สองแบรนด์ใหญ่ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่องอย่าง ASICS และ Hasbro ได้ร่วมมือกันเปิดตัว ASICS x TRANSFORMERS คาแรคเตอร์ชื่อดังจาก Hasbro ที่จะมาอยู่บนแคปซูลคอลเลคชั่นของเอสิคซ์ในครั้งนี้ ทั้งสนีกเกอร์ เสื้อผ้า และแอ็กเซสซอรีอีกมากมาย ที่จะมาเอาใจเหล่าบรรดาสนีกเกอร์เฮดและแฟนทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ในคอลเลคชั่นนี้นำเสนอรองเท้าในรุ่น GEL-LYTE ™ V และ GEL-LYTE ™ V GS (สำหรับเด็ก) รองเท้ารูปแบบ 3-in-1 ที่ตัวรองเท้ามาพร้อมกับลูกเล่นที่สามารถปรับเปลี่ยนบริเวณลิ้นและด้านหลังเท้าได้ ทำให้ผู้สวมใส่สามารถปรับแต่งโมเดลได้ตามต้องการ ที่แต่ละส่วนของรองเท้าจะประกอบไปด้วยหนึ่งในสามตัวละครหลักจาก TRANSFORMERS อย่าง Optimus Prime, Bumblebee และ Megatron ให้คุณได้ตกแต่งรองเท้าเป็นตัวละครที่ชื่นชอบปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ของคุณเอง และยังสะท้อนถึงความสนุกสนานอันเป็นหัวใจหลักของของเล่นเอาไว้ได้อย่างลงตัว เสื้อยืด, ฮูดดี้, หมวก, กระเป๋ายิม และเสื้อผ้าสำหรับเด็ก พร้อมลูกเล่นอย่างแพทช์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงบนกล่องและด้านในรองเท้ายังตกแต่งด้วยลวดลายกราฟิกของคารแรคเตอร์ทรานส์ฟอร์มเมอร์สที่จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใส่ และชวนให้นึกถึงเรื่องราวอันน่าตื่นตาตื่นใจของคาแรคเตอร์ทรานส์ฟอร์มเมอร์สอีกด้วย ASICS x TRANSFORMERS GEL-LYTE ™ V ในราคา 4,200
หล่อสุดในงานนี้ต้องยกให้ Nissan หลังเปิดตัว GT-R รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันฉลองครบรอบ 50 ปี รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตสมรรถนะสูง ระดับตำนานของนิสสัน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019 Nissan GT-R รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 11.3 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรและการบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟโดยสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High Performance Center) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีที่พิเศษสุด จีที-อาร์ รุ่นพิเศษนี้จะมาในรูปแบบของการผสมผสาน สีภายนอกแบบทูโทนที่สืบทอดกันมาถึงสามยุค สื่อถึงความพิเศษของจีที-อาร์ จากการแข่ง
ด้วยความเข้าใจในความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อแคมเปญ ‘JOY is BMW’ ด้วยการสื่อสารผ่านคำง่าย ๆ แต่มีความหมายลึกซึ้งอย่างคำว่า ‘JOY’ โดยมุ่งรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือระดับผ่านโปรแกรม The Ultimate JOY Experience อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ได้ร่วมเปิดประสบการณ์ที่ยากจะมีใครได้สัมผัส ครบครันทั้งกิจกรรมไลฟ์สไตล์ในประเทศ และทริปต่างแดนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้สร้างความเร้าใจครั้งใหม่กับการพลิกโฉม JOY ด้วยกิจกรรมใหม่สุดพิเศษตลอดปี 2020 นี้ที่พร้อมเชื่อมโยงสาวก BMW และแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน ‘JOY’ คือตัวตนของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งเป็นโฟกัสของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการสร้างสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ควบคู่ไปกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้น JOY จึงเปรียบดั่งหัวใจของแบรนด์ที่แทรกซึมและขับเคลื่อนทุก ๆ สิ่งที่แบรนด์ทำ เพราะ BMW ไม่ได้สร้างแค่รถยนต์เท่านั้น แต่ได้สร้างความรู้สึกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และตอนนี้ได้มุ่งเน้นสร้างความ JOY ที่เหนือไปกว่าการขับขี่ด้วยประสบการณ์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายที่คัดสรรมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสายท่องเที่ยว สายกินดื่ม ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา รักสุขภาพ ขาช้อป หรือคนรักเสียงเพลงและความบันเทิง เชื่อว่าครบและตอบโจทย์ทุกคนอย่างแน่นอน ในช่วง
