ปี ค.ศ 1920 ที่เป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของบาร์ลับ หรือที่เราคุ้นเคยอย่าง “Speakeasy Bar” ซึ่งในยุคของ ค.ศ 1920 นั้นเป็นยุคที่อเมริกาห้ามขายเหล้า หรือที่เรียกว่า Prohibition ของอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่ห้ามผลิต และห้ามขายอย่างเด็ดขาด จึงเกิดเป็นยุคที่มีการลักลอบการขายเครื่องดื่มอย่างลับ ๆ แบบแอบเปิด จึงเป็นที่มาของคำว่า Speakeasy หรือแปลตรง ๆ ง่าย ๆ ว่า “ค่อย ๆ พูด” ซึ่งร้านพวกนี้จะต้องคุมเสียงไม่ให้ลูกค้าเสียงดังมากเกินไป ไม่งั้นเดี่ยวตำรวจจะมาจับเอา เล่าถึง Speakeasy ในปีค.ศ. 1920 ไปแล้ว เลยอยากชวนมารู้จัก Speakeasy Bar น้องใหม่ที่มีชื่อว่า “2463 Speakeasy” บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของโรงแรม Civic เอกมัย โดยชื่อของร้านคือปี พ.ศ. 2463 ซึ่งเท่ากับปี ค.ศ. 1920 ในการเริ่มยุคของ Speakeasy Bar นั่นเอง
แสนสิริ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำอสังหาฯลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทย รุกตลาดรับดีมานด์ล้น ส่ง BuGaan เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 ชั้น ใน Sansiri Luxury Collection กับ 3 โครงการใหม่ 3 ดีไซน์ที่แตกต่าง บน 3 สุดยอดทำเลไพร์ม “BuGaan Krungthep Kreetha” “BuGaan Pattanakarn” และ “BuGaan Rama9-Meng Jai” รวมมูลค่ากว่า 3,600 ลบ. มุ่งสู่ยอดขายโครงการลักซ์ชัวรี่รวมตามเป้าที่วางไว้ปีนี้กว่า 18,700 ลบ เผยโฉมที่แรก “BuGaan Krungthep Kreetha” มาสเตอร์ พีซการอยู่อาศัยระดับเวิลด์คลาสสไตล์ Modern Luxury ราคา 35-60 ลบ. เจาะกลุ่ม Young Successors พร้อมคลับเฮาส์ดีไซน์ยูนีค บน The Best Location
Vespa จัดเต็มฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้แคมเปญ “VIVA LA VESPA” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปี กับการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แบบฉบับอิตาเลียนขนานแท้ ที่ได้โลดแล่นสู่ประเทศไทย ในครั้งนี้ “เวสป้า” อัปเลเวลแห่งความสนุกสนาน และสีสันเทคโอเวอร์ทุกตารางเมตรของ LIDO CONNECT ให้ได้สัมผัสกับ TIMELESS ICON อย่างเต็มพิกัด ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์ที่เป็นมากกว่ายานพาหนะ ทั้งผู้คน สถานที่ ไลฟ์สไตล์ ศิลปะ ดนตรี วิถีชีวิต และเรื่องราว ผ่านการรังสรรค์ผลงานสุดครีเอทีฟในรูปแบบ VESPA EXPERIENCE POP-UP EXHIBITION ที่โชว์เรื่องราว และมุมมองผ่านผลงาน COLLABORATE COLLECTION การร่วมมือครั้งสำคัญกับศิลปินและแบรนด์ดังระดับโลก ดีไซน์ 5 รุ่นพิเศษ อาทิ SEAN WOTHERSPOON, JUSTIN BIEBER, CHRISTIAN DIOR, EMPORIO ARMANI และ องค์กร (RED) พร้อมอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญกับการเปิดตัวสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุด
Jim Thompson แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกของเมืองไทย เปิดตัวคอลเลกชัน Home Furnishings Spring Collections 2023 จาก 3 แบรนด์ดังในเครือทั้ง Jim Thompson, No.9 Thompson และ Fox Linton พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์สิ่งทอระดับหรูที่ตอบโจทย์การตกแต่งทุกรูปแบบ โดยเปิดตัวคอลเลกชันอย่างเป็นทางการ ณ โชว์รูมผ้าตกแต่งบ้านจิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ ผ่านการตกแต่งห้องตัวอย่างสุดหรูทั้ง 11 สไตล์ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวไทย ดาว-วิชดา สีตกะลิน โดยไฮไลต์การตกแต่งห้อง 5 