เมื่อการขับเคลื่อนไปบนถนนไม่จำกัดจำนวนล้ออยู่แค่เลขคู่เท่านั้น จึงเป็นที่มาของ Vanderhall Venice Speedster รถ 3 ล้อสายสปีดที่มาพร้อมกับความแรงกว่า 180 แรงม้า เรียกว่ารถซูเปอร์คาร์ 4 ล้อบางคันยังต้องชิดซ้ายเลยทีเดียว Vanderhall Venice Speedster คือรถรุ่นใหม่แห่งค่าย Vanderhall ซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการ 3 ล้อความเร็วสูงมาอย่างยาวนาน และคราวนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมความเร็วที่มากกว่าเดิม Vanderhall Venice Speedster รถ 3 ล้อ 1 ที่นั่ง มาในรูปทรงสุดคลาสสิคที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึง 3 ล้อยุคเก่าในบรรยากาศภาพขาวดำ ซึ่งแตกต่างกับสมรรถนะภายในโดยสิ้นเชิง และหนึ่งสิ่งที่พิเศษสุด ๆ สำหรับเจ้า 3 ล้อคันนี้คือในส่วนของที่นั่งคนขับนั้นประกอบมาจากชิ้นส่วนเครื่องบิน นอกจากนั้นยังเพิ่มความ Vintage เข้าไปอีกด้วยโทนสีเงินโลหะตัดกับสีน้ำตาลของเบาะนั่ง ภายนอกยังสวยเฉียบขาดขนาดนี้ มาถึงภายในกันบ้างว่า Vanderhall Venice Speedster มีอะไรซ่อนอยู่ในรูปทรงสุดเท่ Vanderhall Venice Speedster ใช้เครื่องยนต์ 1.4 4 Cyl Turbo 180
ตอนนี้ทั่วโลกคงไม่มีใครไม่รู้จักท่าดีใจนิ้วลวงตาของ Dele Alli สุดยอดกองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงทีมชาติอังกฤษจากค่ายไก่เดือยทอง Tottenham Hotspur แม้คุณจะไม่ใช่คอฟุตบอลและไม่รู้จัก Dele Alli ด้วยซ้ำ แต่เชื่อว่าภายในชั่วไม่กี่วันนี้คุณต้องเคยลองทำท่านี้เลียนแบบเขาโดยไม่รู้ตัวแน่นอน ซึ่งด้วยความที่ท่าดีใจนี่เหมือนเป็นกึ่งมายากลนิด ๆ จึงทำให้มัน Viral ไปทั่วทั้งโลกในเวลาอันรวดเร็ว แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่าดีใจของนักฟุตบอลกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งโลก เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีนักเตะหลายคนคิดค้นท่าดีใจเจ๋ง ๆ ขึ้นมาและหลายต่อหลายท่าก็ยังอยู่ในความทรงจำของเรารวมถึงแฟนบอลทั่วโลก จนเรียกว่าเป็นตำนานของวงการลูกหนังก็ว่าได้ ส่วนจะมีท่าพิสดารแบบไหนมาจากนักเตะคนใดกันบ้างไปดูกันเลย Bebeto and Friends หนึ่งในสิ่งที่น่าจดจำที่สุดในฟุตบอลโลกปี 1994 คือท่าดีใจของ Bebeto พร้อมเพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลอีก 2 คนอย่าง Romario และ Mazinho เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติบราซิลและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และในนาทีที่ 63 หลัง Bebeto ยิงประตูได้เขาก็วิ่งมาหน้าอัฒจันทร์คนดูพร้อมดีใจด้วยท่าอุ้มเด็กก่อนที่เพื่อนอีก 2 คนจะตามมาสมทบ ความหมายที่ซ่อนอยู่ในท่าดีใจนี้คือภรรยาของ Bebeto กำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาตั้งใจจะมอบให้ลูกก่อนจะลืมตาดูโลก เป็นท่าดีใจแสนอบอุ่นก่อนที่ต่อมาใครที่กำลังจะมีลูกเมื่อยิงประตูได้ก็มักจะดีใจท่านี้กันแทบทุกคน Cristiano Ronaldo นักเตะซูเปอร์สตาร์ของโลกคนปัจจุบันผู้มาพร้อมท่าดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นท่าที่แปลกพิสดารอะไรแต่ความเท่นี่ต้องให้คะแนนเต็ม จึงไม่แปลกที่ท่านี้จะแพร่กระจายไปทั่วโลก รวมถึงนักเตะทีมชาติไทยหลายคนก็เคยดีใจสไตล์ CR7 กันมาแล้ว Bafetimbi
