง อาจจะเป็นตำแหน่ง Manager, Group Head หรือ Director ทุกคนต้องผ่านตำแหน่งเล็กๆกันมาก่อนทั้งนั้น ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีความคิดว่า ถ้าวันนึงเราได้เป็นหัวหน้าล่ะก็ เราจะต้องเป็นหัวหน้าที่เหมือนเพื่อน ใจดี เข้าอกเข้าใจ ไม่ว่าแม้ลูกน้องจะทำอะไรไม่ดี แต่ความเชื่อฝังหัวแบบนี้ อาจทำให้คุณเลยเถิดจากความเป็นหัวหน้า หน้าที่หลักคือบริหารทีม กลายเป็นเพื่อนร่วมงานอีกคน ซึ่งนั่นก็มีข้อดีในตัวของมัน แต่การเป็นเพื่อนสนิทมากเกินไป ต้องมีผลกับการตัดสินใจของคุณไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และมันอาจกระทบผลงานโดยรวมของทีมคุณ ไปจนถึงบริษัทได้ แล้วยังไงถึงเรียกว่าเลยเถิด การเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารที่ดี ไม่ใช่การทำตัวเป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้องตลอดเวลา ที่ถูกต้องคือการทำให้ลูกน้องนับถือในความสามารถ เพื่อให้ทีมมีประสิทธิภาพมากที่สุด แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ลองถามตัวเองดูว่าทุกวันนี้ ลูกน้องในทีมของคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้กับคุณหรือไม่ ลูกน้องของคุณทำงานไม่โอเค แต่คุณคอยแก้ตัวให้ลูกน้อง ถ้าคุณตามใจลูกน้องมากเกินไป สิ่งแรกที่อาจจะเกิดขึ้นคือความชิว ยกตัวอย่างเช่นลูกน้องของคุณมาทำงานสายขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณกลับหาเหตุผลเพื่ออธิบายกับคนอื่นแทนให้ หรือไม่ส่งงานตามวันที่กำหนด แต่คุณก็คิดว่ารออีกวันคงไม่เป็นไร ลูกน้องคุณคิดงานไม่ออก แต่คุณกลับบอกว่าเค้าอาจไม่ถนัดด้านนี้ ความคิดเหล่านี้เป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพงานของทีมคุณ รวมถึงของบริษัทอย่างมาก เพราะนั่นแปลว่าทีมคุณไม่มีระเบียบวินัย, Timeline ที่คุณตั้งเอาไว้ก็กระเทือน เวลาที่จะแก้งานก็ไม่มี คุณภาพงานที่ได้อาจจะไม่ดีพอสำหรับลูกค้า ซึ่งคนที่จะต้องรับผลกระทบทั้งหมด คือตัวคุณที่เป็นหัวหน้า คุณตัดสินใจด้วยตัวเองช้าลง เพราะมัวแต่ถามความเห็นจากลูกน้อง การเป็นหัวหน้าในยุค 2017 เราเห็นเพื่อนหลายคนเลือกที่จะเป็นหัวหน้าที่เข้าใจและรับฟัง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจอะไรสักอย่าง