Dyson เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ที่นำระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาพัฒนาใช้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและปรับใช้งานได้ตามสภาพแวดล้อมส่วนตัว หนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนามานานมากกว่าทศวรรษ รวมถึงการพัฒนาดิจิตอลมอเตอร์ จากทีมวิศวกรถึง 315 คน ที่มีส่วนร่วมในโครงการและมีชิ้นส่วนต้นแบบมากกว่า 32,500 ชิ้น ตัวไมโครโปรเซสเซอร์ทั้งสามตัวของเครื่องดูดฝุ่น Dyson V11™ นำมาซึ่งการทำความสะอาดอันชาญฉลาดไปอีกขั้น ด้วยประสิทธิภาพการตรวจสอบได้สูงสุดถึง 8,000 ครั้งต่อวินาที ตัวไมโครโปรเซสเซอร์ทั้งสามจะติดตั้งอยู่ในตัวเซ็นเซอร์โหลดแบบไดนามิก ที่อยู่ในหัวแปรงทำความสะอาดแรงบิดสูง ภายใน Dyson ดิจิตอลมอเตอร์ V11 และในตัวแบตเตอรี่ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเหล่านี้ช่วยให้ระบบการดูดฝุ่นเปลี่ยนโหมดได้โดยอัตโนมัติตามประเภทของพื้น โดยผู้ใช้สามารถเห็นระยะเวลาใช้งานที่เหลืออยู่ได้ “เราได้มีการพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นมานานกว่า 25 ปี วิวัฒนาการของเราไม่เคยหยุดนิ่ง สำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ เราไม่เพียงมุ่งเน้ปรับปรุงประสิทธิภาพ แต่ยังได้เพิ่มระบบอัจฉริยะที่จะช่วยผู้ใช้งานทำความสะอาดได้อย่างแท้จริง” James Dyson กล่าว หัวแปรงทำความสะอาดแรงบิดสูงพร้อมเซ็นเซอร์โหลดแบบไดนามิก (DLS) ระบบ DLS ทำให้หัวทำความสะอาดมีเอกลักษณ์ สามารถตรวจจับแรงต้านทานของแถบแปรงได้ถึง 360 ครั้งต่อวินาที และจะทำการสื่อสารแบบอัตโนมัติไปยังตัวไมโคโปรเซสเซอร์ของมอเตอร์และแบตเตอรี่เพื่อทำการปรับเปลี่ยนโหมดพลังดูดระหว่าพื้นพรมและพื้นแข็ง ช่วยให้ทำความสะอาดพื้นพรมได้อย่างล้ำลึก และยังคงมีเวลาใช้งานเหลือพอที่จะทำความสะอาดพื้นประเภทแข็งต่อ หัวแปรงทำความสะอาดแรงบิดสูงคือหัวทำแปรงความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทรงพลังที่สุดของ
Dyson เปิดตัวเทคโนโลยีพัดลมกรองอากาศส่วนตัวเครื่องแรก Dyson Pure Cool Me™ ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีกรองอากาศและปล่อยกระแสลม ภายในเครื่องกรองที่มีรูปทรงทันสมัยกระทัดรัดเหมาะสำหรับการสร้างอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่ส่วนตัว ไม่ว่าเป็นบริเวณเตียงนอน โต๊ะทำงาน หรือห้องเด็กเล็ก เทคโนโลยีใหม่ Core Flow™ ส่วนตัวเปลี่ยนการปล่อยอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากกลไกควบคุมอากาศสร้างกระแสลมบริสุทธิ์ที่สม่ำเสมอให้คุณกำหนดการปล่อยกระแสลมในทิศทางที่ต้องการได้อย่างเที่ยงตรงตามต้องการ Dyson Pure Cool Me™ สร้างขึ้นจากการความเชี่ยวชาญด้านพลศาสตร์ของการไหล การกรองอากาศ การตรวจจับแสง และประสิทธิภาพด้านเสียงที่ เพื่อช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มอบอากาศสะอาดและลมเย็นให้คุณได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไดสัน ลงทุนในการวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ โดยการผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์เพื่อผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะที่สามารถช่วยแก้ปัญหาและส่งเสริมคุณภาพชีวิต เราใช้เวลาภายในอาคารมากถึง 90% พวกเราคือกลุ่มคนในยุคอินดอร์ ใช้เวลาทำงาน เรียน รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย ผ่อนคลายและหลับนอนภายในอาคาร1 ใช้เวลามากถึง 90% บรรยากาศในอาคาร ตั้งแต่อากาศที่หายใจเข้าประกอบด้วยฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และอุณหภูมิที่เราสัมผัส เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิต ในห้องนอน เราใช้เวลามากถึง 1 ใน 3 ของชีวิต 2 เราอาจพบสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds)จากเครื่องใช้ส่วนตัว