สไตล์ที่ห้ามพลาดในโชว์รูมจิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ Wild Ember: สะดุดตาด้วยประกายแวววับของสีทอง บรอนซ์ และเหลืองมัสตาร์ดที่สว่างไสว ตัดกับผนังเหลือบเงาสไตล์ Metal Moiré ที่ถักทอด้วยเส้นไหมเงางามแบบเมทัลลิกสลับด้ายดำ ช่วยสร้างความลึกลับและน่าหลงใหลให้กับห้องนี้ พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยผ้าม่าน Railay สีทองมันวาวที่งามหรูในทุกรายละเอียด เสริมด้วยลวดลายสัตว์สไตล์ชนเผ่าที่สอดรับกับของประดับอย่างลงตัวทั้งกระจกเงาติดผนังหุ้มหนังลายจุดและโคมไฟตั้งโต๊ะที่สวยแปลกตาจาก Muse Design ช่วยเพิ่มบรรยากาศของการผจญภัยอันน่าตื่นใจให้กับห้องอันสง่างามแห่งนี้ Haute Hues:
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” (เดิมบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS) เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการด้านการเงินแบบครบวงจร โดยมุ่งเน้นบริการทั้งลูกค้า High net worth และลูกค้ารายย่อย เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี มีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุม มุ่งเน้นการพัฒนาบริการในช่องทางใหม่ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ทำรายได้รวมและจำนวนลูกค้าเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 39% เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดด้านหลักทรัพย์อยู่ในอันดับที่ 15 และส่วนแบ่งตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอยู่ในอันดับ 2 โดยปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมแห่งปี “TFEX Best Award of Honor 2022” หรือ TFEX Best Award 2022 ในด้าน Active Agent Award ติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปีซ้อน
แฟรงค์ มุลเลอร์ (Franck Muller) ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ คอร์ติน่า วอทช์ (Cortina Watch) ที่ได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียงสูงสุดแห่งวงการการค้าปลีกนาฬิกาของสิงคโปร์ด้วยซีรีส์ผลงานเรือนเวลาเฉลิมฉลองสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะเพียงหนึ่งเดียว โดยผู้ผลิตที่ได้รับการขนามนามว่า มาสเตอร์ ออฟ คอมพลิเคชันส (Master of Complications) รายนี้ ได้เผยโฉมคอลเลกชันอันวิจิตรประณีตของการรังสรรค์เรือนเวลาเฉพาะหนึ่งเดียว (pièce unique) ขึ้นใหม่ทั้งหมดห้าผลงานจากแนวคิดของนาฬิกาสลับซับซ้อนรุ่น เรโวลูชัน 3 สเกเลตัน (Revolution 3 Skeleton) ของ แฟรงค์ มุลเลอร์ ที่นำมาสร้างสรรค์ขึ้นพิเศษ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปี (Golden Jubilee) ของ คอร์ติน่า วอทช์ ในปีนี้ นาฬิกา เรโวลูชัน 3 สเกเลตัน ทั้งห้ารุ่นผลงานเอกลักษณ์ ที่ล้วนรังสรรค์ขึ้นด้วยมืออย่างพิถีพิถันละเอียดอ่อนโดยเหล่าศิลปินช่างระดับมาสเตอร์ ณ โรงงานการผลิต วอทช์แลนด์ (Watchland) ในเจนีวา ซึ่งแต่ละผลงานนั้นได้ร่วมรำลึกถึงมรดกแห่งสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นระหว่าง
เพียงเพราะการไม่อยากถูกจำกัดความ ทำให้ Dee sweetdrug หรือ ดี – ชาญณรงค์ ขลุกเอียด ศิลปินประยุกต์ (Applied Artist) ได้พัฒนาตนเองจากการทำงานศิลปะมาตั้งแต่สมัยเรียน ปี 1 ที่ศิลปากร ผู้ไม่เคยหยุดนิ่ง และมีโปรเจกต์งานศิลปะไอเดียล้ำมาให้ชมกันตลอดเวลา รวมถึงยังได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะประยุกต์ร่วมกับแบรนด์ดัง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมาแล้วมากมาย สั่งสมประสบการณ์จากการจัดแสดงผลงาน ทำงานประกวด ทำงานอีเวนต์ และได้เข้าร่วมแสดงในหลายรายการ จนกลายเป็น Applied Artist แถวหน้าของเมืองไทย ผู้ที่เชื่อว่างานศิลปะและงานออกแบบเกิดจากการ Applied เรื่องราวในอดีต และนำกลับมาเล่าใหม่ให้ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา และ Dee sweetdrung ก็เป็นศิลปินคนหนึ่งที่รู้ว่า ช่วงเวลานี้ จังหวะนี้ เรื่องราวนี้ ควรจะพูดถึงอะไร และนำสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับสี ลายเส้น และรูปลักษณ์ที่เคยมีมาแล้วให้ดีและแตกต่างกว่าเดิม นอกจากนี้เขายังเป็นศิลปินผู้ฉีกกฎการนำเสนองานศิลปะในรูปแบบเดิมๆ ไปสู่แนวความคิดที่สดใหม่ มีการนำมนต์เสน่ห์และวัฒนธรรมไทยมาเล่าสู่บริบทของงานศิลปะร่วมสมัยโดยนำเทคนิคอันหลากหลายตามแนวถนัด ไม่ว่าจะเป็น จิตรกรรม วาดเส้น ประติมากรรม สื่อผสม และศิลปะจัดวาง มาเป็นสื่อในการบอกเล่าเรื่องราวตามจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเขาได้อย่างน่าทึ่ง
หากเอ่ยถึงชื่อ Speedmaster ’57 แฟน ๆ OMEGA หลายคนน่าจะรู้กันดีว่านี่คือเรือนเวลาที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อสะท้อนความเป็น Sport and Racing Watch ของตระกูล Speedmaster ซึ่งส่งต่อตำนานการบอกเวลาอันยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ปี 1957 ล่าสุด OMEGA ก็พร้อมเผยโฉมรุ่นใหม่จากคอลเลคชั่น Speedmaster ’57 และยังได้นักแสดงชื่อดังจากสองฝั่งทวีปทั้ง ‘จอร์จ คลูนีย์’ และ ‘ฮยอนบิน’ มาร่วมกันเฉิดฉายในโฆษณาเรือนเวลาคอลเลคชั่นนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าทั้งคู่คือส่วนผสมที่เติมเต็มภาพลักษณ์ทั้งสองด้านของโครโนกราฟอันโด่งดัง คลูนีย์สื่อถึงสไตล์ที่คลาสสิกและตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับแคมเปญ อีกทั้งเป็นการตอกย้ำถึงสายสัมพันธ์ที่เขามีมาอย่างยาวนานกับ OMEGA ในขณะที่ดาราดาวรุ่ง ฮยอนบิน นั้นมาด้วยความเท่และจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยใหม่ที่ประกาศก้องถึงการพัฒนาของ Speedmaster ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับนาฬิกา Speedmaster ’57 ที่เป็นตัวแทน DNA การออกแบบดั้งเดิมของ Speedmaster ที่เผยโฉมเมื่อปี 1957 ซึ่งถือกำเนิดมาสำหรับนักแข่งรถและช่างเครื่องรวมถึงทีมงานในสนามประลองความเร็ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงต้นกำเนิด คอลเลคชั่น Speedmaster ’57 จึงประกอบไปด้วยนาฬิกาถึงแปดรุ่นใหม่ที่นำเสนอสไตล์ที่เพรียวบาง, หน้าปัดหลากสีสัน, สายนาฬิกาโลหะแบบวินเทจ รวมถึงกลไก Co-Axial Master Chronometer 9906 ชั้นเลิศ
ไซโก แบรนด์นาฬิกาที่มีอายุยาวนานถึง 140 ปี ผลิตและจำหน่ายนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาปลุก นาฬิกาแขวนรวมถึงนาฬิการะบบอื่น ๆ เช่นนาฬิกาจับเวลา ออกทำตลาดจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้ส่งมอบนาฬิกาข้อมือออกทำตลาดไปมากมายกว่า 1,000 รุ่นนับตั้งแต่ปี 1913 ชื่อเสียงของไซโกนั้นได้เริ่มจากการเป็นนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น ที่ผลิตในญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่น และได้รับการไว้วางใจในเรื่องของความแม่นยำและทนทาน นาฬิกาของไซโกในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาการผลิตได้อย่างชัดเจน และในนาฬิกาทุกรุ่นนั้นจะมีการใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไปมากมายจากการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของไซโก ซึ่งนั่นอาจมาจากปรัชญาของท่านประธานอย่าง ชินจิ ฮัตโตริ ที่ให้ไว้กับทุกคนว่า “One step ahead of