“Carr Fire” หรือสถานการณ์ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถือเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างหายนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง โดยขณะนี้เปลวเพลิงได้โหมพัดทำลายล้างสร้างความเสียหายกินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 100,000 เอเคอร์ บ้านเรือนอีกกว่า 1,500 หลัง ส่งผลให้มีผู้อพยพและไร้ที่อยู่หลายหมื่นราย เป็นภัยธรรมชาติขาประจำย่านนี้ก็ไม่ผิด ซึ่งเราแค่เห็นภาพก็พอจะจินตนาการความเซ็งของผู้คนแถวนี้ได้ หลายองค์กรยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติครั้งนี้ แต่ที่น่าสนใจเพราะหนึ่งในนั้นคือ Vans แบรนด์สเก็ตบอร์ดขวัญใจผู้ชายทั่วโลก ซึ่งได้รับคำสั่งตรงจากทายาทของผู้ก่อตั้ง Steve Van Doren ให้จัดรถบรรทุกแพ็คของเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ ประกอบไปด้วยรองเท้า 2,500 คู่ ร่วมทั้งเสื้อผ้าและหมวกรวมกันกว่า 2,000 ชิ้น โดยพี่ Steve ของเราได้ฝากข้อความไปด้วยว่า “เราคิดว่าผู้คนคือหัวใจหลักของบริษัท เรามีร้านค้ามากมายอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ดังนั้นเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น เราก็ต้องรีบตอบแทนชุมชนกลับคืนไปทันที” สาเหตุหลักมาจากความผูกพันระหว่าง Vans และผู้คนใน Cali ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน ย้อนไปตั้งแต่วันที่พี่น้อง Van Dolen ตัดสินใจตั้งฐานการผลิตแห่งแรกขึ้นในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงในปี 1977 พวกเขาใช้แคลิฟอร์เนียเป็นแหล่งตีตลาดแข่งขันกับ Converse และ Adidas โดยใช้ Skateboard God ในยุคแรกอย่าง Tony Alva
UFC 229 ยังคงสร้างปรากฏการณ์พีคขึ้นเรื่อย ๆ และคู่ชิงแชมป์รุ่น Lightweight ระหว่าง Conor McGregor และ Khabib Nurmagomedov ซึ่งได้ประกาศวันฟาดปากกันแน่นอนแล้วคือวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ล่าสุดหลังจากเริ่มเปิดจำหน่ายตั๋วในวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็กลายเป็นอีกวาระประวัติศาสตร์จารึกเพราะตั๋วขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น! แถมทำท่าว่าราคาของตั๋วใน Second Market กำลังพุ่งทะยานขึ้นสูงปรี๊ดอีกด้วย ดูเหมือนการกลับคืนสังเวียนในรอบ 2 ปีของจอมเกรียน Conor Mcgregor ( 24 – 21 – 3 ) และแชมป์เจ้าของสถิติไร้พ่ายอย่าง Khabib Nurmagomedov ( 26 – 0 ) จะเป็นนัดที่แฟน ๆ จำนวนมากต่างก็ตั้งตารอ ทำให้ตอนนี้ตั๋วโซนปกติ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 205 ดอลลาร์สหรัฐได้ไต่ขึ้นไปแตะที่ 631 ดอลลาร์แล้ว ส่วน RINGSIDE ก็ทะยานขึ้นหลัก 45,000 ดอลลาร์จากราคาเริ่ม 10,000 ดอลลาร์ ดังนั้นหากเทียบมูลค่ารวม