เวลาใครถามว่าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าถ้าเลือกได้ผู้ชายทุกคนก็อยากมองเห็นตัวเองประสบความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับและชื่นชมจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือแผนการต่าง ๆ ในชีวิต คงไม่มีใครที่อยากมองเห็นตัวเองล้มลุกคลุกคลานหยิบจับอะไรก็เหลวไม่เป็นท่าแน่นอน แล้วถ้าอยากเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จจะต้องทำยังไง บอกเลยว่าไม่ต้องเกิดมารูปหล่อพ่อรวยเสมอไป ของแบบนี้มันเริ่มต้นได้จากความคิดและการใช้ชีวิตของตัวเรานี่แหละ ดูอย่างแนวคิดของ TISSOT (ทิสโซต์) นาฬิกาชั้นนำสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์อายุ 166 ปี ที่ประสบความสำเร็จสุด ๆ โดยเฉพาะในวงการกีฬา ก็มีเคล็ดลับแห่งชัยชนะที่ถ้าผู้ชายคนไหนทำได้ เชื่อว่าความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเช่นกัน ถูกต้อง เที่ยงตรงและแม่นยำ สำคัญเสมอ รักจะมีชีวิตก้าวหน้า จะมาใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยคงไม่ได้ สำหรับ TISSOT (ทิสโซต์) ความถูกต้อง เที่ยงตรงและแม่นยำในการบอกเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทั้งนวัตกรรมและระบบกลไกต่าง ๆ จึงเน้นจุดนี้เป็นหลัก สร้างความเชื่อมั่นจนได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำและสาวกนาฬิกาทั่วโลก ในฐานะ Official Timekeeper หรือ ผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการให้เกมการแข่งขันกีฬาทั่วโลก เช่น MotoGP, NBA, FIBA และ Tour de France ผู้ชายหัวก้าวหน้าอย่างเราก็ไม่ต่างกัน ลองฝึกให้ตัวเองรักความเนี้ยบและเป๊ะเข้าไว้ อย่าคิดว่าเรื่องแค่นี้แล้วทำเบลอ ๆ
REV RUNNR (เรฟ รันเนอร์) ร้านค้ามัลติแบรนด์รันนิ่งสโตร์ (Multi Brand Running Store) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กีฬาวิ่งที่มีมากกว่าแค่รองเท้าโดยมาพร้อมอุปกรณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าสำหรับนักวิ่งทุกระดับและพนักงานที่ผ่านการอบรมพร้อมความรู้ ความเชียวชาญที่สามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างดี ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ และพัฒนาศักยภาพการวิ่งของคุณในทุกก้าว ด้วยการรวบรวมสินค้า อุปกรณ์ และบริการ ที่ตอบโจทย์นักวิ่งได้ครบครัน เพื่อต้อนรับครึ่งปีหลัง 2019 ด้วยรองเท้าวิ่งสุดฮอตที่ UNLOCKMEN คัดสรรมาเอาใจนักวิ่งทุกประเภททั้งหมด 7 คู่ จาก 7 แบรนด์ สร้างความท้าทายให้กับการวิ่ง HOKA ONE ONE Clifton 6 เริ่มต้นกันที่กลุ่มรองเท้าสำหรับวิ่งระยะไกลอย่าง HOKA ONE ONE Clifton 6 ที่ปรับปรุงหน้า ผ้าให้มีความกระชับและสวมใส่สบายมากขึ้น และรองรับแรงกระแทกสูง เหมาะกับการวิ่งทุกระยะ ในราคา 4,990 บาท Nike Air Zoom Pegasus 36 สุดยอดรองเท้าวิ่ง
นำทัพยนตรกรรมพรีเมียมมาสร้างความเร้าใจอีกครั้งในงาน BMW Xpo 2019 โดยในปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยูเตรียมยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว จากบีเอ็มดับเบิลยู M850i xDrive Convertible รถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นใหม่ล่าสุดที่พกพาสมรรถนะเหนือชั้น ผสานเข้ากับความหรูหราและความเอ็กซ์คลูซีฟไว้ได้อย่างลงตัว รวมถึงทัพรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูครบทุกตระกูลที่จะมาจัดแสดงในงานให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยข้อเสนอพิเศษพิเศษอีกมากมาย