พลิกโฉมนาฬิกาคอลเลคชั่นจาก MIDO ถือเป็นครั้งแรกสำหรับแบรนด์นาฬิกาดังจากสวิตเซอร์แลนด์ กับการสร้างสรรค์นาฬิกาจักรกลรุ่นใหม่อย่าง Commander Gradient ที่มาพร้อมกับหน้าปัดเล่นแสงเงา และสีเทาควันบุหรี่ที่ไล่เฉดสีไปจนถึงเห็นความโปร่งใสสามารถมองทะลุได้ จนเห็นชุดเฟืองของกลไกสุดยอดเยี่ยมอย่าง Caliber 80 ที่อยู่ใต้หน้าปัดจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวนาฬิกา ความเที่ยงตรงและการออกแบบที่มีความโดดเด่นของ Commander Gradient ทำให้เห็นถึงความแตกต่างที่ลงตัวในการดีไซน์ และชุดเข็มสีส้มที่เป็นโทนสีเอกลักษณ์ของ MIDO แนวคิดสถาปัตยกรรมที่อยู่เบื้องหลังสไตล์อันโดดเด่น เส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ และอยู่บนตัวเรือนของ Commander ถือเป็นภาพสะท้อนของเงาโครงสร้างหอไอเฟล และตัวเรือนที่มีจุดเด่นขอบบางเฉียบ รูปทรงแบบกลมแสดงให้เห็นถึงแนวโค้งของสถาปัตยกรรม หลักชั่วโมงและชุดเข็มที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมกับการขัดเงาบนพื้นผิวที่เป็นโลหะ เปรียบเหมือนโครงเหล็กของตัวหอไอเฟล ที่มีความโดดเด่นเหนือกาลเวลาและยืนท้าทายความเปลี่ยนแปลงของเวลามานานถึง 5 ทศวรรษ Mido ผลิตคอลเล็กชั่นออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องนับจากรุ่นแรกที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี 19591 เฉกเช่นเดียวกับหอไอเฟลที่มีชื่อเสียงของชาวปารีส คอลเล็กชั่น Commander ถือเป็นสัญลักษณ์แท้จริงของ MIDO เลยก็ว่าได้ ความแปลกใหม่ แต่ยังเผยให้เห็นถึงความดั้งเดิม หน้าปัดแบบโปร่งใสของ Commander Gradient ที่ชวนให้จับจ้องไปที่ชิ้นส่วนกลไกข้างใน แต่ยังคงความคล้ายหน้าปัดดั้งเดิมที่เป็นสีเทาควันบุหรี่ แต่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการไล่เฉดสีออกไปทางขอบนอกของหน้าปัด ดีไซน์ช่องวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกาถูกจัดวางอย่างลงตัว แผงหน้าปัดควบคุมระบบทั่วไปที่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจนเมื่ออยู่ในที่มืด หลักชั่วโมงที่ขัดเงา และชุดเข็มชั่วโมง-นาที ออกแบบให้มีรูปทรงแบบไดมอนด์คัต
กว่า 3,000 คนดู และ 10 ศิลปินแห่งยุค จัดเต็มความยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอยจริง ๆ สำหรับมิวสิคเฟสติวัลออนไลน์อินเตอร์แอครูปแบบใหม่ที่คนดูสามารถโต้ตอบกับศิลปินได้แบบเรียลไทม์อย่าง “Online Music Festival Top Hits Thailand” ที่ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเพลงไทยครั้งแรกของโลก เนรมิตความตระการตาเปลี่ยนฮอลล์สตูดิโอขนาดใหญ่เป็นลานคอนเสิร์ต ขนความสนุก #ฮิตแบบไม่มีอะไรมากั้น นำทีมโดย The TOYS / BOWKYLION / Scrubb / Jaylerr x Paris / INK Waruntorn / Tilly Birds / Three Man Down / Safeplanet / Mirrr และ Gungun นอกจากนั้นยังมีเซอร์ไพรส์จากวงฮิตระดับอินเตอร์อย่าง “Oh Wonder” ที่ส่งสัญญาณตรงจากเกาะอังกฤษ มามอบความสุขให้กับแฟนคลับชาวไทยอีกด้วย โดยในงานนี้จัดเต็มโปรดักชั่น ทั้งแสง-สี-เสียง และวิชวลพิเศษ ที่ทั้ง