ย้อนไปตั้งแต่สมัยท่านเปาบุ้นจิ้น เมื่อหนุ่ม ๆ อย่างเรามีหนวดเคราดกดำ มันก็จะชอบลูบคลำ (หนวดเครา) เป็นธรรมดา ก็มันทั้งภูมิใจกับหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความเป็นชาย แหม่ อุตส่าห์ไว้ตั้งนาน คนอื่นอยากได้กลับไม่มี เราจึงคอยเล็ม คอยแต่ง กว่าจะหล่อแบบนี้ ยิ่งเวลาคิดงานยิ่งลูบเคราเพลิน แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมจากความเคยชินเหล่านี้ อาจทำให้สิ่งสกปรกไม่พึงประสงค์มาอาศัยอยู่ในดงเคราของเราก็เป็นได้ !? และเราคงไม่อยากเอามันไปสัมผัสกับหน้าสวย ๆ ของสาวที่เรารักแน่นอน จากการทดลองและวิจัยของ Manchester Metropolitan University และ Fragrance Direct ระบุว่า หนวดเคราของหนุ่มบางรายอาจปนเปื้อน ฟีคัลโคลิฟอร์ม (Fecal Coliform) แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น ซึ่งจะถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ โดยผลการวิจัยทั้งในชายที่ไว้เครายาว, สั้น และเพิ่งขึ้นเป็นตอ ๆ พบว่า มีชายถึง 47% ของกลุ่มที่ถูกทดสอบ มีแบคทีเรียฟีคัลปนเปื้อนอยู่ที่หนวดเครา โดยเฉพาะในหนวดเคราสั้น ๆ ! ทั้งที่มีการบอกให้ล้างหน้าทำความสะอาดหนวดเคราในวันที่ทดสอบมาแล้วก็ตาม แล้วมันมาอยู่ที่เคราของเราได้ไง ? ด้วยความสงสัยจึงเกิดเป็นการสังเกตและการทดลองในหลายตัวแปรมากขึ้น แล้วก็พบว่าสาเหตุนี่มันคือการตายน้ำตื้นชัด ๆ เพราะ 60% ของกลุ่มตัวอย่างไม่ได้ล้างมือหลังจากเสร็จภารกิจหนักในห้องน้ำ ทำให้มีเชื้อโรคติดมือมา
ในช่วงกระแส Netflix มาแรงอย่างนี้ หลายคนคงได้ใช้เวลาไปกับมันแทบจะทั้งวันหยุด ลามไปถึงเวลาว่างในวันธรรมดา จนสามารถรีวิวได้ทั้งเว็บแล้วว่าซีรี่ส์เรื่องไหนดีเรื่องไหนเด็ด หรือบางคนอาจดูเอาเป็นเอาตายตั้งแต่ก่อน Netflix จะบูมในไทยแล้ว การันตีช่วงโมงนอนอันน้อยนิดของพวกเขาได้เลย ว่าจะต้องแปรผกผันกับความสนุกของซีรี่ส์อย่างแน่นอน แต่ดูมาเยอะขนาดนี้แล้ว อาจจะรู้สึกเบื่อ ๆ กับซีรี่ส์บ้างแล้ว ลองขยับมาเป็น Non-Fiction อย่างสารคดีกันดูบ้างดีกว่า UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 สารคดีดูง่าย ได้สาระ ที่สามารถหาดูได้บน Netflix สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากจะเพิ่มความประเทืองปัญญาให้ตัวเอง Explained เป็นสารคดีที่อยากแนะนำมาก ๆ เพราะเหมาะสำหรับคนเวลาน้อย ตอนละไม่ถึงชั่วโมง แถมยังอธิบายง่าย ๆ ไม่ใช้คำพูดในหนังสือหรือคำพูดที่ดูจะวกไปวนมาจนชวนเวียนหัว แถมเสียงบรรยายยังฟังง่ายจนอาจจะเปิดทิ้งไว้ไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วยแบบได้สาระ เอาจริง ๆ มันเหมือนการมาเล่าอะไรสักอย่างในรูปแบบที่ย่อยมาแล้ว ให้มันออกมาง่าย สำเร็จรูปทั้งเนื้อหาและเวลา (แถมยังสนุกด้วย) เนื้อหาของมันมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ กีฬา กัญชา รอยสัก อาหาร DNA และอีกสารพัดอย่างที่จะมาเสิร์ฟสาระดี ๆ ให้เราในทุกสัปดาห์ ใครที่อยากเติมความรู้ง่าย ๆ รอบตัวสามารถติดตามรายการนี้ได้เลย
เวลาคือสิ่งที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวินาทีที่เรากำลังอ่านข้อความนี้อยู่ก็ตาม เราถือว่ามันเป็นอีกสิ่งที่มีค่าจนเราต้องใช้ชีวิตบนกลไกของมัน ทุกเช้าที่ต้องวิ่งขึ้นรถให้เข้างานได้ทันเวลา ทุกวันที่ต้องเร่งสปีดตัวเองให้ทำงานได้ทันเวลา ทุกวันที่ต้องรีบกลับให้ไว เพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนที่มากขึ้นอีกสักสิบนาทีหรือครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ความสงสัยใคร่รู้ที่ดูจะยุกยิกอยู่ในตัวมนุษย์เรามาแสนนาน ทำให้เรามีเครื่องจับเวลา เพราะอยากเก็บสถิติที่แม่นยำมากกว่าการนับในใจ เราคงคุ้นเคยกับเครื่องจับเวลาทั้งในโทรศัพท์ วงการกีฬา หรือแม้แต่การทำอาหาร ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของการใช้งาน แต่สำหรับการนั่งทำงานออฟฟิศแม้จะดูเหมือนไม่ต้องแข่งกับเวลา แต่ถ้าหากเราอยากจะ Improve ตัวเองล่ะ UNLOCKMEN ขอแนะนำของเล่นเจ๋ง ๆ อย่าง Tiller ที่จะมาช่วยเก็บสถิติแบบมีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะ Keep Time To Tracking ในแต่ละวันที่ทำงาน ลองมาจับเวลากันหน่อยมั้ยว่าใช้เวลาไปกับมันเท่าไหร่สำหรับงานแต่ละชิ้น วันนี้อาจจะช้ากว่าเมื่อวาน หรือพรุ่งนี้อาจจะไวกว่าวันนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ลองเก็บสถิติแล้วนำมันไปพัฒนาตัวเองหรือใช้ประโยชน์จากมันก็ยังได้ Tiller มันคือ Time Tracker นั่นแหละ แต่ความเจ๋งคือ เราสามารถ Customize ได้ตามเราต้องการ เก็บสถิติของรายการนี้ในแต่ละวัน มีกราฟเปรียบเทียบให้ดู การใช้งานก็แสนง่าย จะ Split แต่ละครั้งก็เคาะมันเบา ๆ เหมือนเวลาเราเคาะแป้นคีย์บอร์ดนั่นแหละ โดยผู้ออกแบบแนะนำให้วางใกล้ ๆ เมาส์ และเคาะมันทุกครั้งที่งานเสร็จ
พอเข้าสู่ครึ่งหลังของปี ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นฤกษ์ดีที่คู่รักจะลั่นระฆังวิวาห์กัน และก็มีหลายคนที่จะต้องไปร่วมงานแต่งงานเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลของคนในครอบครัว มิตรสหาย เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม ยิ่งถ้าได้รับหน้าที่เป็น “เพื่อนเจ้าบ่าว” ด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกมีเกียรติ แต่มันก็มีความท้าทายอยู่ไม่เบา ความท้าทายที่ว่านี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่การซักซ้อมพิธีการ การแต่งตัว และการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการ speech หรือการกล่าวคำอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ก็นะ เพื่อนซี้หรือญาติพี่น้องคนสนิทของคุณแต่งงานทั้งที มันก็ต้องมีศิลปะแห่งการ speech กันหน่อย งานจะได้ไม่กร่อยตอนที่คุณขึ้นกล่าว คำถามก็คือ เราจะกล่าวให้มันเจ๋งได้อย่างไร ? มันควรจะสุดฮา หรือซาบซึ่งกันแน่ ? ควรจะพูดถึงเจ้าบ่าวอย่างเดียว หรือควรกล่าวถึงเจ้าสาวด้วย ? ต้องร่ายยาวแค่ไหน ? ต้องเมาก่อนมั้ย ? และเรื่องที่จะเล่ามันจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่หัวใจจะวายหรือเปล่า ? คำตอบของคำถามเหล่านี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอนำมาฝากหนุ่ม ๆ กัน จากคำแนะนำของ Kye Harman อดีตคนวงการบันเทิงที่ผันตัวมาเป็น Managing Director ของ Simply The Best Man
Spoil Alert! เนื้อหาในบทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาในภาพยนตร์บางส่วน หลังจากที่มีทั้ง Trailer และบทสัมภาษณ์มากมายออกมายั่วความอยากตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดเราก็ได้ดู Girls Don’t Cry ภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกของวง BNK48 เสียที และเมื่อดูจบเราอยากเขียนถึงมันทันทีเพราะไม่อยากให้อารมณ์ที่ยังตกค้างอยู่ในใจหายไปเสียก่อน Coming of Age อย่างที่เต๋อ นวพล ผู้กำกับบอกไว้ Girls Don’t Cry เป็นสารคดีที่ไม่ว่าคุณจะเป็นโอตะหรือรู้จักเด็กกลุ่มนี้เพียงผิวเผินก็สามารถเข้าถึงสารคดีเรื่องนี้ได้ เพราะนี่ไม่ใช่สารคดีตามติดชีวิตไอดอลแต่คือสารคดี Coming of Age ของวัยรุ่น 26 คนโดยมีคำว่า BNK48 เป็นเพียงฉากหลังเท่านั้น เพียงแต่ Coming of Age ของทั้ง 26 คนนั้นออกจะแตกต่างจากวัยรุ่นทั่ว ๆ ไปสักหน่อย เพราะการก้าวผ่านวัยครั้งนี้ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งราวคลื่นลูกใหญ่ ทุกคนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในเวลาแค่ปีกว่า ๆ ต้องเผชิญกับทุกมิติอารมณ์ที่วัยรุ่นคนหนึ่งจะรับไหว นวพลยังคงร้ายกาจเสมอในการเลือกวิธีการนำเสนอเรื่องราว เขาเล่าเรื่องผ่านมุมมองของทั้ง 26 คนต่อเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่พวกเธอเผชิญทำให้คนดูอย่างเราได้รับรู้ว่าแต่ละคนมีความคิดและทัศคติอย่างไร เป็นการสำรวจตัวตนที่ทำให้คนดูตระหนักว่าพวกเธอแต่ละคนคือ ‘มนุษย์’ คนหนึ่ง ไม่ใช่แค่กลุ่มก้อนที่เรียกว่า ‘ไอดอล’ โรงเรียนแห่งความฝันเลขที่
เคยซักถุงเท้าแล้วถุงเท้าหายไปเหลือข้างเดียวไหม? นอกจากมนุษย์ต่างดาว การสร้างพีระมิด หรือการตั้งหินสโตนเฮนจ์ ฯลฯ ที่เราตามหาความจริงกันไม่เจอแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ยังคงเป็นปริศนาหลุมดำกันจนถึงทุกวันนี้คือการซักถุงเท้า! ที่พวกผู้ชายอย่างเรายังคงทำหน้าเหวอทุกครั้งที่เครื่องเตือนให้ตาก เพราะจากที่เราโยนถุงเท้าเข้าเครื่องไปทั้งสองข้าง สุดท้ายเมื่อเครื่องทำงานเรียบร้อยหยิบผ้าออกมากลับเหลือถุงเท้าเพียงข้างเดียว! ถึงแม้จะนี่จะเป็นเรื่องที่ดูเล็ก ๆ แต่พอเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ เงินที่เสียไปรวม ๆ แล้วก็กลายเป็นเงินก้อนใหญ่เข้าเหมือนกัน ประเด็นนี้โดนแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์แล้วไปเข้าหูของแบรนด์ถุงเท้าอย่าง “Bombas” เข้า บริษัทจึงออกแคมเปญใหม่ไว้แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ลูกค้าโดยตั้งชื่อแคมเปญว่า “Laundry Back Guarantee” หรือการรับประกันว่าไม่ว่าจะซักที่ไหนก็ตามมันจะกลับมาให้ครบสองข้างแน่นอน และนี่คือตัวอย่างโฆษณาของแคมเปญนี้ ครบสองข้างได้ยังไงถ้ามันหาย ? คำตอบคือเขาอนุญาตให้ลูกค้าแจ้งกลับมาได้ถ้าทำหายระหว่างซัก โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิเปลี่ยนเจ้าถุงเท้าโสดไร้คู่เป็นคู่ใหม่ได้ฟรีทันที แต่มันก็มีเงื่อนไขเล็ก ๆ ให้ทำตาม ได้แก่ ส่งเปลี่ยนได้เพียงคู่เดียว ถุงเท้าที่หายต้องแจ้งภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ซื้อ และที่สำคัญคือมีเวลาจำกัดการซื้อในแคมเปญนี้ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น งานนี้ถ้าให้วิเคราะห์เรามองว่ามันเป็นความฉลาดของแบรนด์ถุงเท้าแบรนด์นี้ เพราะเขาสามารถเรียกยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นได้แน่นอนทั้งจากสตอรี่ปริศนาการหายไปของถุงเท้า กระตุ้นความรู้สึกท้าทายให้ลูกค้าอยากจะซื้อมาใช้ในช่วงนี้เพื่อให้มันรีบ ๆ หายไป แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือการสร้าง awareness หรือการจดจำให้แบรนด์อยู่ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้า เรียกว่าเป็นการสร้าง CRM (Customer Relationship Management) แบบเนียน ๆ ก็ว่าได้