พูดถึงอีกหนึ่งค็อกเทลบาร์ที่พลาดไม่ได้ในตอนนี้ เราอยากให้คุณได้ไปสัมผัส Midsummer Night’s Dream Bar ที่เพิ่งได้เปิดตัวเมนูองก์ใหม่ องก์แรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยค็อกเทล 15 ตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์รักร้ายชิ้นเอก A Midsummer Night’s Dream ของ William Shakespeare ว่าด้วยเรื่องราวความลุ่มหลง ปรารถนา ที่ผิดฝาผิดตัว ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละแก้วที่ได้ลิ้มลองมีรสสัมผัสที่พิถีพิถัน ต้องกลับไปซ้ำอีกแน่นอน ค็อกเทลบาร์แห่งนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยเมื่อเปิดประตูผ่าน Wynnwood Florist ในชั้นที่ 1 และเดินขึ้นบันใดวนมาที่ชั้น 2 จะเป็นค็อกเทลบาร์ที่เสิร์ฟซิกเนเจอร์ คลาสสิคและบีสโปคค็อกเทล โดยคอนเซปต์ของชั้นนี้จะเป็นสถานที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ นักดื่มหรือบาร์เทนเดอร์ ชั้น 3 ของร้านจะเป็น จินบาร์ ซึ่งถูกรวบรวมมาโดยเจ้าของร้านซึ่งหลงไหลในจิน ซึ่งทางร้านมีจินให้เลือกมากกว่า 90 ตัว โดยบาร์เทนเดอร์จะช่วยแนะนำโทนิกและการ์นิชที่เหมาะสมกับตัวจินที่ลูกค้าเลือกเพื่อมอบประสบการณ์การดื่มจินที่ล้ำลึก และยังเป็นชั้นที่ลูกค้าจะได้ดื่มด่ำกับการแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดีเจ วงดนตรีแจ๊ส ชั้น 4 ของร้านจะเป็น ไพรเวท
หากคุณกำลังมองหาหูฟัง เราขอแนะนำ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ก้าวใหม่สู่อีกระดับของหูฟังไร้สายมาตรฐานเรือธง ที่เข้าถึงคุณภาพเสียงทรงพลังผ่านลำโพงคู่ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet และระบบลดเสียงรบกวนรอบข้างสูงสุด 47 เดซิเบล ในราคาเพียง 6,499 บาทเท่านั้น สัมผัสสุนทรียะแห่งรายละเอียดเสียงด้วยลำโพงคู่ Dual-Speaker True Sound ที่พัฒนาร่วมกับ Devialet และการันตีคุณภาพเสียงผ่านการรับรอง HWA และ Hi-Res Audio Wireless HUAWEI FreeBuds Pro 2 ได้รับการพัฒนาร่วมกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Devialet เพื่อมอบประสบการณ์เสียงอะคูสติกที่ปรับจูนอย่างประณีต ให้คนรักเสียงเพลงได้เพลิดเพลินกับการฟังแบบไร้สาย โดยใช้ Bluetooth Codec LDAC™ และการันตีคุณภาพด้วยการรับรอง HWA ที่มอบคุณภาพเสียง Hi-Res Wireless Dual HD Audio HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อม Dual-Speaker True Sound
ASTRO Stuffs แบรนด์เสื้อผ้าของนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง ไบร์ท วชิรวิชญ์ กับไอเดียแบรนด์สร้างสรรค์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยจุดเด่นของแบรนด์ ASTRO Stuffs คือ ทุกทุกคอลเล็กชันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล รวมทั้งวัสดุที่ยั่งยืนอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมเรื่องการใช้ซ้ำ และการลดขยะในโลกใบนี้ CHILLIN’ SPACE COLLECTION เกิดจากแนวคิดที่อยากให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ผ่านแบรนด์ ASTRO Stuffs เพราะธรรมชาติคือแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งและเป็นพื้นที่ผ่อนคลายให้ทุกคนได้พักผ่อนและสร้างสรรค์ความสุข เราจึงคัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงดีไซน์ที่สะท้อนแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้สัมผัสธรรมชาติให้มากขึ้น เพราะธรรมชาตินั้นเป็นมิตรกับมนุษย์เสมอ คอลเลคชั่นนี้มีไอเทมที่น่าสนใจ เช่น แก้วซิลิโคนปราศจากสาร BPA พับ และพกพาได้ กระเป๋าผ้าฝ้ายรีไซเคิล 100% และเสื้อยืดลายพิเศษที่ร่วมออกแบบกราฟิกโดย Jonas Heen Haeg ศิลปิน digital collage art ชาวนอร์เวย์ โดยจะจัดจำหน่ายทาง astrostuffs.com และ LINE SHOPPING : ASTRO Stuffs