นับตั้งแต่สิ้นสุดเสียงเคาท์ดาวน์และปฏิทินถูกเปลี่ยนเข้าสู่ปีใหม่ สิ่งที่ตามมาพร้อมกันในปีนี้ คือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก มาตราการต่าง ๆ ถูกประกาศออกมาเพื่อควบคุมสถานการณ์ หลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) เพื่อความปลอดภัย แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะจบลงเมื่อใด หลาย ๆ คนที่สวมบทบาทเจ้าของธุรกิจย่อมเผชิญกับความกดดันทั้งในแง่ของการนำพาธุรกิจให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงการดูแลพนักงาน หรือลูกน้องที่ทำงานร่วมกัน หากถามว่าการจะบริหารธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางเหตุการณ์ไม่ปกติเช่นนี้ ต้องมีวิธีคิดอย่างไร วันนี้เรามาลองฟังอีกหนึ่งมุมมองจากเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่า 15 ปี อย่าง “พี่เอ็ด” เจ้าของ “ร้านรสมือแม่” คนนี้กัน จากสัตวแพทย์สู่วิถีพ่อครัว “พี่เอ็ด” นายภัคพงศ์ พึ่งกัน ชายหนุ่มวัย 49 ปี อดีตสัตวแพทย์ที่เลือกฟังเสียงหัวใจตัวเอง ผู้กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ชอบอย่างจริงจังและสานต่อความฝันในวัยเด็กด้วยการเปิดธุรกิจร้านอาหารให้คุณแม่ หากใครที่อยู่แถวประชาชื่นคงคุ้นเคยกันดีกับ “ร้านรสมือแม่” ร้านอาหารเหนือแท้ ๆ ที่มีความพิถีพิถันใส่ใจในรสชาติ ความสะอาดของอาหาร รวมถึงคงคุณภาพให้มีความอร่อยแบบเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ร้านเปิดมานานถึง 15 ปี และมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น “ผมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ต้องห่างกับคุณแม่ พอโตมาเลยเก็บเงินซื้อบ้านเพื่อพาเขามาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ด้วยความที่คุณแม่ชอบทำอาหารอยู่แล้วและเราก็ไม่อยากให้เขาเหงา เลยมีความคิดที่จะเปิดร้านอาหารให้เป็นธุรกิจครอบครัวเพราะผมก็เริ่มอิ่มตัวกับงานสัตวแพทย์แล้วเช่นกัน โดยในช่วงแรกได้เน้นขายอาหารเหนือที่คุณแม่ถนัดแล้วจึงขยายไลน์เพิ่มเป็นอาหารตามสั่ง
หากช่วงนี้ใครกำลังเปื่อยอยู่บ้าน ไม่มีกิจกรรมอะไรสนุก ๆ ทำ อีกทั้งหนังและซีรีส์ที่กดเพิ่มไว้ใน My List ก็ดูจนจะหมดแล้ว ลองเปลี่ยนแนวมาดูอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ตกเทรนด์กับเรียลลิตี้ที่ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ต่างพูดถึงกันดีกว่าครับ ได้เปิดมุมมองและแง่คิดผ่านชีวิตของเหล่าผู้ร่วมรายการ วันนี้ UNLOCKMEN ขอมาแนะนำ 7 รายการเรียลลิตี้หลากแนวให้เป็นเพื่อนคู่ใจที่จะทำให้คุณหัวเราะ ตะลึง เบ้ปาก และซึ้งไปกับเรื่องราวมากมายในช่วงเวลาต้อนรับเดือนพฤษภาคมนี้กัน Too Hot To Handle (ฮอตนักจับไม่อยู่) ร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่กับ Too Hot To Handle ที่ล่าสุดขึ้นแท่นโชว์ยอดนิยมอันดับ 1 บน Netflix ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้พบกับหนุ่มสาวหน้าตาดีที่มาพร้อมกับหุ่นสุดปังในชุดว่ายน้ำฮอต