the rest” ซึ่งหมายถึง “การต้องก้าวนำผู้อื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ” ทำให้แบรนด์ไซโกนั้น ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาจนปัจจุบัน นอกจากคุณภาพ ดีไซน์และฟังก์ชั่นอันยอดเยี่ยมของนาฬิกาแล้ว หัวใจสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือการบริการหลังการขาย ที่ต้องดูแลให้ได้อย่างครอบคลุม เราจึงได้ทำการพัฒนาและสร้างศูนย์บริการแห่งใหม่ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อดูแลและรองรับนาฬิกาที่จำหน่ายออกไปทุกรุ่น และมอบความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการของลูกค้า ในปัจจุบันนั้นศูนย์บริการของไซโก ได้ย้ายจากสาขาเพชรบุรี 35 มารวมกันกับสำนักงานใหญ่แล้ว ณ ตึกอิตัลไทย ทาวเวอร์ ชั้น 1 โดยสามารถรองรับนาฬิกาเพื่อเข้าซ่อมแซมได้ถึง 2,000 เรือนต่อเดือน และให้บริการครบวงจรตามมาตรฐานของศูนย์บริการจากประเทศญี่ปุ่น
สายใยแห่งความรักและความผูกพันระหว่าง “แม่” และ “ลูก” เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด เป็นแรงผลักดันที่ทำให้คนคนหนึ่งยอมลำบากและสามารถเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับอีกฝ่าย เนื่องในโอกาสวันแม่ปีนี้ แกร็บ ชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับสองพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสาวแกร่ง คุณหมอน – ศรีสมร เจริญสุข คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยอมลำบากล้มลุกคลุกคลานทำทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้ลูกๆ มีอนาคตที่สดใส และ คุณอ๋อย-สุจิตรา ปราชญ์เปรื่อง ลูกกตัญญูที่ไม่เคยหยุดทำงานเพื่อหาเลี้ยงแม่ผู้พิการ กับเรื่องราวที่สะท้อนความเสียสละและพลังแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อกำลังใจให้กับคุณแม่และลูกๆ ทุกคน คุณแม่นักสู้ ทำงานปลดหนี้เพื่อ “อนาคตที่ดีของลูก” คุณหมอน-ศรีสมร เจริญสุข คุณแม่ลูกสองวัย 57 ปีจากเชียงราย เล่าให้ฟังถึงชีวิตของการเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังตั้งแต่ลูกสาวคนเล็กอายุได้เพียง 3 ขวบ ว่าแต่ก่อนเธอหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำขนมไทยขาย แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่มากมายทำให้เธอต้องไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อใช้หมุนเวียนในครอบครัวจนกลายเป็นหนี้ก้อนโต รายได้ในแต่ละวันที่หามาได้กลายเป็นเงินที่พอใช้อยู่รอดไปวัน ๆ จนเมื่อเกิดวิกฤตโควิด ชีวิตของคุณหมอนต้องถึงจุดพลิกผัน เมื่อรายได้จากขายขนมเริ่มไม่เพียงพอ และลูกสาวคนเล็กกำลังจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก “ในวันที่ลูกสาวบอกว่าสอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในสาขาวิชาแอนนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ พี่ทั้งปลื้มใจและภูมิใจในตัวเขามาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเครียดและกดดัน เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แม้ว่าตอนนั้นลูกสาวจะกู้ กยศ. อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในฐานะคนเป็นแม่เราจะยอมแพ้ไม่ได้เพราะอนาคตของลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนั้นรู้สึกมืดแปดด้านมาก เพราะรายได้จากการขายขนมเริ่มจะไม่พอ จนวันหนึ่งเรามองไปบนถนนเห็นคนขับแกร็บขับส่งอาหาร เลยคิดว่าเราน่าจะขับได้นะ จึงตัดสินใจลองมาขับแกร็บหารายได้เสริมดู” เมื่อเริ่มขับแกร็บไปสักพักคุณหมอนเริ่มเห็นว่ารายได้จากการขับแกร็บดีกว่าการขายขนม