RAIMON LAND ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ส่งเสริมการมีสุขภาวะที่ดี หรือ Well-Being เน้นการมีสุขภาวะที่ดีอย่างแท้จริงเพราะเชื่อว่านี่คือความยั่งยืนที่เริ่มได้จากตัวเอง หนึ่งในเป้าหมายสำคัญขององค์กรระดับประเทศอย่าง RML ยึดถือและผลักดันมาตลอดคือ Good health and Well-being ที่ไม่เพียงแต่เริ่มต้นจากองค์กรเท่านั้น แต่ยังต้องการให้มีการขยายสู่สังคมวงกว้างให้มากที่สุด โดย กรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมด้วย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และเหล่าเซเลปที่มาร่วมงานมากมายอาทิ วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ, อัครรัฐ วรรณรัตน์, ปวริศา เพ็ญชาติ, เฌอปัฐน์ กิตติพรวริษฐ์ และ สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร กรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML กล่าวว่า “ในปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดี คนทั่วโลกเริ่มหันมาใส่ใจคุณภาพชีวิต และการดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นโดย
หากเอ่ยชื่อ “เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร” หลายคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีในฐานะเจ้าของร้าน Le Du (ฤดู) ร้านอาหารสไตล์ Fine dining ที่โดดเด่นด้วยแนวอาหารแบบไทยฟิวชั่นที่ถูกปากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากว่า 10 ปี นอกจาก Le Du แล้ว เชฟหนุ่มคนนี้ยังดูแลธุรกิจร้านอาหารอีกถึง 7 ร้านซึ่งมีแนวทางการสร้างสรรค์อาหารที่แตกต่างกัน หากนับชั่วโมงบินในวงการนี้แล้ว เชฟต้นถือเป็นเชฟมืออาชีพทั้งจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาและรางวัลการันตีความสามารถมากมาย และแม้จะต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อุปสรรคครั้งใหญ่ที่ทำให้ร้านอาหารหลายร้านต้องยอมถอย แต่ธุรกิจที่อยู่ภายใต้การบริหารของเขายังคงอยู่รอดมาได้ อะไรคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เชฟหนุ่มคนนี้ประสบความสำเร็จ วันนี้เราจะมาหาคำตอบจากเชฟหนุ่มคนนี้กัน ปรุงรสเสน่ห์อาหารไทยด้วยความโดดเด่น แตกต่าง และวัตถุดิบจากท้องถิ่น ย้อนกลับไปช่วงที่เชฟต้นเริ่มเปิดร้านอาหารเป็นครั้งแรก อาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ด้วยความชอบในอาหารไทยเป็นทุนเดิม จึงเป็นเหมือนแรงผลักดันให้เชฟหนุ่มคนนี้ทำตามความฝันที่จะเปิดร้านอาหารไทยฟิวชั่นในรูปแบบ Fine dining จนกลายเป็น Signature ประจำตัว “ผมมองว่าอาหารไทยคือสิ่งที่คนไทยเราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เราเติบโตมากับอาหารไทยตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะไปลองกินอาหารชาติไหน สุดท้ายเราก็อยากกลับมากินอาหารไทยอยู่ดี เพราะเป็นรสชาติที่คุ้นเคยและถูกปาก แม้แต่ชาวต่างชาติก็ยังชื่นชอบอาหารไทย แต่การยกระดับอาหารไทยขึ้นมาเสิร์ฟในรูปแบบ Fine dining นั้นเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะมุมมองของคนทั่วไปในเวลานั้น อาหารไทยหาทานที่ไหนก็ได้ ผมจึงให้ความสำคัญในการเลือกสรรวัตถุดิบและกรรมวิธีการปรุงรสเพื่อชูวัตถุดิบหลักให้ได้มากที่สุด ลองคิดนอกกรอบสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้เราได้เมนูที่แปลกใหม่แต่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นไทย
ในวันครบรอบ 60 ปี การเดินทางของยานอวกาศ Aurora 7 (ออโรร่า เซเว่น) นาฬิกาในตำนานที่มาพร้อมกับหน้าปัดบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ที่ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงภารกิจสำคัญในประวัติศาสตร์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Breitling (ไบร์ทลิ่ง)ได้ นำเสนอนาฬิกา Cosmonaute (คอสโมนอต) รุ่นดั้งเดิม ที่เคยเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1962 และได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาฬิกาเรือนนี้ ในยุค 1960s นาฬิกา Navitimer (เนวิไทเมอร์) ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) คือนาฬิกาสำหรับนักบินแบบไร้ที่ติแต่ในขณะแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการเดินทางและสำรวจอวกาศ และนั่นหมายความว่าโครงการสำรวจอวกาศอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิกาต่างพากันแข่งขัน เพื่อจะเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเรือนแรกบนข้อมือของนักบินอวกาศ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับการบินของ Breitling ทางให้แบรนด์กลายเป็นผู้นำของกลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1962 Breitling ได้อ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่า “นาฬิกาข้อมือจากสวิสเรือนแรกในอวกาศ” หลังจากที่นักบินอวกาศ ScottCarpenter โคจรรอบโลก 3 ครั้งในขณะที่สวมนาฬิกา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นประกาศความร่วมมือกับ คริส แรมซีย์ นักผจญภัยชาวอังกฤษ ในภารกิจผจญภัยขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้เป็นครั้งแรกของโลก การเดินทางที่กล้าหาญในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 แรมซีย์ และทีมจะออกเดินทางด้วย นิสสัน อริยะ (ARIYA) e-4ORCE เป็นระยะทางกว่า 27,000 กิโลเมตรผ่านหลายภูมิภาคและทวีปต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่ -30 ถึง 30 องศาเซลเซียส แรมซีย์จะเป็นมนุษย์คนแรกที่ขับขี่รถยนต์จากขั้วโลกหนึ่งไปอีกขั้วโลกหนึ่ง เขาจะเดินทางจากอาร์กติกผ่านทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ก่อนที่จะข้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เส้นทางดังกล่าวมีความเป็นที่สุดในทุกๆด้าน ทั้งความทรหด ความรุนแรง ความยากลำบาก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เริ่มจากภูมิประเทศที่มีน้ำแข็งปกคลุมไปจนถึงการข้ามผ่านเขาสูงชัน หรือลุยไปในเนินทรายอันกว้างใหญ่ ภารกิจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ หรือ Pole to Pole ที่ขับเคลื่อนโดยนิสสัน อริยะจะพาแฟน ๆ เดินทางผ่านเส้นทางที่น่าทึ่งและยังไม่ได้รับการบันทึกลงในแผนที่ฉบับไหน “นิสสันภูมิใจที่ประกาศความร่วมมือกับคริส แรมซีย์ และทีมสำรวจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ (Pole to