ๆ โดยรายการจะเลือกผู้เข้าแข่งขันที่มีความคลั่งไคล้เรื่องเซ็กซ์เป็นชีวิตจิตใจมาอยู่ด้วยกันและห้ามไม่ให้พวกเขามีเซ็กซ์กันตลอดรายการ นี่คือโจทย์หลักและจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมากมาย ไปพบกับความฮา บ้า และก๋ากั่นของผู้เข้าแข่งขันที่จะพาคุณไปสำรวจแง่มุมของเซ็กส์และความสัมพันธ์ในแบบที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน Love is Blind (วิวาห์แปลกหน้า) “ความรักไม่จำเป็นต้องมองเห็นด้วยตา?” นี่คือคำถามหลักของเรียลลิตี้โชว์นี้ โดยรายการจะนำหนุ่มสาวมาเข้าร่วมการทดลองความรักโดยเลือกคนที่คุณอยากจะแต่งงานด้วยภายใต้เงื่อนไขที่ว่าคุณจะไม่มีสิทธิเห็นหน้าของอีกฝ่าย ทั้งหมดนี้เพื่อตอบคำถามที่ว่า ในโลกปัจจุบันคุณค่าของเรามักถูกตัดสินโดยรูปลักษณ์หรือภาพถ่ายบนแอปพลิเคชันหาคู่ การรักใครสักคนที่ตัวตนที่แท้จริงจะยังเป็นไปได้หรือไม่
หลังสร้างสถิติใหม่จนเป็นที่พูดถึงอย่างมากในงาน SIHH 2018 กับ “PIAGET ALTIPLANO ULTIMATE CONCEPT” เรือนเวลาระบบกลไกที่บางที่สุดในโลก ที่นอกจากจะเปิดตัวด้วยความหนาเพียง 2 มิลลิเมตรแล้ว แบรนด์ยังผนึกเอานวัตกรรมรอบด้านไว้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความลับด้านโครงสร้างของกลไกและตัวเรือนที่ออกแบบให้ผสานเป็นชิ้นเดียว เม็ดมะยมดีไซน์เฉพาะที่กลมกลืนไปกับตัวเรือนและกระจกที่บางเฉียบ กลไกที่มีกำลังลานสำรองนานถึง 40 ชั่วโมง เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า “เรือนเวลาที่แสนจะซับซ้อนและเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแบบนี้จะถูกผลิตเพื่อวางจำหน่ายหรือไม่ และถ้าเป็นเช่นนั้นไอเท็มชิ้นนี้จะเหมาะสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันสักแค่ไหน” คำตอบของเพียเจต์ก็คือ Yes และ Yes นั่นเอง โดยแบรนด์ให้เหตุผลว่า “PIAGET ALTIPLANO ULTIMATE CONCEPT” ไม่ได้เป็นเพียงการเผชิญความ ท้าทายในระดับ Micro engineering อีกต่อไป แต่เป็นการทำงานร่วมกันอย่างหนักของเหล่าทีมนักพัฒนา วิศวกร ช่างนาฬิกา นักออกแบบ เพื่อส่งมอบเรือนเวลาที่เพรียวบางสู่ผู้ใช้งานตัวจริง และนี่คือ เส้นทางสู่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จที่ทุกคนต่างรอคอย From Drawing Board to Your Wrist ย้อนกลับไปปี 1957 เพียเจต์ก้าวสู่โลกแห่งการปฏิวัติเรือนเวลาด้วยการเปิดตัวนาฬิกาดีไซน์บางเฉียบขึ้น ก่อนพัฒนาออกมาอีกหลายรุ่นจนกลายเป็นนาฬิการะบบกลไกที่บางที่สุดในโลก
สถานการณ์แพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันในหลาย ๆ ด้าน หลายคนต้องทำงานที่บ้าน งดการเดินทางไปยังที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งผลให้การใช้รถ ยนต์น้อยลงด้วย อย่างไรก็ดี การเตรียมรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอก็เป็นสิ่งจำเป็น เจ้าของรถควรหมั่นตรวจเช็กสภาพรถยนต์ และเตรียมอุปกรณ์จำเป็นติดไว้ในรถเสมอ วันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำวิธีเตรียมพร้อมในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือต้องใช้รถออกไปจับจ่ายซื้อของเพื่อใช้อุปโภคบริโภคในยามคับขัน ตรวจเช็ก เพื่อความชัวร์ เจ้าของรถสามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์และระดับของเหลวต่าง ๆ ในระบบเครื่องยนต์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง โดยสิ่งสำคัญที่ควรหมั่นตรวจเช็กให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน มีดังนี้ • ยาง หนึ่งในชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ เพราะนอกจากจะสัมผัสกับพื้นถนนตลอดเวลาแล้ว ยางยังต้องรับน้ำหนักรถและน้ำหนักจากการบรรทุกอีกด้วย เจ้าของรถยนต์จึงควรหมั่นตรวจเช็กสภาพยางและความดันลมยางให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ควรเปลี่ยนยางทันที หากพบว่ายางหรือดอกยางเริ่มเสื่อมสภาพ เช่นมีรอยแตกร้าวหรือบวมบริเวณหน้ายางหรือแก้มยาง หรือความลึกของดอกยางเหลือประมาณ 2.0 – 1.6 มิลลิเมตร • ไฟหน้า และที่ปัดน้ำฝน อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่หากคุณจำเป็นต้องใช้รถในยามกลางคืนหรือฝนตกควรหมั่นตรวจสอบว่าทั้งไฟหน้าและที่ปัดน้ำฝนรวมถึงยางใบปัดน้ำฝนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ • แบตเตอรี่รถยนต์ หมั่นตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่ว่าไม่มีความผิดปกติ หรือมีรอยแตกร้าว รวมถึงทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ • ของเหลวภายในรถ เป็นอีกสิ่งที่ควรหมั่นตรวจเช็กเป็นประจำ ทั้งในยามปกติหรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์
ขณะที่เทรนด์การทำงานจากที่บ้านหรือ “Work From Home” กับการทำงานแบบ BYOD (Bring Your Own Device) คือการนำอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวมาใช้ในการทำงานร่วมกันได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก แน่นอนว่าการใช้งานลักษณะนี้ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องโหว่ให้เหล่าอาชญากรไซเบอร์หรือแฮกเกอร์ฉวยโอกาสสร้างความเสียหายแก่ผู้ใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตหลายรูปแบบ ทั้งการตั้งเว็บไซต์ปลอม แพร่มัลแวร์ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง (Phishing) หรือเผยแพร่ข้อมูลปลอม (Fake news) นักวิจัยของแคสเปอร์สกี้ ได้ตรวจพบว่าเหล่าอาชญากรไซเบอร์กลุ่มนี้ใช้ความหวาดกลัวต่อโรคระบาดของคน โดยการปลอมแปลงเอกสารให้มีลักษณะคล้ายกับอีเมล์ของหน่วยงานภาครัฐ แล้วเมื่อไรที่ผู้ใช้กดเปิดลิงก์ที่แนบมาก็อาจถูกดึงข้อมูลไปได้ ดังนั้นการที่พนักงานออฟฟิศส่วนมากที่ใช้สมาร์ทดีไวซ์ส่วนตัวมาเรียกใช้ข้อมูลของหน่วยงาน อาทิ อ่านอีเมล์ของหน่วยงานผ่านแท็บเล็ตส่วนตัว ใช้โปรแกรมแชทแอปพลิเคชั่นพูดคุยเรื่องเนื้อหาในการทำงาน รวมถึงส่งข้อมูลสำคัญของบริษัทผ่านสมาร์ทโฟนส่วนตัวก็อาจเกิดอันตรายต่อการโจรกรรมข้อมูลได้ สมาร์ทดีไวซ์แบบไหนที่มั่นใจได้ในเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ให้ความสำคัญมากกับความปลอดภัยของข้อมูลที่มาพร้อมกับสมาร์ทดีไวซ์ทุกชนิดบนทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แน่นอนว่า ข้อดีของการใช้สมาร์ทดีไวซ์ของตนเองในการทำงาน คือ ความสะดวก รวดเร็วในการเข้าถึงทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบริษัท ไม่ต้องถ่ายโอนไฟล์ไปมา รวมถึงความคุ้นเคยในการใช้อุปกรณ์ แต่อย่างไรก็ตามความสะดวกสบายเหล่านี้อาจมาพร้อมกับความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ๆ ดังนั้น ข้อแนะนำการเลือกซื้อสมาร์ทดีไวซ์ ที่มาใช้งานมีดังนี้ 1. มีแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัย สมาร์ทโฟนควรได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดเครื่อง โดยควรเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกฝังอยู่ในเครื่องตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต และมีระบบมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
แม้ช่วงนี้อยู่บ้าน Work from Home กัน แต่ถึงอย่างนั้นผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็สามารถลุกขึ้นมาสนุกกับการแต่งตัวต้อนรับซัมเมอร์ไปกับไอเทมรองเท้าแตะหลากสไตล์ได้ UNLOCKMEN ขอแนะนำรองเท้าจากแบรนด์ชั้นนำที่มีดีไซน์ขวัญใจผู้ชายอย่าง Camper, Kenneth Cole, Geox, และ Birkenstock ที่จะทำให้การ Stay Home ไม่น่าเบื่อ แถมได้ครีเอทลุคสนุก ๆ มิกซ์แอนแมทช์แบบชิว ๆ ใส่ในบ้านหรือใส่ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตแบบมีสไตล์อีกด้วย Camper สำหรับรองเท้าแตะ Camper รุ่น ORUGA ของสุภาพบุรุษนั้น ความพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้คือมีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นได้ดีเนื่องจากพื้นรองเท้าด้านนอก (Outsole) ถูกออกแบบเป็นแนวตั้ง ส่วนพื้นรองเท้าด้านใน (Midsole) เลือกใช้พื้นที่มีความนุ่มสบาย ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกกระชับและเคลื่อนไหวได้คล่องตัว ปิดท้ายด้วยสายรัด (Strap) ที่ใช้วัสดุหนังเพื่อเพิ่มลูกเล่นเข้าไป กลายเป็นรองเท้าแตะรับซัมเมอร์ที่ให้ความแฟชั่นไปอีกแบบ Birkenstock เบอร์เคนสต๊อก (Birkenstock) เป็นรองเท้าที่โดดเด่นด้านการจัดวางตำแหน่งเท้าเพื่อสุขภาพและการวางท่วงท่าให้สบายขึ้น และตราสัญลักษณ์ของเยอรมันนั้นตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนมานานนับทศวรรษ โดยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่คงทนและสร้างการออกแบบที่น่าดึงดูด มีรุ่นยอดนิยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นมาดริด (Madrid) กิซ่า