BMW ได้สร้างปรากฎการณ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดแสดงนวัตกรรมล้ำสมัยจากบีเอ็มดับเบิลยูที่ครบครันที่สุดในงาน BMW Xpo ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไฮไลท์ในปีนี้เป็นการสร้างนิยามใหม่ในเซกเมนต์รถสปอร์ตพรีเมียมอีกครั้ง ด้วยบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 8 รุ่นเปิดประทุน ที่ประกาศถึงเอกลักษณ์ดีไซน์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยที่สุดไว้อย่างลงตัว โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา BMW ได้นำเสนอยานยนต์ใหม่ ๆ จากบีเอ็มดับเบิลยูมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 ใหม่ที่มาพร้อมสมรรถนะความสปอร์ตยิ่งขึ้นในโฉมใหม่โดดเด่นสะดุดสายตา และบี เอ็มดับเบิลยู X7 สมาชิกใหม่ล่าสุดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู ที่นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่รถยนต์ในเซกเมนต์ SAV พรีเมียม ด้วยนวัตกรรมยานยนต์เหนือระดับที่ BMW ได้มอบให้แก่ลูกค้าตลอดมา BMW มั่นใจว่าบีเอ็มดับเบิลยูจะยังคงครองความสำเร็จในตลาดประเทศไทยตลอดทั้งปีนี้อย่างแน่นอน
The Residences at Mandarin Oriental จับมือ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และแมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเทล กรุ๊ป เปิดตัวโครงการฯ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท สุดยิ่งใหญ่ ด้วยอาคารสูง 52 ชั้น ที่อยู่อาศัยริมน้ำสุดอลังการ จำนวน 146 ยูนิต โครงการแรกภายใต้แบรนด์แมนดาริน โอเรียนเต็ล ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโครงการที่อยู่อาศัยอันดับที่ 7 ของโลก ออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมอย่างโดดเด่น ออกแบบภายใน โดย “จอยซ์ แวง” นักตกแต่งระดับโลก ครบครันด้วยบริการหรู สมบูรณ์แบบทั้งกลิ่นอาย บรรยากาศ และประสบการณ์ความเป็นไทย อบอุ่น เดินทางสะดวก พร้อมต้อนรับทั้งผู้อยู่อาศัย และผู้มาเยือน เปิดให้ครอบครองแล้ววันนี้ ภายในงาน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ River Clubhouse
‘เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019’ งานมหกรรมเรือนเวลาแห่งภูมิภาคเอเชีย สำหรับงานในปีนี้ G-SHOCK จัดเต็มด้วยการจำลองกลิ่นอายของโรงตีดาบ “กัซซัน” (GASSAN) ต้นตำหรับจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ที่เข้าชมได้สัมผัสถึงกลิ่นอายและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิกาไฮไลท์อย่าง MRG-G2000GA-1A จากตระกูลกันกระแทกอันโด่งดัง MR-G (Majesty Reality G-SHOCK) โดยนาฬิการุ่นนี้ป็นรุ่นพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกับกัซซัน ตระกูลช่างตีดาบจักรพรรดิ์เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น ที่สืบสานตำนานและฝีมือจากรุ่นสู่รุ่นมานานกว่า 800 ปี และได้มีการผลิตให้สะสมเพียง 300 เรือนทั่วโลกเท่านั้น ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมเพื่อความแข็งแกร่ง และยังมาพร้อมกับผิวสัมผัสที่สวยงามหรูหรา ผ่านทักษะของช่างฝีมือที่สร้างสรรค์คุณลักษณะของดาบอันประณีต นาฬิกา G-SHOCK MR-G Series รุ่น MRG-G2000GA-1A มาพร้อมกับกรอบ COBARION® ที่มีลวดลายของ Kissaki (ปลายดาบ) ตัวเรือนไทเทเนียมผ่านกระบวนการรีคริสตัลไลซ์ ซึ่งให้ความรู้สึกเสมือนลายคลื่นบนตัวดาบ และ เทคนิคการลงสีแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ผสมผสานกับเทคนิคการเคลือบ AIP® (Arc Ion Plating) สีม่วงเข้มที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีอาภรของชนชั้นสูงของญี่ปุ่นและขึ้นรูปโดดเด่นด้วยตัวเรือนและกรอบแบบ COBARION® ที่ตัดกันอย่างลงตัวกับสายไทเทเนียมอันมีลักษณะเฉพาะตัวของ Nakago (ด้ามดาบ) ช่วงกลางของสายมีลาย