นาฬิกา อาร์โซ เลอ ตอมป์ส โวยาเชอร์ เรือนเวลาที่มอบการแสดงออกครั้งใหม่แห่งสไตล์ และเชื้อชวนให้หวนนึกถึงจิตวิญญาณของการเดินทางตามแบบวิถีแห่งแอร์เมส (Hermes) ที่เผยให้เห็นถึงการตีความใหม่เฉพาะหนึ่งเดียว กับการเดินทางผ่านหลากหลายชั่วโมงของโลก ด้วยจักรกล “ทราเวลลิงไทม์” (“Travelling time”) ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับแอร์เมส โดยมอบการแสดงแบบดิสก์ของทั้ง 24 ไทม์โซน และการโคจรของดวงดาวที่เคลื่อนหมุนด้วยแรงดึงดูดรอบแผนที่อันแสนแฟนตาซี นาฬิกา อาร์โซ (Arceau) เป็นผลงานการออกแบบโดย อองรี ดอริญี (Henry d’Origny) ในปี ค.ศ. 1978 ที่ได้มอบการแสดงออกครั้งใหม่แห่งสไตล์ และเชื้อชวนให้หวนนึกถึงจิตวิญญาณของการเดินทางตามแบบวิถีแห่งแอร์เมส (Hermes) โดยรังสรรค์ขึ้นภายใต้ตัวเรือนทรงกลมทำจากแพลทินัม และไทเทเนียม หรือสตีล พร้อมทั้งเอกลักษณ์ของหูตัวเรือนแบบอสมมาตร ที่เผยให้เห็นถึงการตีความใหม่เฉพาะหนึ่งเดียวโดยแอร์เมส ให้กับความสลับซับซ้อนภายในเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) อันแสนคลาสสิก กับการเดินทางผ่านหลากหลายชั่วโมงของโลก ด้วยจักรกล “ทราเวลลิง ไทม์” (“Travelling time”) ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับแอร์เมส โดยมอบการแสดงแบบดิสก์ของทั้ง 24 ไทม์โซน และการโคจรของดวงดาวที่เคลื่อนหมุนด้วยแรงดึงดูดรอบแผนที่อันแสนแฟนตาซี ซึ่งจินตนาการขึ้นโดย เฌอโรม
พูดถึง Youtuber สายอาร์ตที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักสาวสวยสายอาร์ทอย่าง คุณปั๋น ดริสา การพจน์ หรือ “Riety” YouTuber ที่มีผู้ติดตามในออนไลน์รวมกว่า 1.8 ล้านคน และใน YouTube Channel ของ Riety มียอดการรับชมสูงถึง 35 ล้านวิว ผลงานของเธอโดดเด่น ประณีต ก่อนหน้านี้คุณปั๋นได้ปล่อยวิดีโอ How to sell your art as NFT | วิธีลงขายงาน NFT ให้ความรู้และทำให้ผู้ติดตามได้เข้าใจโลกของ NFT มากขึ้น ล่าสุดจึงเป็นโอกาสดีที่คุณปั๋นได้นำงานศิลปะมาสร้างสรรค์และต่อยอดผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนจนกลายเป็นผลงาน NFT ซึ่งหลังจากปล่อยผลงานชิ้นแรกไปแล้ว คุณปั๋นได้เตรียมปั้นโปรเจกต์ใหม่ของตัวเองที่มีชื่อว่า ‘Hotel De Mentía’ โดยมี NFT จำนวน 10,000 คาแรกเตอร์ให้เลือกสะสม ที่มาของโปรเจกต์นี้เกิดจากความตั้งใจของคุณปั๋นและทีม Riety Studio ที่จะสร้างงานศิลปะ
ไม่ใช่คนจริง ๆ แต่มีตัวตนในโลกดิจิทัล เพราะพวกเขาเหล่านี้ที่เรากำลังจะแนะนำให้รู้จักคือ Virtual Influencer หรือ อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง ที่มีรูปร่าง หน้าตา สีผิว รวมถึงคาแร็กเตอร์ และสไตล์เหมือนคนจริงๆ ด้วยเทคโนโลยี AI ก้าวล้ำและไร้ขีดจำกัด ทำให้หลากหลายแบรนด์ดังแม้แต่ในฝั่งของแฟชั่นก็เลือกทำการตลาดโดยดึง Virtual Influencer ทั่วโลกมาร่วมงาน จากรูปลักษณ์อันโดดเด่น มีความเป็นตัวของตัวเองจนแตกต่าง เรียกว่าแต่ละคนปล่อยภาพไหนออกมาก็เท่ทุกมุม ดูดีทุกลุค สร้างรายได้มหาศาลให้กับครีเอเตอร์ เพราะ ‘มนุษย์เสมือนจริง’ คือตัวแทนของความทันสมัยและบ่งบอกถึงการเป็นแบรนด์ที่ก้าวนำโลกอีกด้วย ดังนั้นแม้ไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่พิสูจน์แล้วว่ามีอิทธิพลกับคนจริง ๆ ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีใครมาบ้างที่เราอยากแนะนำให้รู้จัก ‘กะทิ’ ชื่อภาษาไทยที่คุ้นเคยเพราะเธอคือ Virtual Influencer น้องใหม่ล่าสุดจากประเทศไทย เพิ่งเปิดตัวให้รู้จักเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะกะทิปรากฏตัวบนบิลบอร์ดใจกลางเมืองกรุงฯ รวมถึงเป็นอินฟลูฯ ช่วยโปรโมท LazLOOK ฟีเจอร์ของลาซาด้า ด้วยคาแรกเตอร์ของหญิงสาวสายแฟชั่น มีความมั่นใจสูงที่บอกผ่านสไตล์การแต่งตัวและแคปชั่นต่าง ๆ เช่น ‘ถึงกะทิเกิดมาผิวแทน ก็สแตนด์เอาท์ได้เด้อ’ หรือ ‘ถึงเป็นสาวอกเล็ก แต่ท่าโพสจะเล็กไม่ได้นะคะ’ เป็นการยืนยันว่าแม้จะมีผิวสีคล้ำ