การแพร่ระบาดของโควิด-19 นับได้ว่าเป็นวิกฤติครั้งสำคัญของประเทศที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างมาก คนกรุงส่วนใหญ่ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวและใช้ชีวิตในรูปแบบของการทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home ทว่าสำหรับใครอีกหลาย ๆ คน กลับไม่ได้โชคดีอย่างนั้น ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ภาคธุรกิจต้องหยุดชะงักเช่นนี้ ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องถูกพักงาน และบางคนก็ไม่มีงานให้กลับไปทำอีกแล้ว ใครที่กำลังสิ้นหวังกับสภาวการณ์ที่ไม่แน่นอนอยู่นั้น UNLOCKMEN อยากถ่ายทอดแง่คิดและแรงบันดาลใจดี ๆ จากนักสู้ชีวิตผู้ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา โอกาสมีอยู่ทุกที่ “ลุงพันธ์” หรือ นายจักรพันธ์ ช้อยสุชาติ วัย 65 ปี เคยคิดว่าหนทางข้างหน้าช่างริบหรี่เมื่อถึงวัยเกษียณ ด้วยงานรับจ้างอิสระเป็นคนคุมงานก่อสร้าง ทำให้มีรายได้ที่ไม่แน่นอนมาโดยตลอด ชีวิตหลังเกษียณไม่ได้มีเงินเก็บมากนัก และเงินสนับสนุนเพียงเดือนละหกร้อยบาทที่ได้รับจากภาครัฐก็ไม่เพียงพอที่จะจุนเจือครอบครัว จนกระทั่งตัดสินใจมาทำงานเป็นพนักงานส่งอาหารผ่านแกร็บตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา “ผมทำงานบ้านอยู่บ้านเฉย ๆ หลายปี ลำบากแล้วก็รู้สึกเบื่อมาก เพราะอาชีพรับจ้างที่เคยทำนั้นไม่ได้ให้รายได้ที่สม่ำเสมอ พอเกษียณออกมาเลยกลายเป็นว่าหน้าที่หารายได้หลักตกเป็นของภรรยา พอดีมีคนรู้จักขับแกร็บอยู่ เขาบอกว่าผมสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ก็เลยลองดู โชคดีที่แกร็บไม่มีการกำหนดอายุของพาร์ทเนอร์คนขับ ผมเลยได้โอกาสกลับมาทำงานอีกครั้ง จนตอนนี้ก็ขับมาได้ 6-7 เดือนแล้ว ก็ดีนะ ได้ออกมาข้างนอกทุกวันทำให้ผมไม่เหงา แถมยังมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้นด้วย” ลุงพันธ์เล่าต่อไปว่า ช่วงที่เริ่มทำงานใหม่ ๆ รายได้ค่อนข้างดี
ในปี 1970 วันที่ 11 เมษายน ภารกิจ Apollo 13 ถูกสั่งยกเลิก ทั้งลูกเรือบนยานหรือเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินล้วนไม่เคยประสบกับเรื่องระทึกขวัญเฉียดหายนะแบบนี้มาก่อน นักบินอวกาศมากประสบการณ์ James Lovell พร้อมลูกเรือได้รับมอบหมายภารกิจให้เดินทางไปดวงจันทร์ ซึ่งนับเป็นภารกิจนำมนุษย์ไปยังดวงจันทร์ครั้งที่สาม และเป็นผลงานความสำเร็จชิ้นถัดไปของโครงการอพอลโล นอกจาก Lovell ทั้ง Jack Swigert นักบินประจำยานควบคุม และ Fred Haise นักบินประจำยานสำรวจดวงจันทร์ ต่างก็สวมใส่นาฬิกาโครโนกราฟ OMEGA Speedmaster Professional – หนึ่งในอุปกรณ์อย่างเป็นทางการของ NASA สำหรับทุกภารกิจอวกาศที่มีมนุษย์นับตั้งแต่ปี 1965 ด้วยเช่นกัน เครื่องบอกเวลายังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์สำหรับภารกิจอย่างไม่มีผันแปร ตามที่ James Ragan วิศวกรของ NASA ที่เป็นผู้ทดสอบและรับรองมาตรฐานของ OMEGA Speedmaster กล่าวไว้เมื่อปี 1964 ว่า “นาฬิกาถือว่าเป็นอุปกรณ์สำรองที่มีความสำคัญยิ่งยวด หากนักบินอวกาศไม่สามารถติดต่อสถานีภาคพื้นได้ หรือเครื่องบอกเวลาดิจิตอลมีปัญหา ของชิ้นเดียวที่พวกเขาจะสามารถฝากชีวิตได้ก็คือนาฬิกาที่สวมอยู่บนข้อมือ ของที่ขาดเสียไม่ได้เมื่อมีปัญหา”